เราขอบอกตรง ๆ เลยว่าทันทีที่เห็น Renault Talisman โฉมใหม่ซีดานใหญ่ที่มาแทนที่ Laguna และ Latitude ครั้งแรก
ก็บอกได้ทันทีเลยว่า มันเป็นความพยายามหรูหราที่มีกลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศสในขณะเดียวกันก็ได้กลิ่นจาระบีความเป็นรถ
เยอรมันที่ดูแข็งแกร่งไปในตัว เราเลยขอยกสโลแกนนี้เลยทีเดียวว่า “คุณค่าที่รถเยอรมันก็คู่ควรเช่นกัน” เสมือนเอากลิ่น,
รูปสัมผัสสไตล์ L’oreal ไปผสมกับแพคเกจกระปุกของ Nevia ยังไงยังงั้น
Renault Talisman คือความตั้งใจล่าสุดของ Renault ที่จะยกระดับ D-Segment จากที่เคยเป็นรถขนาดใหญ่ธรรมดา
ๆ ให้กลายเป็นรถขนาดใหญ่ที่มีความหรูหราเทียบชั้นกับรถฝั่งเยอรมันให้จงได้ และยังยกระดับความสนุกสนานในการขับขี่
ไปสู่อีกระดับหนึ่ง
Renault สร้างดีไซน์ Talisman ให้แตกต่างไปจากรถซีดาน D-Segment ทั่วไปด้วยสัดส่วนตัวถังที่ปราดเปรียวแต่ผสาน
ความสง่างามจนมีความยาว 4.85 เมตร กว้าง 1.87 เมตร ขณะเดียวกันมันก็มีเนื้อที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางด้วย
เช่นกัน แล้วก็พยายามผสานแนวคิดความสวยงามสากลที่หลายคนยอมรับมาปรุงแต่งในสไตล์ Renault DNA ที่ดูอบอุ่น
และเป็นมิตร
ด้านหน้าถูกดีไซน์อย่างมีความมั่นใจด้วยการออกแบบตามแบบเอกลักษณ์ Renault ยุคใหม่ที่มาพร้อมด้วยไฟ DRL LED
ทรง C-Shape ขนาดใหญ่กินเนื้อที่จนถึงกระจังหน้า, อลังการด้วยไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ
สัดส่วนตัวถังและเส้นสายด้านข้างแลดูจะได้กลิ่นรถยนต์จากเยอรมันสูงมาก ส่วนบั้นท้ายก็มีจุดเด่นสำคัญที่ไฟท้าย LED
ลากยาวที่ออกแบบการเปล่งแสงให้ดูเป็น 3 มิติ พร้อมกับปล่อยแสงอ่อน ๆ ในยามกลางวันเพื่อช่วยให้สะกดสายตาผู้คนได้
การตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ให้บรรยากาศอบอุ่น, เส้นสายสะอาดและดูมีคุณภาพ ถือเป็นการตีความการออกแบบ
ภายในห้องโดยสารที่คลาสสิกจากภายนอกสะท้อนเข้ามาสู่ภายในห้องโดยสาร บริเวณที่ใกล้เคียงกับผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารก็
มีการบุวัสดุนิ่มและมีการเลือกโทนสี, วัสดุออกแนวสุขุม ทุกสิ่งทุกอย่างออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์
นอกจากนี้ยังเน้นความกว้างขวางของห้องโดยสารและความสบายของเบาะนั่งเพื่อสร้างความสบายระดับสุดยอด
จุดขายสำคัญของ Renault Talisman ไม่ใช่เพียงความหรูหราดูมีคุณภาพเท่านั้น Renault ยังชูอีกด้วยว่า Talisman
เป็นรถที่มีความกว้างขวางของห้องโดยสารมากที่สุดในบรรดารถระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเนื้อที่ว่างหัวเข่าหลังที่กว้างถึง
262 มิลลิเมตรเลยทีเดียว
Renault Talisman มีที่เก็บของกระจุกกระจิกรวมกันมากกกว่า 25 ลิตรตามจุดต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร ได้แก่ กล่อง
เก็บของแผงแดชบอร์ด 8 ลิตร, ที่วางขวดน้ำประตู 4.6 ลิตร, ที่วางแก้วน้ำ, กล่องอเนกประสงค์ที่ท้าวแขน, หลุมวางสมาร์ท
โฟนหรือแก้วน้ำ
ห้องสัมภาระท้ายก็มีขนาดกว้างใหญ่ถึง 608 ลิตรเหมาะสำหรับครอบครัวพอดิบพอดี
ทันเทคโนโลยีด้วยหน้าจอสัมผัส R-Link2 (ยกเว้นรุ่น Entry Level ที่จะได้หน้าจอขนาด 4.2 นิ้วไร้ระบบ R-Link2 ที่
สามารถเล่นวิทยุและซีดีได้) มีทั้งแบบหน้าจอ Tablet ขนาด 7 นิ้วและรุ่น High-End ก็จะได้แบบ 8.7 นิ้วสมบูรณ์แบบซึ่ง
จะมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้
R-Link2 ทั้งเวอร์ชันหน้าจอ 7 นิ้วและ 8.7 นิ้วจะมีฟังก์ชัน หน้าจอ Sensitive สามารถจับย่อขยายเหมือนสมาร์ทโฟนโดย
