Suzuki Ertiga GX 695,000THB
Likes: 7 ที่นั่ง ที่นั่งละแสน, อัตราเร่งดีกว่ารุ่นเดิม, ช่วงล่างนุ่มขึ้น เบาะแถวสามเอนได้แล้ว อเนกประสงค์มากขึ้น
Dislikes: อุปกรณ์หลายอย่างไม่มีให้เพราะต้องทำราคา ไม่มีกล้องหลัง วิ่งทางไกลใช้ความเร็ว ยังไม่หนึบเท่า Xpander
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Ertiga รุ่นใหม่ มีแนวทางคล้ายกับสิ่งที่เราพบใน All New Swift ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่เพียงการใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ HEARTECT Platform ที่ทำให้ตัวรถมีความทนต่อแรงบิดแรงเค้นสูงขึ้น แต่ยังมีพัฒนาการในด้านอื่น
สิ่งแรกที่ชอบคือการขยายความจุเครื่องยนต์จาก 1.4 ไปเป็น 1.5 ลิตร ทำให้มีอัตราเร่งดีกว่าเดิมตั้งแต่ช่วงออกตัว ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากว่าคู่แข่งทุกรุ่น (ยกเว้น Honda BR-V/Mobilio) ส่วนช่วงเร่งแซงนั้น ก็ไวกว่าเดิมแต่ในภาพรวมจะแพ้พลังม้าและเกียร์ CVT ของแฝด Hondaในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองประหยัดขึ้นกว่ารุ่นเดิม 5-8% เป็นพัฒนาการบวกแก่ลูกค้าทั้งสองทาง
นอกจากนี้ Ertiga ใหม่ยังเซ็ตพวงมาลัยมาได้ลงตัวมากขึ้น มีน้ำหนักหน่วงกลางเวลาขับทางไกลที่แน่นกระชับ และลดทอนความไวแบบเวอร์ๆของรถรุ่นเก่าลง ส่งผลให้เดินทางไกลไม่ต้องเกร็งมือมากเท่ารุ่นเดิม ช่วงล่างที่ปรับเปลี่ยนมาใหม่ ซับแรงกระแทกที่ความเร็วต่ำได้ดีขึ้น แต่ถ้าหากเจอถนนขรุขระแบบปูดโตขอบชัน ความตึงตังของมันก็จะยังคล้ายรุ่นเก่าอยู่บ้าง ที่อาจต้องทำใจคือช่วงล่างที่เอาใจตลาดครอบครัวมากขึ้น ความสนุกมั่นใจเวลาเข้าโค้งจึงลดลง ดังนั้นเมื่อถึงคราเดินทางไกล ช่วงล่างของ Ertiga จึงยังไม่แน่นหนึบมั่นใจเท่า Xpander
ที่สำคัญคือเมื่อวิ่งเกิน 110 ขึ้นไปแล้วมีลมปะทะข้าง บอดี้ของ Ertiga ใหม่จะโยกไปตามลมมากกว่ารุ่นเก่า และมากกว่าคู่แข่ง ทั้งนี้หากไม่มีลมตีก็จะนิ่งไปจนถึงประมาณ 130 ค่อยเริ่มหวิว
ส่วนภายในของรถนั้น มีสไตล์การตกแต่งที่ค่อนข้างแหวกแนว ยุคนี้สมัยนี้มีแต่คนเล่นพลาสติกสีเงิน ไม่ก็วัสดุคาร์บอน แต่ Ertiga กลับนำลายไม้เงาๆ แบบที่เคยฮิตในยุคข้ามศตวรรษมาใช้ มันทำให้นึกถึงการพาลูกหลานกลับไปเยี่ยมบ้านคุณปู่ต่างจังหวัดแล้วเจอโต๊ะไม้แท้ขนาดใหญ่ที่มีวิทยุธานินทร์ตั้งอยู่กลางโต๊ะ มันอบอุ่นแบบแปลกๆ และไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบ (ถ้าภายในแบ่งโทนสีเป็น ดำ/ลายไม้/เบาะเบจ อาจจะดูสวยหรูกว่านี้)
เบาะนั่งมาสไตล์นุ่มนั่งแล้วฟีบลงมากกว่าเบาะของคู่แข่งคันอื่นแต่ให้ความสบายพอเหมาะสำหรับการขับในที่รถติด เข็มขัดนิรภัยหน้าปรับความสูงได้นั้นเคยมีในรุ่นเก่า แต่ตัวนี้ถอดออก ในรถทดสอบคันของเรานั้น จะมีมือโหนที่หลังคาหน้าตาโบราณๆแห้งๆเหมือนถอดมาจากรถเพื่อการพาณิชย์ (ปัจจุบันทราบจากหลายท่านว่ามันถูกเปลี่ยนเป็นชิ้นงานที่ดูดีขึ้นแล้ว)
