ความสำเร็จของ Volvo XC90 โฉมใหม่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเป็นเรื่องของความตั้งใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นตัว
ของตัวเองไม่พึ่งพาใครอีกต่อไป และเชื่อว่าความสำเร็จดังกล่าวก็น่าจะถ่ายทอดลงสู่พื้นตัวถังน้องใหม่ล่าสุดด้วยเช่นกัน

2015_10_16_Volvo_CMA

Volvo เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม CMA พื้นตัวถังสำหรับรถคอมแพคท์ระดับ
C-Segment ใหม่ล่าสุดที่ Volvo ร่วมพัฒนากับ Geely จะมีส่วนร่วมในการผลักดันยอดขาย Volvo สูงถึงปีละ 800,000
คันได้ในอนาคต

พื้นตัวถัง CMA รองรับการพัฒนารถคอมแพคท์พรีเมี่ยมทั้งขุมพลังเครื่องยนต์ปกติและ Plug-in Hybrid สนับสนุนข้อมูล
บันเทิง, สภาวะอากาศ, เครือข่ายและระบบความปลอดภัยที่จะนำพาเป้าหมายสูงสุดคือ จะไม่มีใครเสียชีวิตและบาดเจ็บ
จากรถยนต์ Volvo ภายในปี 2020

2015_10_16_Volvo_CMA_2

Dr Peter Mertens รองประธานอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาแห่ง Volvo Cars Group กล่าวว่า พื้นตัวถัง CMA มีความ
ยืดหยุ่นต่อนักวิศวกรรมและนักออกแบบ ให้สามารถปรับแต่งหรือแก้ไขได้ตามใจ ทั้งการจัดสรรฟีเจอร์ตัวรถได้ในขณะที่
สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ได้, สามารถนำเสนอระบบความปลอดภัยระดับโลกและระบบเชื่อมต่อภายในรถได้
เหมือนกับพื้นตัวถัง SPA

CMA เป็นพื้นตัวถังที่เปลี่ยนวิถี Volvo ไม่ว่าจะออกรถรูปแบบใด, จะมีเครื่องยนต์หรือระบบไฟฟ้าแบบใดหรือมีเทคโนโลยี
ที่ซับซ้อนมาก ก็สามารถผลิตขึ้นโดยใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมเดียวกัน ช่วยให้เกิดความคุ้มทุนในกระบวนการผลิตและ
เพิ่มความคล่องตัวในไลน์ผลิตได้

พื้นตัวถัง CMA รองรับขุมพลังที่คิดเผื่อถึงอนาคต นั่นก็คือขุมพลัง Plug-in Hybrid แบบใหม่สองรุ่น ออกแบบใหม่สำหรับ
สถาปัตยกรรม CMA โดยเฉพาะ

2015_10_16_Volvo

พร้อมกันนี้ Volvo ยังได้เผยแผนการทำตลาดรถยนต์ Plug-in Hybrid และรถไฟฟ้า 100% อย่างจริงจัง

กลยุทธ์การพัฒนาขุมพลัง Plug-in Hybrid จะเน้นหนักไปที่ตระกูล 90-Series และ 60-Series ที่สร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง
SPA นั่นก็คือขุมพลัง T8 Twin Engine Plug-in Hybrid ขับเคลื่อนสี่ล้อที่เริ่มติดตั้งใน XC90 ใหม่และจะเตรียมติดตั้งลง
ใน S90 ใหม่

สำหรับ Volvo 40-Series โฉมต่อไปก็จะมีทั้ง Plug-in Hybrid และรถไฟฟ้าเต็มคัน

เพียงแต่รถไฟฟ้า 100% จาก Volvo จะเตรียมทำตลาดในปี 2019 โดยจะระบุวันทำตลาดในภายหลัง

ที่มา : Worldcarfans 1/2