ช่วงเวลานี้บริษัทรถต่าง ๆ พากันเร่งพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้ากันทั้งนั้น
และหนึ่งในตัวตั้งตัวตีสำคัญที่จะทำให้รถยนต์ยุคใหม่กลายเป็นรถไฟฟ้านั่นก็คือค่าย
Volkswagen และการมาของเขาไม่ธรรมดาเพราะดูเหมือนว่าจะหมายมั่นปั้นมือให้รถ
ไฟฟ้าคันใหม่นี้กลายเป็นรถของประชาชนต่อจาก Beetle และ Golf

2016_09_14_VW

Jürgen Stackmann ผู้บริหารการตลาดและฝ่ายขายประจำ Volkswagen สำนักงานใหญ่
เผยว่า พวกเขามองว่ารถไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญในการวางตำแหน่งของ Volkswagen ในอนาคต
Volkswagen เชื่อว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดรถไฟฟ้าในอนาคต พวกเขาเห็น
ความท้าทายที่จะทำในช่วงสั้น ๆ นี้

รถไฟฟ้าจากแบรนด์ Volkswagen จะถูกสร้างขึ้นบนชุดโครงสร้างพื้นตังถังและงาน
วิศวกรรม MEB มีระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จประจุไฟฟ้าให้เต็มเพียงครั้งเดียวถึง
400 – 600 กิโลเมตร สำหรับรถไฟฟ้าที่มีระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตรก็จะเหมาะ
สำหรับรถแบบ A-Segment และ B-Segment ถ้าหากเป็นรุ่นที่มีระยะทางวิ่งสูงสุด
600 กิโลเมตรก็จะเหมาะสำหรับเอสยูวีขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
ซึ่งก็ถือว่ามันได้สร้างมาตรฐานเหนือกว่า Tesla และรถไฟฟ้าทุกคันในโลกนี้

Volkswagen ให้คำมั่นสัญญาว่ารถไฟฟ้าคันแรก (Dedicated EV) จะเริ่มผลิตในปี
2019 ซึ่งมั่นใจมากว่าต้นทุนการพัฒนาและการผลิตเมื่อถึงเวลาจะถูกลงอย่างมีนัยยะ
สำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับวันนี้ และนั่นหมายความว่าราคาจำหน่ายของรถไฟฟ้า
Volkswagen จะถูกลงจนมีราคาเทียบเท่ากับรถยนต์เครื่องเบนซินและดีเซล

2016_09_14_VW_2

และอีกไม่นาน Volkswagen ก็จะเผยโฉมรถต้นแบบไฟฟ้าแฮทช์แบคในงาน Paris
Motorshow 2016 ที่มีความเป็นไปได้ว่ารถคันนี้จะขึ้นสายการผลิตสำหรับจำหน่าย
ทั่วโลกในปี 2020 ต่อจาก Budd-E รถตู้ไฟฟ้าที่จะผลิตในปี 2019

Christian Senger ผู้บริหารฝ่ายพัฒนารถไฟฟ้าได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรถไฟฟ้า
แฮทช์แบคคันใหม่ที่น่าจะกลายเป็น Hero Model เคียงคู่กับ Volkswagen Golf
ว่า สิ่งประดิษฐ์นี้ไม่ใช่รถและไม่ใช่รถไฟฟ้าเหมือนรถไฟฟ้าอื่น ๆ เพราะมันนำการ
เชื่อมต่อระบบนิเวศน์ (Eco System) จากสมาร์ทโฟนมาประยุกต์ใช้

รถแฮทช์แบคไฟฟ้าคันนี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับ Volkswagen Golf ที่บรรจุนวัต
กรรมใหม่ VW ID รหัสลับส่วนตัวที่ผู้ขับขี่รถไฟฟ้า VW จะได้รับ เพื่อนำรหัสนี้ไป
ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือรถคันอื่น ๆ เพื่ออนุญาตให้มีการตั้งค่าการใช้งาน
ส่วนบุคคล และมีจุดเด่นสำคัญคือภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสุด ๆ

เป้าหมายของ Volkswagen ในอนาคตคือการยึดครองตลาดรถไฟฟ้าด้วยยอด
ขาย 1 ล้านคันภายในปี 2025 และจะขยายแนวการพัฒนาไฟฟ้าไปยังรถครอสโอเวอร์
, เอสยูวี, ซีดานหรูและรถสปอร์ตอีกด้วย

ที่มา : AutoExpress/Autocar 1,2