ภาคต่อจาก Exclusive First Impression : รีวิว ทดลองขับ Toyota Camry Hybrid (TNGA) ใหม่ เช่าขับก่อนใคร ไกลถึง Tokyo ที่ทีม Headlightmag ได้ไปเช่า All NEW Camry ขับกันที่ญี่ปุ่น ก่อนที่รถจะเปิดตัวในไทย ยังมีอีก 1 เซอร์ไพรส์ที่เราได้เก็บเอาไว้ให้คุณผู้อ่าน นั่นก็คือ Camry WS ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากฝ่าย Global Relations Department ; External & Public Affairs Division : Toyota Motor Corporation (JAPAN) ให้เราได้ยืมรถทดสอบมาถ่ายรูปให้คุณผู้อ่านได้ชมกันในบทความนี้ เมื่อครั้งที่เราไปเช่ารถเพื่อมารีวิวเมื่อเดือน ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา
ถ้ายังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อ 11 มิถุนายน 2015 Toyota ประเทศไทย สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดรถยนต์ D-Segment ด้วยการนำเข้า ” Camry ESport ” (คัมรี่ เอสสปอร์ต) จากโรงงานที่ออสเตรเลีย ได้สิทธิ์เสียภาษีนำเข้า 0% จาก Thailand-Australia Free Trade Agreement (TAFTA) ทำให้ประเทศไทยมี Camry ที่แยกดีไซน์ทั้ง 2 ตัวถัง มาขายพร้อมกันเป็นครั้งแรก
ปี 2017 Toyota เปิดตัว All NEW Camry : TNGA Platform ในตลาดโลก ปรับกลยุทธ์ใหม่ยุบรวมเอา Camry ที่แยก 2 ตัวถังเหลือเพียง Global Model เหมือนกันทั่วโลก แต่มีการตกแต่งด้านหน้า และ ด้านท้ายให้ดูสปอร์ตแตกต่างกัน ภายใต้ตัวถังเดียวกัน ตลาดญี่ปุ่นเปิดตัว All NEW Camry เมื่อเดือน กรกฎาคม 2017 หน้าตาเหมือน Camry ที่เปิดตัวในบ้านเรา จากนั้นเดือน สิงหาคม 2018 มีการแนะนำ Camry WS หรือที่เข้าใจกันง่ายๆ คือ Camry หน้าสปอร์ตตามออกมา
ดีไซน์ภายนอกของ All NEW Toyota Camry WS มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งเฉพาะรุ่นอย่าง
- กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
- กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
- สปอยเลอร์หลัง
- กันชนหลัง ดีไซน์ใหม่ พร้อมครีบตกแต่ง
- ปลายท่อไอเสียแบบคู่ออกฝั่งซ้าย
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ
- ยาง ขนาด 235/45 R18
ภายในห้องโดยสารของ Camry WS เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เพิ่มเติมจากรุ่นปกติดังนี้
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร แบบ WS
- เบาะนั่ง ดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยลายแถบ
- แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
- ชุดหน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8.0 นิ้ว
- เครื่องเสียง Premium ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง
- ระบบนำทาง Navigation System
เนื่องจาก Toyota Camry ในญี่ปุ่น มีจำหน่ายเพียงเครื่องยนต์เดียว คือ 2.5 Hybrid THS II ดังนั้น Camry WS ก็ใช้เครื่องยนต์เดียวกัน
2.5 ลิตร Dynamic Force Hybrid THS II (Toyota Hybrid System II)
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส A25A-FXS ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 87.5 x 103.4 มิลลิเมตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุดรวม 211 แรงม้า (PS) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion / Ni-MH (สเป็คแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด) ย้ายไปติดตั้งที่ใต้เบาะนั่งด้านหลัง แทนที่ท้ายรถ ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเพิ่มขึ้น รวมไปถึงจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ดีขึ้นอีกด้วย
ส่วนสีตัวถังของ Camry WS เวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี โดยทุกสี มาพร้อมกับหลังคาสีดำ Attitude Black Mica
- สีขาว White Pearl Metallic
- สีแดง Emotional Red II
- สีน้ำเงิน Dark Blue Mica Metallic (สีพิเศษเฉพาะรุ่น)
