รถยนต์ขายดีในตลาดยุโรปส่วนใหญ่ล้วนเป็นตัวถังแฮทช์แบค และรองลงมาคงหนีไม่
พ้นตัวถังแบบสเตชั่นแวกอนที่มอบความอเนกประสงค์ภายใต้ความมั่นใจในการขับขี่
และยิ่งนานวันรถแบบแวกอนก็ยิ่งมีรูปลักษณ์สวยงามโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น คงเพราะว่า
ผู้ผลิตรถยนต์มองเห็นว่ารถแบบนี้ยังมีช่องว่างสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตอันหลาก
หลาย
ล่าสุด GM ยุโรปได้แนะนำ Vauxhall/Opel Insignia Sports Tourer ตัวถังสปอร์ต
แวกอนตามหลัง Insignia Grand Sport ตัวถังซีดานคูเป้สำหรับเจาะกลุ่มผู้รักรถยนต์
D-Segment
ที่น่าทึ่งคือ Vauxhall/Opel Insignia Sports Tourer มีน้ำหนักตัวถังเบากว่า Insignia
Wagon เดิมถึง 200 กิโลกรัม แถมยังมีเนื้อที่ห้องสัมภาระเพิ่มขึ้นถึง 100 ลิตรอีกด้วย
หากพับเบาะหลังทั้งหมด (สามารถพับได้ 40/20/40) จะมีพื้นที่บรรจุสัมภาระมากถึง
1,638 ลิตร
Vauxhall/Opel Insignia Sports Tourer ยังคงถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นตัวถัง E2XX
Platform ร่วมกับ Chevrolet Malibu รุ่นใหม่ จุดที่แตกต่างจาก Insignia Grand
Sport คงหนีไม่พ้นงานออกแบบครึ่งคันหลังที่ดูสปอร์ตกว่า Insignia Wagon รุ่นเดิมมาก ๆ
จุดเด่นด้านการออกแบบคงหนีไม่พ้นดีไซน์ครึ่งคันหลังที่มีกลิ่นของรถยนต์ Saab อยู่ไม่น้อย
ที่ดูแปลกตามากสุดคือการกรุขอบโครเมี่ยมจากกรอบกระจกประตูหน้าลากยาวไปจรดไฟท้าย
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่า Insignia Wagon รุ่นเดิมพอสมควร มีเนื้อที่เหนือศีรษะ
เพิ่มขึ้น 31 มิลลิเมตร, มีเนื้อที่หัวไหล่ขยายขึ้น 25 มิลลิเมตร นั่นเป็นเพราะมีการขยายขนาด
ตัวถังและความยาวฐานล้อ
จุดเด่นอีกประการคือ Vauxhall/Opel Insignia Sports Tourer จะมีเวอร์ชันขับเคลื่อน
สี่ล้อตลอดเวลาพร้อม Torque Vectoring จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
สเปคเครื่องยนต์ไม่ได้ระบุว่าจะติดตั้งขุมพลังใด แต่คาดว่าน่าจะยกขุมพลังทั้งหมดมาจาก
Insignia Grand Sport
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ GM ยุโรปตั้งใจพัฒนา Vauxhall/Opel Insignia Sports Tourer
โดดเด่นมากขนาดนี้ก็เพราะว่าตัวถังแวกอนมีสัดส่วนยอดขายถึง 20% ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
และมีแนวโน้มว่าน่าจะตั้งราคารถรุ่นใหม่ใกล้เคียงกับ Insignia Wagon รุ่นเดิมเพื่อรักษายอดขาย
ที่มา : Autocar