หลังจากที่ Subaru ได้เริ่มรุกหนักทางด้านรถไฮบริดและมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าแบบ Pure Battery EV ทำให้ต้องมีการสร้างความคุ้นชินในตลาดต่างๆที่ขาย ล่าสุดทาง Motor Image Enterprise (กลุ่มตันจง) หัวเรือใหญ่ที่ดูแลการจัดจำหน่ายแบรนด์ Subaru ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมนำรถ Subaru Forester e-Boxer Hybrid เข้าร่วมจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่สิงคโปร์ โดยมีแนวโน้มที่จะเปิดตลาดที่นั่นภายในเดือนกุมภาพันธ์

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ Forester e-Boxer

เครื่องยนต์ มีสเป็คเหมือนทางญี่ปุ่น โดยพลังขับเคลื่อนหลัก มาจากเครื่องยนต์เบนซิน รหัส FB20 แบบ 4 สูบ Boxer พร้อมหัวฉีด Direct Injection ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 13.6 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 65 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT Lineartronic ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ full-time

เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นเบนซินธรรมดาที่ขายอยู่ในไทย จะใช้ขุมพลัง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. Direct Injection กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Symmetrical All-Wheel Drive

เครื่องยนต์ของ Forester e-Boxer จะมีการปรับจูนการจ่ายน้ำมัน และ องศาจุดระเบิดใหม่เพื่อเน้นความประหยัดเชื้อเพลิง และ ลดมลภาวะ แต่จะชดเชยกำลังด้วยมอเตอร์ เพื่อให้มีแรงกลับขึ้นมาเท่ารุ่นเบนซินหรือมากกว่า

สรุปข้อมูลโดยสังเขป

  • ระบบไฮบริด เป็นแบบ Mild Hybrid ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็ก สามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าได้ไม่ไกล และ ยังต้องพึ่งพาเครื่องยนต์เป็นพระเอก เช่นเดียวกับรถไฮบริดทั่วไป เช่น C-HR Hybrid
  • ไม่ใช่ Hybrid แบบ Plug-in (ไม่มีจุดเสียบปลั๊ก)
  • มอเตอร์ขับเคลื่อน ต่ออยู่บนแกนเดียวกับเพลา ติดตั้งอยู่ช่วงท้ายเกียร์ CVT
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานตลอดเวลา เช่นเดียวกับรุ่นปกติ และ มี X-Mode ที่ทำงานแบบเดียวกัน
  • ถังน้ำมันถูกลดขนาดลงเหลือ 48 ลิตร ยางอะไหล่ถูกแทนที่ด้วยชุดซ่อมยาง
  • มีการตกแต่งภายนอก และ ภายใน เกือบเหมือนกับรุ่นปกติ และ มีอุปกรณ์มาตรฐานใกล้เคียงกัน ต่างกันที่หน้าปัด และจอ Information ซึ่งเพิ่มจอการทำงานของไฮบริดเข้าไป และเบาะหลังปรับเอนไม่ได้

สำหรับอนาคตการนำมาขายในประเทศไทยนั้น เป็นสิ่งที่น่าจับตามองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อฐานประกอบรถ Forester ในปัจจุบัน ย้ายจากมาเลย์มาอยู่ที่ประเทศไทย ประกอบกับตลาดพวงมาลัยขวาที่ออสเตรเลียนั้น ทางผู้บริหารมีความต้องการเปิดตัวรถ Subaru ที่เป็นไฮบริดให้ได้ 2 รุ่น ภายในปี 2020 ดังนั้น Forester e-Boxer จึงอาจเป็นคำตอบสำหรับทั้งภูมิภาคนี้

 


ชมคลิป e-Boxer ของ Forester เวอร์ชั่นญี่ปุ่นได้ที่นี่