นับว่าเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนไมโครชิพเพื่อนำมาเป็นชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ โดยยอดการผลิตรถยนต์ในสหราชอาณาจักรได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และจากตัวเลขที่สมาคมผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ หรือ Society of Motor Manufacturers and Traders (SMMT) เปิดเผยว่า ยอดของเดือนมกราคมปี 2022 ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว กว่า 1 ใน 5 ซึ่งคิดเป็นจำนวน 69,000 คัน และถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
ถึงแม้ว่ายอดการผลิตนี้จะแบ่งเป็นตลาดท้องถิ่นของสหราชอาณาจักรเพียง 11,500 คัน ซึ่งลดลงกว่า 30.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกัน ในปี 2021 ที่เหลือ 57,000 คันเป็นยอดของการส่งออก ที่ถึงแม้จะมีจำนวนไม่น้อยแต่ก็ยังถือว่าลดลงกว่า 17.5% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอัตราส่วนของรถยนต์ที่มีแบตเตอรี่เข้ามาเป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งทางสมาคมบอกว่า บรรดารถ Hybrid และ Plug-in Hybrid ที่ถูกผลิตในสหราชอาณาจักรจะคิดเป็นอัตราส่วน 27.4% ของยอดผลิตทั้งหมด
หากพิจารณาสาเหตุที่เป็นไปได้ของความสามารถในการผลิตที่ลดลงนั้น เกิดจากการปิดตัวลงของโรงงานบางแห่ง เนื่องจากมีการปรับแผนการผลิต นอกเหนือไปจากเรื่องการขาดแคลนชิพในชิ้นส่วนรถยนต์ และผลกระทบจาก COVID-19
ถึงกระนั้น Mike Hawes นายใหญ่ของ SMMT ยังคงเชื่อว่า บรรดาผู้ประกอบการในสหราชอาณาจักรจะยังคงสู้ต่อไป ท่ามกลางมรสุมอันโหดร้ายเช่นนี้ ในขณะเดียวกัน การสะท้อนปัญหาไปยังภาครัฐ เพื่อให้พิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านราคาพลังงานและมูลค่าการซื้อ-ขาย เพื่อให้สถานการณ์เช่นนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราต้องมีการวางแผนในระยะยาวเกี่ยวกับต้นทุนด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านพลังงาน
เพื่อให้รองรับการเปลี่ยนแปลง หากต้องการจะมีที่ยืนท่ามกลางการแข่งขันระดับสากล ทุกปัจจัยต้องได้รับการวิเคราะห์และผ่านการไตร่ตรองเพื่อรักษาการเติบโตที่ยั่งยืน ของการเป็นหนึ่งในผู้เล่นในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า บนพื้นฐานของความสามารถทางด้านทักษะและฝีมือของแรงงาน และการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: Motor1