ใครจะไปนึกว่า Geely ค่ายรถจีนที่เป็นบริษัทต้นสังกัดของ Volvo Cars ในปัจจุบันจะเล่นกลยุทธ์แบรนด์อย่างเย็นชา
เพราะ Geely เล่นวางกลยุทธ์โละเครื่องยนต์เบนซินออกจากสายการผลิตให้หมด ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนเครื่องยนต์ปกติแทบเป็น
ขุมพลังที่ต้นทุนต่ำที่สุด อีกทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ Geely ก็ยังไม่แข็งแกร่งจนถึงขั้นมีสาวกรอซื้อขนาดนั้น แล้วทำไมพวก
เขาถึงกล้าเสี่ยงพลิกแบรนด์กันขนาดนี้

นั่นเป็นเพราะว่า Geely Auto ได้ประกาศตนอย่างเป็นทางการแล้วว่า Geely จะวางตำแหน่งแบรนด์ใหม่ภายใต้กลยุทธ์
‘Blue Geely’ ถึงขั้นเตรียมลดบทบาทเครื่องยนต์สันดาปภายในเพื่อมุ่งไปสู่เทคโนโลยีพลังงานใหม่ทั้งการขายและพัฒนา
ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, Hybrid และ Plug-in Hybrid นับตั้งแต่ปี 2016 จนไปถึงสิ้นปี 2020

และนั่นก็ทำให้ Geely Auto กลายเป็นผู้นำแบรนด์รถยนต์ไฮเทคโนโลยีในจีนแน่นอน

ยุทธศาสตร์ Blue Geely ประกอบไปด้วย
1.Geely จะตอบสนองนโยบายรัฐบาลจีนจากข้อบังคับให้รถยนต์ใหม่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2020 จะต้องมีอัตราสิ้นเปลือง
เชื้อเพลิงเหลือเพียงแค่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
2.Geely ใจป้ำเตรียมตั้งราคาขายรถ Plug-in Hybrid ในราคาเท่ากับเครื่องสันดาปภายในปกติ!!
3.ยอดขายรถ Geely 90% จะต้องเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ภายในปี 2020 ประกอบไปด้วยรถไฟฟ้า,รถ Hybrid และ
Plug-in Hybrid ที่สร้างขึ้นบนพื้นตัวถังปัจจุบัน 2 แบบและชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม 1 แบบ
4.Geely มุ่งหน้าพัฒนาวิจัยพลังงานไฮโดรเจนและรังเชื้อเพลิงโลหะ
5.Geely จะกลายเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานใหม่, วัสดุน้ำหนักเบา, เทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบการเชื่อมต่อ

พื้นตัวถัง Geely FE และ PE คือพื้นตัวถังที่รองรับการพัฒนารถยนต์ระดับกลางและไฮเอนด์ขึ้นไป รถยนต์พลังงานใหม่คัน
แรกที่สร้างขึ้นบนพื้นตัวถังกลุ่มนี้คือ Geely Emgrand EV รถไฟฟ้าที่มีระยะทางวิ่งสูงสุด 330 กิโลเมตรต่อการชาร์จประจุ
ครั้งเดียว และถือเป็นรถไฟฟ้าคันแรกในรถยนต์ตระกูล Emgrand ตระกูลรถที่ขายดีที่สุดของ Geely

แผนการต่อมา Geely จะพัฒนารถไฟฟ้าให้มีระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตรแต่กินไฟแค่เพียง 8 กิโลวัตต์ชั่วโมงบนพื้น
ตัวถัง Geely FE ภายในปี 2018

สำหรับชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม CMA ที่พัฒนาร่วมกับ Volvo ก็จะติดตั้งขุมพลัง Plug-in Hybrid
เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ บวกมอเตอร์ไฟฟ้าจับคู่เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียงแค่ 2 ลิตร
ต่อ 100 กิโลเมตร และรุ่นปี 2018 ก็จะประหยัดน้ำมัน 1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและรุ่นปี 2020 ก็จะประหยัดน้ำมัน 1.5
ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร

ด้วยความทุ่มเทของ Geely ที่พัฒนาระบบ Hybrid มานานถึง 10 ปีก็ทำให้ Geely สามารถพัฒนาระบบ Hybrid ใน
รูปแบบของตัวเองได้จนสามารถนำระบบ Hybrid มาติดตั้งลงในรถยนต์กลุ่ม A segment และ A+ segment ได้ภายใน
ปี 2016 ซึ่งจะช่วยให้รถประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 40% ในเฟสแรก เฟสสองที่เปิดตัวในปี 2018 ก็จะประหยัดกว่าเดิม 45%
และเฟสสุดท้ายในปี 2020 ก็จะประหยัดน้ำมันขึ้นกว่าเดิมอีก 50%

ภายใต้กลยุทธ์ Blue Geely ช่วยทำให้ลดการใช้น้ำมันโลกถึง 4.2 ล้านตันและช่วยลดมลพิษ CO2 ถึง 3 ล้านตัน

นับเป็นกลยุทธ์ก้าวกระโดดของ Geely ที่ช่วยทำให้แบรนด์ของ Geely แข็งแกร่งและมีภาพจำอย่างรวดเร็วที่สุด

ที่มา : Geely