ใช้สองนิ้วได้, สามารถแสดงผลแผนที่แบบเสมือนจริง (หน้าจอ 8.7 นิ้วจะแสดงแบบ 3 มิติ), รองรับการออกคำสั่งเสียง/
อ่านข้อความ, เชื่อมต่อ Bluetooth, สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศได้
นอกจากนี้ R-Links2 ยังสามารถจัดเก็บค่า Preset สำหรับผู้ขับขี่เฉพาะบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นภาษา, ตำแหน่งเบาะนั่ง/
กระจกมองข้าง, ปรับโทนสีแสงสว่าง Head-Up Display, สถานีวิทยุที่ชื่นชอบ, ระบบนำทาง, ไฟบรรยากาศห้องโดยสาร
เป็นต้น
ความสามารถพิเศษของ R-Link2 คือแอพพลิเคชั่นที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก R-Link Store เพื่อการสั่งงานฟังก์ชัน
บางอย่างภายในรถ อาทิ แอพพลิเคชั่น Michelin 3 ดาวสำหรับตรวจสอบร้านอาหาร/โรงแรม/ที่ท่องเที่ยว, ราคาน้ำมัน
หรือแอพฯ สำหรับอ่านอีเมล์ เป็นต้น
ทุกรุ่นมาพร้อมกับชุดเครื่องเสียง Bose ที่ให้คุณภาพเสียงระดับยอดเยี่ยมตลอดการเดินทาง
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็ติดตั้งสารพัดตามยุคสมัย อาทิ adaptive cruise control, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน มีระบบเตือน
สารพัด อาทิ ระบบเตือนรักษาระยะห่าง, ระบบจับป้ายจราจรเพื่อให้ผู้ขับขี่ชะลอรถ, ระบบเตือนจุดบอด และสุดท้ายระบบ
ช่วยเหลือต่าง ๆ อาทิ การแสดงผลข้อมูลผ่าน Head-Up Display, เบรกมือไฟฟ้า, ระบบปิดไฟสูงอัตโนมัติ, เปิดฝา
กระโปรงท้ายโดยไม่ต้องกดปุ่ม, กล้องส่องถอยหลังและระบบช่วยถอดจอดอัตโนมัติ
หัวใจสำคัญของ Renault Talisman คงหนีไม่พ้น “ความเพลิดเพลินในการขับขี่” โชคดีที่ชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงาน
วิศวกรรมร่วม CMF-CD เวอร์ชันรถเก๋งออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ, ตัวรถเตี้ยแบน, ตำแหน่งการขับขี่ต่ำเตี้ยจนเกือบจะ
ติดพื้นถนน รวมทั้งมีการปรับจูนแชสซีส์, เครื่องยนต์และบรรจุเทคโนโลยีจนเรียกรวมกันว่า Multi-Sense Technology
นวัตกรรมใหม่ที่ Renault นำเสนอคือ 4Control Technology ที่มาพร้อมกับแดมเปอร์ไฟฟ้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนใน
กลุ่มรถซีดานขนาดใหญ่ ช่วยทำให้การขับขี่น่าอภิรมย์ทั้งความสบายและความปลอดภัย จนกลายเป็นรถที่มีความ
คล่องตัวเมื่อวิ่งในเมือง. ให้ความเสถียรภาพเมื่อขับเข้าโค้ง
Multi-Sense จะประกอบไปด้วยระบบ 4Control, active damping, เครื่องยนต์, พวงมาลัยและ Efficient Dual
Clutch (EDC) ให้ประสานการขับขี่ที่แตกต่างกันในแต่ละสภาพถนน
ระบบอัจฉริยะนี้ก็มีให้เลือกทั้งโหมด Comfort, Sport, Eco และ Neutral รวมถึงโหมด Perso ที่ต้องการบุคลิกการขับขี่
ที่เป็นส่วนตัวจริง ๆ
Renault Talisman ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก ฉีดเชื้อเพลิงตรง เทอร์โบชาร์จ ได้แก่ Energy TCe 150 แรงม้า
และEnergy TCe 200 แรงม้าจับคู่เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ EDC 7 จังหวะ
สำหรับเครื่องดีเซลก็มีให้เลือก 3 เครื่องยนต์ได้แก่ Energy dCi 110 แรงม้าและ Energy dCi 130 แรงม้าจับคู่เกียร์
ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์คลัทช์คู่ 6 จังหวะ, Energy dCi 160 แรงม้าจับคู่เกียร์คลัทช์คู่ 6 จังหวะเท่านั้น
Renault Talisman ตัวถังซีดานเปิดตัวแล้ววันนี้ ส่วนตัวถังแวกอนก็เจอกันที่งาน Frankfurt Motorshow นี้ ส่วน
กำหนดวางจำหน่ายเจอกันแน่สิ้นปีนี้ที่ยุโรป
ที่มา : Autoblog