วันนี้รถขนาดเล็กสุดของ Volvo คงหนีไม่พ้น V40 ที่มีไซส์เทียบเคียงได้กับ Ford Focus หรือเทียบเท่ากับรถ C-Segment
มากที่สุด แต่ทว่า Volvo V40 มันยังเป็นรถยนต์ที่อยู่ในยุคใช้งานวิศวกรรมร่วมกับ Ford Motor อยู่ เลยทำ
ให้ Volvo และ Geely บริษัทแม่ต้นสังกัดต้องออกแรงฮึดพัฒนางานวิศวกรรมใหม่ให้เป็นของตนเองทั้งหมด เพราะ
Volvo ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับ Ford อีกต่อไป

2015_08_10_Volvo

ปณิธานสำคัญของ Volvo และ Geely คือการพัฒนาพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมสำหรับรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment ถึง
ขั้นก่อตั้งศูนย์พัฒนา China Euro Vehicle Technology (CEVT) ทำการอยู่ในประเทศสวีเดนโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งคู่
คาดหวังว่าจะมีพื้นตัวถัง C-Platform ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยรองรับการพัฒนารถยนต์ในกลุ่ม C-Segment เป็นของตัวเอง
กับเขาเสียที

ผู้ที่รับผิดชอบและดูแลโปรเจคท์การพัฒนาพื้นตัวถัง C-Segment Platform ก็คือ Mats Fagerhag อดีตนักวิศวกรผู้เคย
รับผิดชอบการพัฒนาพื้นตัวถัง Phoenix ให้แก่ Saab

ศูนย์พัฒนา China Euro Vehicle Technology (CEVT) คลอบคลุมการพัฒนางานวิศวกรรมรถยนต์ใหม่ทั้งคัน อันได้แก่
โครงสร้างสถาปัตยกรรมพื้นฐาน, ขุมพลังและระบบส่งกำลัง, งานวิศวกรรมโครงสร้างตัวถังและการออกแบบตัวถัง
ภายนอก

รถยนต์กลุ่มแรกที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานงานวิศวกรรม C-Segment ใหม่ในครั้งนี้ก็มี Geely C-Car สำหรับเจาะตลาด
ยุโรป, ตัวตายตัวแทน Volvo V40 และ XC40 ที่จะเป็นเอสยูวีคอมแพคท์ขนานแท้

ศูนย์พัฒนา China Euro Vehicle Technology (CEVT) ใช้เทคนิคการพัฒนาแบบ Modular Technology อัน
ประกอบไปด้วยแนวคิดสองหลักใหญ่ หลักประการแรก คือส่วนงานวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐาน สามารถขยายความยาว,
ความกว้าง, ความสูง, ฐานล้อและขนาดล้อได้ หลักประการที่สองคือสามารถรองรับการพัฒนารถยนต์หลากราคา ชุด
อุปกรณ์ทั้งหลายสามารถผลิตให้มีประสิทธิภาพตามระดับแตกต่างกันได้

ยกตัวอย่างโมดูลส่วนหน้า (รวมถึงระบบกันสะเทือนหน้าและระบบพวงมาลัย) สามารถปรับแต่งตามระดับสมรรถนะของ
ตัวรถให้แตกต่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับควบคุม, การเก็บเสียงรบกวนหรือการสั่นสะเทือน

อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือจะมีการพัฒนาระบบความทำความอบอุ่นและระบายอากาศแบบใหม่ซึ่งเครื่องปรับอากาศแบบใหม่
ถูกพัฒนาให้รองรับขีดความสามารถจนสามารถผลิตได้ทั้งแบบปุ่มควบคุมธรรมดาและแบบอัตโนมัติได้ในตัว

CEVT ได้วางแผนให้พื้นตัวถังแบบใหม่นี้สามารถรองรับงานพัฒนารถยนต์หลากแบบตัวถังได้ และสามารถบรรจุ
เทคโนโลยีใหม่ได้เร็วและง่ายกว่าเดิม

นอกจากนี้ CEVT ยังวางแผนการพัฒนาพื้นตัวถังใหม่สามารถรองรับระบบ Hybrid ที่มาในฟอร์มระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (ส่ง
กำลังจากมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ไปยังเพลาล้อคู่หลังได้) และมีความเป็นไปได้ว่าสามารถติดตั้งเพลาล้อหลังไฟฟ้าซึ่งเคย
เป็นรูปแบบระบบขับเคลื่อนที่นำมาจากพื้นตัวถัง Saab Phoenix นั่นเอง

รถยนต์รุ่นใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นตัวถังใหม่นี้ต้องรอไปเลยอีก 2 ปีครึ่ง

ที่มา : Autocar