Camry ใหม่ ยังถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังแบบ Modular Platform ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นตัวถัง และ งานวิศวกรรมพื้นฐาน ของตัวรถ แบบใหม่ ที่ Toyota พัฒนาขึ้นมา ด้วยวัตถุประสงค์ หลายประการ แต่หลักๆแล้วก็คือ เน้นการปรับปรุงด้านการขับขี่ให้คล่องแคล่ว มีประสิทธิภาพดีขึ้นในทุกๆด้าน รวมทั้งเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างพื้นรถทั้งหมด โดย พื้นตัวถัง สำหรับ Camry ใหม่ ถูกเรียกว่า TNGA-K ซึ่งเป็น Platform สำหรับรถยนต์นั่งขับเคลื่อนล้อหน้าขนาดกลาง และ ใหญ่ ที่แชร์ร่วมกันกับ Lexus ES 300h รุ่นล่าสุด
พื้นตัวถังนี้ มีลักษณะเป็น Modular Platform ซึ่งทำให้ รถยนต์ทุกรุ่นของ Toyota นับจากนี้ จะมีระยะห่างจาก ล้อคู่หน้า จนถึงแกนพวงมาลัย ในตำแหน่งคงที่ เหมือนกันหมด แต่ระยะห่างจากด้านหน้ารถจนถึงล้อคู่หน้า (Front Overhang) รวมทั้งความยาวของตัวรถ ตั้งแต่บริเวณหลังพวงมาลัยเป็นต้นไป สามารถปรับยืดหดได้ (ในช่วงขั้นตอนพัฒนารถ) ตามรูปแบบของโครงสร้างตัวรถ (Top Hat) ที่สวมครอบทับลงไปบนพื้นตัวถัง อีกทั้งยังมีการปรับตำแหน่งติดตั้งเครื่องยนต์ กับระบบส่งกำลัง และ ลดจุดศูนย์ถ่วงลงมา เพื่อช่วยลดการเอียงของตัวถังขณะเข้าโค้ง ช่วยให้การยึดเกาะถนนทำได้ดีขึ้น รวมทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถัง ทั้งการออกแบบ ไปจนถึงการเชื่อมตัวถัง ให้ถี่ขึ้น แน่นขึ้น แข็งแรงขึ้น
เป้าหมายก็คือ การสร้างความสมดุลร่วมกัน ระหว่างการสื่อสาร และ ตอบสนองระหว่างตัวรถและผู้ขับขี่ (Response) อย่างต่อเนื่อง (Linearity) และ สอดประสานเข้าด้วยกันในทุกส่วน (Consistency) นั่นหมายถึงบุคลิกการขับขี่ที่ดีขึ้น เบา และ คล่องแคล่วขึ้น สื่อสารกับคนขับได้ดีขึ้น ช่วยให้รถยนต์ Toyota ที่เปิดตัวในประเทศไทย หลังจากปี 2018 เป็นต้นไป ขับสนุก และ มีสมรรถนะดีขึ้น นั่นเอง
สำหรับในประเทศไทย เมื่อวิเคราะห์จากรุ่นก่อนหน้า Toyota ประเทศไทย จะต้องมีรุ่น Extremo ทำตลาดในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดังนั้นคาดว่า Toyota น่าจะต้องเตรียมเปิดตัว Camry Extremo อย่างแน่นอนภายในปี 2019 นี้ เพราะเมื่อย้อนดูจากข้อมูลยอดขายรถยนต์ที่ Headlightmag มี พบว่า Camry รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดใน Line-up รวมไปถึงเพื่อเป็นการลดความร้อนแรงของ All NEW Honda Accord Gen10 ที่เตรียมจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2019 นี้ด้วยเช่นเดียวกัน
2.0 ลิตร D-4S
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 6AR-FBS 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. VVT-iw & D-4S กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 86.0 x 86.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.8 : 1 กำลังสูงสุด 167 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมัน E85
หรือถ้า Toyota ประเทศไทย ใจป้ำเราก็อาจจะได้เห็น Camry Extremo / ESport เวอร์ชั่นไทย ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่นำเข้าจากออสเตรเลีย หรือ 2.5 Hybrid เหมือนอย่างสมัย Camry ACV40 รุ่น Hybrid Extremo ที่ผลิตมาแค่ 1,600 คัน เมื่อปี 2011
2.5 ลิตร Dynamic Force
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส A25A-FKB ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. ติดตั้งวาล์วแปรผันอัจฉริยะไฟฟ้า VVT-iE กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 87.5 × 103.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ รองรับน้ำมัน E85
คาดว่า Toyota ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว All NEW Camry Extremo / ESport (TNGA Platform) ภายในปี 2019 นี้ แต่จะมาเครื่องยนต์ใด และ รูปแบบ โปรดรอติดตามกันได้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
Assistant Manager
สำหรับการจัดการรถยนต์ทดลองขับในครั้งนี้
สำหรับการจัดทริปไฟไหม้ในครั้งนี้
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ โดยผู้เขียน
ลิขสิทธิ์ภาพถ่ายรถยนต์ทั้งหมด เป็นผลงานของผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.Headlightmag.com
3 มกราคม 2019
Text and Pictures Copyright (c) 2018 Headlightmag.com
Use of such content either in part or in whole
without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
January 3rd, 2019