Mitsubishi Xpander 1.5GT 4AT – 849,000 บาท
Likes: ช่วงล่างหนึบนุ่มกำลังดี เบาะนั่งสบายถ้าเทียบกับรถคลาสเดียวกัน การเก็บเสียงท่อนหน้าและล่างดี
Dislikes: อัตราเร่งช้ากว่าเพื่อนในคลาส 7 ที่นั่ง ภายในไม่ว้าวเท่าภายนอก
ถ้าไม่นับเรื่องรูปทรงที่มีความล้ำอนาคตกว่าคู่แข่ง องค์ประกอบอื่นๆของ Xpander นั้นค่อนข้างจะธรรมดา ทันทีที่คุณก้าวเข้ามานั่งข้างใน แดชบอร์ดก็ดูไม่ได้ล้ำสมัยไปกว่ารถ 7 ที่นั่งขนาดเล็กของคู่แข่งมากนัก เหมือนกับจะคัดลอกเอาปรัชญาภายในแบบ Simple มาจาก Mitsubishi Triton คุณจะไม่เห็นอะไรที่รู้สึกว้าว ไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย คุณได้พลาสติกและวัสดุที่ไม่ต่างอะไรจากอีโคคาร์แม้ว่าราคาของมันจะเริ่มต้นที่ 779,000 บาท และจบที่ 849,000 บาทในรุ่น GT ที่เราได้มาทดลองขับ
อุปกรณ์ต่างๆก็ไม่ได้เด่น ชุดเครื่องเสียงหน้าจอขนาดไม่โตเท่าไหร่ ให้คุณภาพเสียงในระดับที่คนที่ไม่เรื่องมากกับเสียงความถี่ต่างๆอย่างผมยังรู้สึกคันหูอยากหาเรื่องเปลี่ยน Front Unit หรือเปลี่ยนลำโพง กล้องมองหลัง..มีมาให้ แต่ได้ความละเอียดที่อาจทำให้แยกหมากับแมวในยามโพล้เพล้ได้ยาก ระบบปรับอากาศเป็นปุ่มหมุนธรรมดา ไม่มีฟังก์ชั่น AUTO ไม่มีจอแสดงอุณหภูมิ แต่ยังดีว่ามี Heater มาช่วยอุ่นตัวเวลาวิ่งขึ้นเขาหน้าหนาวได้บ้าง หน้าปัดและมาตรวัด ไม่มีแสงสีอะไรพิเศษ แต่อ่านค่าง่ายเหลือบมองผ่านๆก็ดูรู้เรื่อง
เรื่องความสบายในห้องโดยสารล่ะ? ก็ยังไม่ได้ถือว่าเด่นกว่าเพื่อนอย่างชัดเจน ต้องช่างสังเกตพอสมควรถึงจะรู้สึกในความต่าง เบาะหน้านั่งแล้วสบายหายห่วง ความรู้สึกเวลานั่งเกือบจะเหมือน Triton และสบายกว่าเบาะหน้าของพวก Honda ชัดเจน (ทั้งนี้สรีระร่างที่ต่างกันวัยที่ต่างกันอาจจะทำให้เรามองเรื่องความสบายในมุมที่ต่างกัน..เผื่อใจไว้บ้าง) พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศ อันนี้ก็เป็นเรื่องดี เบาะแถวสองนุ่มสบายกำลังเหมาะถ้าคุณเปรียบกับรถประเภท/ราคาใกล้เคียงกัน ไม่ใช่เที่ยวไปเทียบกับพวกรถราคาล้านขึ้น ปรับเลื่อนหน้าหลังได้ แต่เอนได้ไม่มากเท่า Honda BR-V ส่วนเบาะแถวสามนั้น กรุณาเอาไว้ให้เด็กนั่งเพราะขนาดตัวเบาะมันเตี้ย ทำมาเผื่อให้สามารถพับราบไปกับพื้นรถได้ และไม่ได้เน้นความสบายขนาดนั้น
