AAS Auto Service ผู้นำเข้า จำหน่าย และบริการ รถสปอร์ตปอร์เช อย่างเป็นทางการ เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
ประกาศ เปิดผ้าคลุม Porsche Panamera S Hybrid รถสปอร์ตซาลูน 4 ประตู ขุมพลัง Hybrid รุ่นแรกในรอบหลาย
ศตวรรษของพวกเขา หลังการเปิดตัวในงาน Geneva Auto Salon เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หมาดๆ สดๆ ร้อนๆ
พร้อมให้เศรษฐีทั้งหลาย จับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ด้วยค่าตัว 9,600,000 บาท

ที่ต้องบอกว่า เป็นรถยนต์ Hybrid พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า คันแรกในรอบศตวรรษของ Porsche นั่นก็เพราะว่า เมื่อ
111 ปี ก่อน Ferdinand Porsche บิดาผู้ก่อตั้ง Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG เมือง Stutgart ในปัจจุบัน ได้ทุ่มเท
ออกแบและพัฒนารถยนต์คันแรกของเขา ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ดุมล้อบังคับเลี้ยว รู้จัก
กันในชื่อ “Lohner-Porsche” ออกสู่สายตาชาวดลกเมื่อปี 1896 และเคยสร้างความฮือฮาในงานนิทรรศการโลก
World Expo ที่กรุงปารีส เมื่อปี 1900 มาแล้ว นั่นเอง

ความแตกต่างจาก Panamera รุ่นอื่น อยู่ที่ขุมพลัง ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องยนต์ บล็อก V6 อะลูมิเนียม อัลลอยด์
ทั้งเสื้อสูบและฝาสูบ DOHC 24 วาล์ว 2,995 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 84.5 x 89.0 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.5 : 1 เพลา
ลูกเบี้ยวไอดีแบบแปรผันจังหวะการทำงานต่อเนื่อง ระบบตั้งระยะห่างวาล์วไอดรอลิก ระบบอัดอากาศ SuperCharge
Direct Injection การส่งน้ำมันหล่อลื่นด้วยกำลังอัด พร้อมระบบหล่อลื่น Wet Sump น้ำมันเครื่อง 8.1 ลิตร มีระบบ
ฟอกไอเสียแบบ Catalytic Converter 3 ทาง มี Oxegen Sensor สองตัวสำหรับแถวลูกสูบแต่ละแถว การจ่ายแรงดัน
ไฟสูงแบบ Static ด้วยคอยล์จุดระเบิดแยก 6 ชุด พร้อมระบบ ตัดเชื้อเพลิง Variable Overrun ระบบติดและดับ
เครื่องยนต์อัตโนมัติ (auto start/stop) และมีโมดูล Hybrid พร้อมมอเตอร์กับระบบตัดการเชื่อมต่อ กำลังสูงสุด
245 กิโลวัตต์ (333 แรงม้า) ตั้งแต่ 5,500 รอบ ถึง 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 3,300 รอบ
ถึง 5,250 รอบ/นาที
เชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 34 กิโลวัตต์ (47 แรงม้า) ตั้งแต่ 1,150 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร
ที่ 1,150 รอบ/นาที เมื่อรวมทั้งระบบเข้าด้วยกันจะได้กำลังสูงสุด 279 กิโลวัตต์ (380 แรงม้า) ที่ 5,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด มากถึง 580 นิวตันเมตร ที่ 1,000 รอบต่อนาที อัตราส่วนขุมพลังต่อลิตร 111.3 แรงม้า/ลิตร รอบเครื่อง
สูงสุด 6,500 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จากโรงงานเคลมไว้ที่ 6.8 ลิตร / 100 กิโลเมตร ซึ่งถือได้ว่า เป็น ปอร์เช ที่ประหยัดน้ำมัน
มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เครื่องยนต์และระบบเกียร์ถูกเชื่อมเข้าด้วยกันกับ เพลาขับ 2 ส่วนขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบเกียร์ 8 จังหวะ Tiptronic

การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน จะปรากฎที่ทั้งจอแสดงผลตรงกลาง มาตรวัดความเร็ว เชื่อมต่อด้วยไฟแสดงสถานะ
“Ready” แสดงความพร้อมของระบบ Hybrid เพื่อการออกรถในโหมดพลังไฟฟ้าล้วนๆ เพียงอย่างเดียวขณะสตาร์ตรถ
ด้วยกุญแจ มิเตอร์กำลังไฟฟ้าที่ อยู่ทางด้านซ้ายเป็นจอแสดงกำลังแบบ Analogueให้ข้อมูลสถานะกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า
แบบ Real Time แก่ผู้ขับขี่ เข็มที่ชี้ไปทาง “Power” บ่งบอกระดับกำลังที่ต้องใช้ในการขับเคลื่อนรถด้วยไฟฟ้า และในขณะ
เร่งเครื่องเมื่อระบบขับเคลื่อนทั้งสองแบบทำงานร่วมกัน ซึ่งแตกต่างจากหน้าจอ “Charge” ที่แสดงกำลังเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
ของมอเตอร์ไฟฟ้าในระหว่างการฟื้นคืนพลังงานจากการเบรค
นอกจากนี้ จอ TFT บนแผงหน้าปัด ยังจะช่วยแสดงข้อมูลแก่ผู้ขับขี่ ทั้งข้อมูลสถานะของการชาร์ตแบตเตอรี่และกระแสการ
ไหลของพลังงานในแบบ Real Time โดยแสดงเป็นสัญลักษณ์ลูกศรตามทิศทางของกระแสการไหล ในรุ่นที่มีระบบ PCM
เป็นอุปกรณ์เสริม สถานะการขับขี่ทั้งหมดสามารถดูได้จากภาพรถบนหน้าจอ ที่บ่งบอกรายละเอียดระบบส่งกำลัง จอสถิติ
ใน PCM (จอแสดง Hybrid Zero Emission) จะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้ขับขี่ทราบระยะเวลาการขับขี่รวมเป็นเปอร์เซ็นต์
ขณะที่ขับเคลื่อนโดยไม่ใช้เครื่องยนต์เผาไหม้ และแสดงผลออกมาเป็นกราฟแท่ง

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าปีกนกคู่ผลิตจากอลูมิเนียม ระบบกันสะเทือน ด้านหลังแบบมัลติลิงก์ผลิตจาก
อลูมิเนียมที่มีโครงย่อยของแชสซี ระบบกันสะเทือนด้วยถุงลม ด้านหน้าและด้านหลังพร้อมปรับปริมาตรได้
ตามสั่ง โช้คแก๊สคู่ ด้านหน้าและด้านหลัง แบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมระบบปรับแรงหน่วง
ต่อเนื่อง (Porsche Active Suspension Management, PASM) ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดใดโหมดหนึ่ง
จากทั้งสามโหมด

AAS Auto Service ประกาศราคาขาย ของ Porsche panamera S Hybrid ไว้ที่ 9,600,000 บาท พร้อมการรับประกัน
และการดูแลด้านบริการซ่อมบำรุงอย่างดี สนใจติดต่อได้ที่โชว์รูม AAS ถนนวิภาวดีรังสิต
——————————–///———————————