วันที่ 7 มิถุนายน 2024 Suzuki Motor Corporation ประกาศยุติการผลิตรถยนต์ที่โรงงาน Suzuki Motor (Thailand) หรือ SMT ภายในสิ้นปี 2025 โดยการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนโครงสร้างการผลิตของ Suzuki ทั่วโลก

Suzuki ชี้แจงว่า “ตามที่รัฐบาลไทยได้มีการส่งเสริมการลงทุน EcoCar ตั้งแต่ปี 2007 ในเวลาดังกล่าว Suzuki ได้สมัครเข้าร่วมโครงการและก่อนตั้งโรงงาน SMT ขึ้นในปี 2011 ซึ่งหลังจากที่ได้รับการอนุมัติ จึงได้เริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โดยสามารถผลิตและส่งออกรถยนต์ได้มากถึง 60,000 คันต่อปี ทั้งนี้ ด้วยการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอนและการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทั่วโลก Suzuki ได้มีการพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระดับโลก จึงได้ตัดสินใจยุติการดำเนินการของโรงงาน SMT ภายในช่วงสิ้นปี 2025

แม้จะมีการยุติการดำเนินการของโรงงานในประเทศไทย แต่ Suzuki Motor (Thailand) จะยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในการจำหน่ายและบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยต่อไป ซึ่งจะมีการปรับแผนธุรกิจ เป็นการนำเข้ารถยนต์จากโรงงานในภูมิภาค ASEAN รวมถึงประเทศญี่ปุ่น และอินเดีย มาจำหน่ายแทน นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนและให้สอดคล้องในกํารบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของภาครัฐ บริษัทฯ จะมีการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ รวมถึง HEVs เข้าสู่ตลาดประเทศไทยในอนาคตด้วยเช่นกัน”

 

ภาพรวมของบริษัท Suzuki Motor (ประเทศไทย) จำกัด

  • ก่อตั้ง สิงหาคม พ.ศ. 2011
  • เริ่มทำการผลิต มีนาคม 2012
  • สถานที่ตั้ง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
  • รุ่นที่ทาการผลิต Swift, Ciaz และ Celerio
  • ยอดการผลิต (ปีงบประมาณ 2023) 7,579 คัน
  • ยอดขาย (ปีงบประมาณ 2023) 10,807 คัน (ภายในประเทศไทย) และ 1,272 คัน (ส่งออก)

 

สรุปสาระสำคัญจากจดหมายแจ้งการปรับกลยุทธ์ธุรกิจซูซูกิ เกี่ยวกับการยุติการดำเนินการผลิตที่โรงงานระยองในปี 2025

  • เป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจจากผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์เพื่อจำหน่าย เป็นผู้นำเข้าเพื่อจำหน่ายโดย และยังคงดำเนินธุรกิจการจำหน่ายที่มีโครงข่ายโชว์รูมและผู้จำหน่ายตามปกติ โดยจะปรับเปลี่ยนเป็นนำเข้ารถยนต์จากประเทศในกลุ่มที่ได้สิทธิพิเศษทางภาษีหรือจากต้นทางที่มีสินค้ารุ่นที่น่าสนใจต่อตลาดไทยเป็นหลัก เพราะตลาดไทยยังถือเป็นตลาดหลักของซูซูกิในภูมิภาคอาเซียน
  • รถยนต์ที่ผลิตผลิตภายใต้โครงการอีโคคาร์ ที่โรงงานระยองยังคงจะผลิตและทำตลาดในประเทศจนถึงภายในปี 2025 (มิใช่หยุดในสิ้นปีนี้แต่อย่างใด)
  • มีแผนนำเข้าและเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ใหม่ในปีหน้าอย่างต่อเนื่องตามแผนระยะยาว โดยเฉพาะรถยนต์ที่ตอบโจทย์ของนโยบายภาครัฐในการเป็นกลางทางคาร์บอนตามแผนที่เคยประกาศ กับผู้จำหน่ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา(เป็นไปตามแผน)
  • โชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั้งประเทศยังดำเนินธุรกิจตามปกติ และจะเร่งพัฒนาผู้จำหน่ายเพิ่มขึ้นในพื้นที่ว่างโดยเปิดแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ในปีหน้าเป็นต้นไป
  • ดูแลส่งเสริมผู้จำหน่ายที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ให้ดีที่สุดพร้อมช่วยเหลือสนับสนุน ในทุกๆด้านร่วมกันเพื่อให้เกิดผลประกอบการที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในสภาวะที่ตลาดรถยนต์ของประเทศชะลอตัวลงในปัจจุบัน
  • มีแผนการรองรับดูแลช่วยเหลือพนักงานภายหลังยุติการผลิตที่โรงงานระยองอย่างเหมาะสม
  • อะไหล่ จะยังมีหลังเลิกผลิต ตามสัญญากับ Part Maker ไปอีก 10 ปี ตามมาตรฐานเดียวกับรถยนต์ทุกยี่ห้อ ที่ผลิตในประเทศไทย ดังนั้น เรื่องอะไหล่ ยังคงวางใจได้