ถ้าคุณเป็นคนประเภทเปิดๆ เคาะๆ แกะๆรถตามโชว์รูมแล้วซื้อเลย คุณอาจจะไม่ได้รับรู้ข้อดีของ Xpander ซึ่งไปซ่อนอยู่ที่ช่วงล่างและการเก็บเสียง สำหรับรถประเภทนี้ ตัวโย่งขนาดนี้และแทร็คล้อก็ไม่ได้กว้าง Xpander ให้ประสิทธิภาพการทรงตัวที่ดีจนน่าแปลกใจ ช่วงล่างหน้าหนึบกำลังเหมาะ ในขณะที่ด้านหลังก็ไม่ได้ดีดเด้งจนขาดความสบาย แม่ยายนั่งก็คงไม่บ่น ยกเว้นเสียแต่ว่าปกติแม่ยายนั่งแต่ S-Class ก็อาจจะบ่นบ้าง พวงมาลัยเบามากที่ความเร็วต่ำ คล่องตัวในเมือง แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น น้ำหนักต้านมือช่วงถือพวงมาลัยตรงก็จะมากขึ้นตาม พวงมาลัยไม่ไวเท่า Ertiga แต่อยู่ในระดับที่คล่องพอ และไม่ถึงกับเกร็งเมื่อยเวลาต้องขับเร็วๆ
เมื่อเทียบกับรถระดับ/ประเภทเดียวกัน Xpander เป็นรถที่สามารถวิ่งทางไกลได้อย่างผ่อนคลายที่สุด อีกทั้งตัวรถกับการเก็บเสียงก็ทำได้ดีกว่า และให้ความรู้สึกหนาแน่นกว่า Honda, Toyota และ Suzuki
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการปิคนิคคาร์ที่แรงและเร็ว เค้นพลังกันแบบสุดๆจากเครื่อง 1.5 ลิตร Xpander คงไม่ใช่คำตอบที่เหมาะนัก จะมีก็แต่ Honda Freed รุ่นเก่าจากหลายปีก่อนนั่นล่ะที่พอจะวิ่งเป็นเพื่อนกันได้ ขนาด Ertiga 1.4 ลิตรที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ยังเร่งได้ไวกว่านิดๆ ยิ่งเป็นช่วงวิ่งขึ้นเขา Xpander ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนคนที่ทำงานที่เดิมมาสิบปีชีวิตชีวีไม่ก้าวหน้า หมดแล้วซึ่ง Creativity และ Passion ในขณะที่ Honda BR-V เกียร์ CVT เป็นรถที่ใช้ความรู้สึกจับแล้วเหมือนอืด แต่เอานาฬิกาจับจริงๆแล้วไว ยิ่งเวลาวิ่งขึ้นทางชัน เสียงลากรอบจะดังเหมือนรถน่าสงสาร แต่เข็มความเร็วก็ยังไปได้ไว เหมือนคนที่ขี้บ่น แต่ก็ยังทำงานให้เห็น
ถ้าใครคิดจะช่วยยกยออัตราเร่งให้ Xpander ด้วยการเถียงผมว่าไม่อืด กดไป 160 ถ่ายรูปอัปโหลด แล้วมาเถียงผมว่าไม่อืด กรุณาอย่าทำตัวให้เด็กม.ต้นเห็นแล้วขำเลยครับ นาฬิกามีก็เอามาใช้ให้ดูหน่อย หรือมีไว้แค่ใส่อวดสาว?
แต่ถึงแม้มันจะเป็นรถที่เร่งไม่ค่อยไป ..เมื่อผมมองจากมุมของความเป็นปิคนิคคาร์..คุณต้องการอะไรจากมัน และอะไรคือสิ่งสำคัญที่ลูกค้าตัวจริง (ไม่เอาลูกค้าคีย์บอร์ด บอกจะซื้อมาร้อยคันแล้วไม่เคยซื้อจริง) เขาต้องการจากรถแบบนี้ ..มันคือความรู้สึกสบาย ผ่อนคลายเวลาขับ มันคือห้องโดยสารที่มีความอเนกประสงค์ นั่ง 5 คนบวกสัมภาระเยอะๆ หรือนั่ง 7 คนวิ่งไปกินข้าวที่สัตหีบแล้วกลับได้บ้าง มีอุปกรณ์ความปลอดภัยในระดับที่เหมาะสมกับราคา ส่วนเรื่องอัตราเร่งนั้นแค่ขอให้ขึ้นเขาขึ้นดอยได้บ้าง ไม่ได้เน้นจะซิ่ง
ซึ่งหากมองแบบนี้ Xpander จะเป็นตัวเลือกที่เด่น ต้องขอบคุณคนที่เซ็ตช่วงล่าง พวงมาลัย เลือกรูปทรงของเบาะ และวัสดุซับเสียงนั่นแหละครับ นานๆทีจะเจอรถอินโดฯที่ทำคะแนนเรื่องเหล่านี้ได้ดี และมันคือสิ่งที่ทำให้ผมยอมอภัยเรื่องอัตราเร่งได้
—///—