เบาะนั่งแถวสอง ให้การโดยสารที่สบายดีอยู่สำหรับคนตัวใหญ่ และสำหรับรถราคาระดับนี้ สามารถปรับเอนและปรับเลื่อนหน้า/ถอยหลังได้ เบาะแถวสามในรุ่นเดิมที่เอนไม่ได้ ในรุ่นใหม่นี้สามารถเอนได้แล้ว ที่สำคัญ หุ่น 5XL อย่างผม ถ้าอยากจะนั่งบนเบาะแถวสาม ก็สามารถทำได้ และสบายพอให้นั่งเดินทางแบบ 1-2 ชั่วโมงได้ด้วย ขอเพียงแค่ผู้โดยสารบนเบาะแถวสองจะยอมเลื่อนฐานเบาะไปข้างหน้าให้ผมได้มีที่เหยียดแข้งขาบ้าง ส่วนระบบปรับอากาศก็ทำความเย็นได้ทั่วถึง เย็นเร็วสู้แดดดี
อุปกรณ์ของ Ertiga ที่ให้มานั้น ไม่ฟู่ฟ่าเท่ารถของคู่แข่ง ระบบเครื่องเสียงเป็นแบบธรรมดา ไม่มีจอ ไม่มีกล้องถอยหลัง ไม่มีไล่ฝ้าบนกระจกหลัง ซึ่งต่อให้ต้องทำราคาให้ต่ำกว่า 700,000 ก็ยังควรที่จะมีไล่ฝ้าหลัง และ/หรือเครื่องเสียงแบบมีจอสำหรับเตรียมต่อกล้องถอยเป็นออพชั่นได้ ไม่มี Cruise Control ไม่มีแอร์ออโต้ ไม่มีกระจกแต่งหน้าตรงที่บังแดดฝั่งคนขับ ไม่มีมาตรวัด Water Temp บนหน้าปัด แต่กลับมีที่วางแก้วแบบมีช่องเป่าลมเย็นมาให้
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทคนิคการตัดและจัดอุปกรณ์ที่ส่งผลให้ Ertiga GX สามารถทำราคาได้ถูก ประสบความสำเร็จจริงในโลกของคนทั่วไปที่ไม่ได้อ่านสื่อรถออนไลน์ คุณได้รถที่สามารถบรรทุก 7 คน เดินทางไปต่างจังหวัดวิ่ง 120-130 พอได้ แอร์เย็นทั่วถึง มีระบบกันไถลและควบคุมการทรงตัวมาให้ รูปแบบของรถเอื้อประโยชน์ต่อครอบครัวชนชั้นกลางที่มีสมาชิกในบ้านเยอะ แต่ไม่ประสงค์จะใช้รถ SUV ขนาดโตๆ และแน่นอน ต้องไม่ใช่คนบ้าออพชั่น
หรืออีกนัยหนึ่ง Ertiga ก็อาจเป็นรถที่คุณสามีซึ่งขับ SUV อยู่แล้ว ซื้อมาเป็นรถคันที่สองของบ้านให้ภรรยาขับไปรับลูก ไปช้อปปิ้ง ขนของแต่งบ้านได้ เพราะขนาดตัวที่ไม่คับซอย ขับง่ายเบาสบาย สวิตช์ต่างๆไม่ค่อยยุ่งเหยิง เพราะมันไม่ค่อยมีอุปกรณ์อะไรให้เล่นอยู่แล้ว ต่อภาษีประจำปีก็ไม่แพงแบบรถเครื่องโต หน้าตาของรถแม้จะไม่ดุดันดูลุยและล้ำแบบ Xpander แต่ก็ยังมีความเป็นวัยรุ่นเหลือ อารมณ์คล้ายสาวอายุ 28-29 ถ้าสั่งออพชั่นกระจังหน้าสปอร์ตสักหน่อย เปลี่ยนล้อให้เก๋ขึ้น น่าจะทำให้ดูเด็กลงได้อีก
เป็นที่มาของคำว่า Unlock your LIFE & Unchain your WIFE ซื้อให้ภรรยาไปเลยคันนึง ให้อิสระในการไปไหนมาไหนกับเธอและลูกๆโดยไม่ต้องมารอให้คุณทำตัวให้ว่างจากชีวิตที่ยุ่งเหยิง ตัวคุณเองก็จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย (แน่นอน ต้องเป็นสิ่งที่ภรรยาอนุมัติ) ติดอยู่ข้อเดียวคือ ถ้าจองตอนนี้ ถามเซลส์ก่อนนะครับ ว่าเมื่อไหร่ได้รถ ถ้ารอนาน บางทีคุณภรรยาก็ใจร้อน ทนไม่ไหวเหมือนกัน