ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีทองของค่ายลูกไก่ Subaru เพราะนอกจากในไทยจะ
ประสบความสำเร็จชนิดหักปากกาเซียนจากการนำเข้า Subaru XV มาขายจนส่งมอบรถกันไม่ทัน และในปัจจุบัน
ก็ยังมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ด้านตลาดโลก Subaru ก็กำลังขาขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกับตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีทั้ง BRZ
รถสปอร์ตขับหลังตีตลาดวัยรุ่น และ Outback, Forester กับ XV Crosstrek ตีตลาดครอบครัว จนทำให้
ทำลายสถิติยอดขายตนเองในทุกๆปี
วันนี้ Yasuyuki Yoshinaga ประธาน Fuji Heavy Industries ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Nihon Keizai
หนังสือพิมพ์ธุรกิจของญี่ปุ่น เกี่ยวกับทิศทางต่อไปในอนาคตของ Subaru ว่า
เนื่องในปัจจุบัน การพัฒนารถยนต์ต้องการรถยนต์ที่รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ Subaru วางแผน
ขยับภาพลักษณ์แบรนด์ให้สูงขึ้น เพื่อสอดรับกับการต้องทุ่มเม็ดเงินพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ ถ้าให้พูดกันตรงๆก็คือ
ในอนาคตอันใกล้ Subaru จะเพิ่มราคาขายรถยนต์ของตนให้สูงขึ้น จากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นั่นเอง
Yoshinaga ขยายต่อว่า การที่ต้องอัพภาพลักษณ์ Subaru ให้สูงขึ้น เพราะ Subaru เองเป็นบริษัทรถยนต์ขนาดเล็ก
ซึ่งยากต่อการหากำไรจากการขายรถยนต์มากกว่าแบรนด์ใหญ่อย่างพวก Big 3 เช่น Toyota, Honda หรือ Nissan
ทำให้การลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ต้องระมัดระวังมากกว่า และไม่ง่ายเหมือนพวกบริษัทใหญ่ที่มีความพร้อมด้านการเงินมากกว่า
การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากยังต้องการอยู่ในวงการรถยนต์ในอนาคต เพราะหน่วยรัฐ
ในภูมิภาคใหญ่ๆทั่วโลก เริ่มออกมาตรการควบคุมมลภาวะและผลักดันให้บริษัทรถยนต์ผลิตรถที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
โดย Subaru วางแผนว่าในปี 2018 จะต้องส่งรถยนต์ปลอดมลภาวะออกมาทำตลาด เพื่อสอดคล้องกับมาตรการ
ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย อันเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของ Subaru และนอกจากนี้ยังวางแผนส่งรถยนต์ Plug-in Hybrid
ออกมาทำตลาดพร้อมๆกันด้วย
ล่าสุด Subaru ได้เพิ่มงบประมาณการวิจัยและพัฒนาสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากเดิม 16% เป็น 780 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2015 ถึง 39% ทั้งนี้ เป็นเพราะเครื่องยนต์ลูกสูบนอน และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
มีผลต่อความประหยัดน้ำมันมาก จนทำให้ Subaru ต้องทุ่มเม็ดเงินพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำให้รถยนต์ Subaru
ยังคงโดดเด่นเรื่องขุมพลังและระบบขับเคลื่อน แต่ก็ยังสามารถประหยัดน้ำมันเป็นอันดับต้นๆได้
การขยับภาพลักษณ์แบรนด์ให้สูงขึ้น คาดว่าจะถูกทำขึ้นอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า อันเป็นปีที่ Subaru จะเริ่มเปิดตัวขุมพลัง
Boxer ใหม่ทั้งหมด พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดเชื้อเพลิงตรง (Direct Injection) และจะตามมาด้วยเทคโนโลยี
พักลูกสูบ เทคโนโลยี Lean-burn ภายในปี 2020
แม้อาจจะเป็นข่าวที่อาจฟังดูน่าตกใจ และไม่ธรรมดาที่ประธานบริษัทจะออกมายอมรับว่าต้องขึ้นราคาตัวรถแบบอ้อมๆ
แต่ถ้าหากต้องทำเพื่อคุณภาพตัวรถที่ดีขึ้น เชื่อว่าผู้บริโภคก็จะยังให้การต้อนรับดีเหมือนเคยครับ
ที่มา : Automotive News