ในปัจจุบัน Seat กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ในเครือ Volkswagen Group ที่สามารถกลับมาสร้างยอดขายและผลกำไรที่มั่นคงได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้พื้นตัวถัง MQB ที่มีประสิทธิภาพสูง คุณภาพยอดเยี่ยม เมื่อผนวกกับดีไซน์ตัวรถที่ดูสปอร์ตปราดเปรียวที่สุดในบรรดาแบรนด์รถยนต์ระดับเดียวกันแล้ว ก็ยิ่งทำให้ Seat กลับมามีที่ยืนชัดเจนอีกครั้ง นั่นคือ แบรนด์รถยนต์ที่มีความสปอร์ต
Volkswagen Group เคยเชื่อว่าแบรนด์รถยนต์ Seat สามารถต่อกรได้กับ Alfa Romeo ได้ จนมีความพยายามที่จะปรับภาพลักษณ์ไปในทางสปอร์ตเย้ายวนใจ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในด้านภาพลักษณ์อยู่ดี เพราะ Seat ยังไม่มีเสน่ห์เย้ายวนใจและฐานลูกค้าที่จงรักภักดีมากพอในแบบที่ Alfa Romeo เป็น
แต่ล่าสุด Herbert Diess ประธานกลุ่มคนปัจจุบัน ก็ยังเชื่อว่า Seat จะสามารถจับกลุ่มลูกค้าวัยเยาว์ที่ไม่เคยสัมผัสอดีตอันรุ่งเรืองของ Alfa Romeo ได้ ซึ่งเขาอธิบายว่า Seat เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีความอ่อนวัย, ความสปอร์ต, ความน่าลุ่มหลงและอารมณ์เร้าใจ มีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่มากกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มลูกค้า Seat มีอายุน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ในเครือ Volkswagen Group จนเขาเชื่อว่า Seat ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก
Diess วัย 60 ปี ยืนยันว่า ในตลาดยุโรป แบรนด์ Seat เป็นที่รู้จักมากกว่า Alfa Romeo ในสายตาของคนรุ่นใหม่ แต่ในสายตาของคนรุ่นพวกเขา Alfa Romeo ถือเป็นแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมมาก นับตั้งแต่ที่พวกเขาจำความได้จนกระทั่ง Alfa Romeo อยู่ในสภาวะขาลง และเมื่อถามคนรุ่นใหม่ที่มีอายุเฉลี่ย 25-35 ปี ก็พบว่า พวกเขาไม่รู้ว่า Alfa Romeo มันเป็นยังไงเสียด้วยซ้ำ
ในปัจจุบัน แบรนด์รถยนต์ระดับแมสในเครือ Volkswagen ต่างมี Positiong ของแบรนด์ที่แตกต่างกัน Seat จะเป็นรถยนต์ที่มีความสปอร์ต, Skoda จะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มอบความคุ้มค่า มีคุณภาพระดับเยอรมัน และ Volkswagen จะเป็นแบรนด์รถยนต์ของประชาชน ที่มียอดขายเป็นจำนวนมาก
Luca de Meo ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Seat ได้นำประสบการณ์จากการทำงานใน Alfa Romeo 2 ปี มาพัฒนากลยุทธ์ใหม่ให้แก่ Seat ด้วยการแยกแบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูง Cupra ต่างหากจาก Seat เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในหมู่ผู้ชื่นชอบการขับขี่เป็นชีวิตจิตใจ
เมื่อย้อนกลับไปยังอดีตจะพบว่า Ferdinand Piëch อดีตประธาน Volkswagen Group ลุ่มหลงแบรนด์รถยนต์ Alfa Romeo อย่างหนักจนถึงขั้นเจรจา “ซื้อ” แบรนด์รถหรูจากอ้อมอก Fiat Chrysler Automobiles กันเลยทีเดียว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธไป
แบรนด์ Alfa Romeo ถือกำเนิดขึ้นในปี 1910 โดยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นแบรนด์รถยนต์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ในสนามแข่ง Motorsport หลายสมัย เมื่อเทียบกับ Seat ที่เพิ่งกำเนิดในปี 1950 และไม่ได้กำเนิดมาเพื่อเป็นรถสปอร์ตระดับพรีเมี่ยมเหมือน Alfa Romeo ในช่วงแรกเป็นการนำรถ Fiat มาพัฒนาต่อยอดเท่านั้น ก่อนที่จะโดน Volkswagen Group ซื้อหุ้นไปเมื่อปี 1986 เพื่อเป็นรากฐานการผลิตที่มีค่าแรงถูก และซื้อเพื่อหวังขยายตลาดรถยนต์ในประเทศสเปนที่ถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง
ต้องจับตาดูว่า คนรุ่นใหม่เขาลืม Alfa Romeo ไปจริง ๆ อย่างที่ Herbert Diess ยืนยันหรือไม่?
ที่มา : Automotive News