ยิ่งนานวันตลาดรถยนต์ A-Segment ก็ยิ่งถดถอยลงทุกวัน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ทั่วโลกยังนิยมรถขนาด B-Segment ขึ้นไปมากกว่า อีกทั้ง A-Segment ยังเป็นกลุ่มรถที่ทำกำไรต่ำที่สุดอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบริษัทรถหลายค่ายถึงพากันถอดใจไม่ทำรถ A-Segment อีกต่อไป

ล่าสุด Peter Solc ผู้อำนวยการฝ่ายขายทั่วไประดับสากล Skoda เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังมุ่งหน้าไปสู่ตลาดเอสยูวีมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนการเพิ่มรุ่นรถเอสยูวีจาก 2 รุ่นในปัจจุบัน (Kodiaq และ Karoq) ให้กลายเป็น 4 รุ่นภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจนกลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการเติบโตของบริษัท

โดยเอสยูวีรุ่นใหม่อีก 2 คาดว่าจะเป็น B-SUV ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Fabia โฉมใหม่และเอสยูวีครอสโอเวอร์บั้นท้ายคูเป้ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับรถต้นแบบ Skoda Vision E Concept

เมื่อมีจำนวนรุ่นเยอะขนาดนั้น Skoda จึงจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มรถยนต์ที่จะต้องทำตลาดในอนาคต Skoda มองไม่เห็นความสำคัญของ Citigo โฉมใหม่เนื่องจากตลาด A-Segment อยู่ในช่วงหดตัว อีกทั้งผู้คนก็ยินดีที่จะซื้อเอสยูวีมากกว่ารถเล็ก ๆ แบบนี้

นอกจากนี้ Skoda ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อตลาดรถกระบะเช่นกัน เนื่องจาก Skoda มองไว้ว่ายอดขายอาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ถึงแม้ว่า Skoda สามารถหยิบรถกระบะ Volkswagen Amarok มาพัฒนาต่อยอดได้อย่างไม่ยากเย็นก็ตาม

อีกตลาดที่ Skoda สนใจคือตลาดรถยนต์ที่ติดตั้งขุมพลังไฟฟ้า โดย Skoda จะเตรียมเปิดตัวรถไฟฟ้าถึง 5 รุ่นภายในปี 2025 แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น Skoda จะเปิดตัว Superb และ Kodiaq Plug-in Hybrid กันก่อนในปี 2019

ที่มา : Motor1