All NEW Nissan ALMERA 1.0 TURBO
ราคาอย่างเป็นทางการ
- 1.0 TURBO S CVT 499,000 บาท
- 1.0 TURBO E CVT 509,000 บาท
- 1.0 TURBO EL CVT 559,000 บาท
- 1.0 TURBO V CVT 599,000 บาท
- 1.0 TURBO VL CVT 639,000 บาท
Dimension มิติตัวถัง
All NEW Nissan ALMERA
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,495 x 1,740 x 1,460 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,620 มิลลิเมตร
Almera รุ่นปัจจุบัน
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,425 x 1,695 x 1,500 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,600 มิลลิเมตร
เมื่อเทียบกับ Almera รุ่นปัจจุบัน พบว่า All NEW Nissan ALMERA รุ่นใหม่ ยาวขึ้น 70 มิลลิเมตร กว้างกว่าเดิม 45 มิลลิเมตร เตี้ยลง 40 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อยาวขึ้น 20 มิลลิเมตร
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 1.0 IG-TURBO
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC รหัส HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร 999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 72.2 x 81.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 : 1 พละกำลังสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT พร้อม D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ความจุถังน้ำมัน 35 ลิตร
All NEW Nissan ALMERA 1.0 Turbo VL 639,000 บาท
Exterior ภายนอก
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
- ล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 195/65 R15
- ระบบเบรกคู่หน้า ดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อน / คู่หลัง ดรัมเบรก
- ไฟหน้า แบบ LED
- ไฟ หรี่ LED Signature Light
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
- ไฟท้าย แบบ LED
- ไฟหรี่ ไฟท้ายแบบ LED Signature Light
- ไฟเบรกดวงที่ 3
- กระจังหน้าแบบโครเมียม
- กันชนหน้า – หลัง สีเดียวกับตัวรถ
- มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถ
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
- เสาอากาศแบบฝังบนกระจกบังลมหลัง
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสารสีทูโทน เบจ-ดำ
- แดชบอร์ดหน้า บุนุ่มหุ้มด้วยหนัง
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำเงา Piano Black
- มือเปิดประตูภายในห้องโดยสาร แบบโครเมียม
- ที่บังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้า
- พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด D-Shape
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
- พวงมาลัยตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินวาว
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงผลดิจิตอล
- ชุดมาตรวัดแบบเรืองแสง Optitron
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี ขนาด 7 นิ้ว
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า 4 บาน พร้อม Protection Jam ด้านคนขับ
Seating เบาะนั่ง
- เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า สีทูโทน ดำ – เทา
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมหมอนรองศีรษะ 3 ตำแหน่ง
- ที่วางแขน แผงประตูด้านข้าง บุนุ่มหุ้มด้วยหนัง
- ช่องเก็บเอกสาร หลังเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
- ที่วางแขน และ กล่องเก็บของ บริเวณระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า
Entertainment ระบบความบันเทิง
- หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว
- เครื่องเสียง วิทยุ AM/FM
- ระบบเชื่อมต่อ Nissan CONNECT
- รองรับ Apple CarPlay
- ช่องเชื่อมต่อ AUX
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ช่องชาร์จไฟ 12V
- ช่องชาร์จไฟ USB บริเวณกล่องคอนโซลกลาง
- ช่องชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ปุ่มรับสาย – โทรออก บนพวงมาลัย
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA
- ระบบเตือนมุมอับสายตา BSW
- ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW
- ระบบเบรกอัตโนมัติ ทั้งบุคคล และ ยานยนต์ IEB
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ AEB
- ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน MOD
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา AVM
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า – ด้านข้าง – ม่านนิรภัย)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- สัญญาณกันขโมย
- ระบบกุญแจ Immobilizer
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี
- สีส้ม Monarch Orange
- สีแดง Radiant Red
- สีเงิน Brilliant Silver
- สีเทา Gun Metallic
- สีดำ Black Star
- สีขาวมุก Storm White
ผลทดสอบ อัตราเร่ง Nissan Almera 1.0 Turbo VL
Acceleration
Sport Mode
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 11.05 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 8.14 วินาที
Normal Mode
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 11.32 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 8.32 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 192 km/h @ 5,700 rpm
Fuel Consumption
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง วิ่ง 110 km/h เปิดแอร์ นั่ง 2 คน ทำได้เฉลี่ย 21.99 km/l
Nissan Almera 1.0 Turbo VL 639,000 บาท
Short Review
หากคุณเคยนั่ง หรือ ขับ Almera รุ่นเดิม แล้วกระโดดขึ้นมานั่ง หรือ ขับ All NEW Nissan Almera รุ่นใหม่นี้ คุณจะกลายเป็น แก๊งสามช่า ร้อง ว้าว ว้าว ว้าว ในทันที ! เพราะ มันปรับปรุงทั้งคันให้ดีขึ้นในแทบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ ภายนอกที่ลงตัวขึ้นกว่าเดิมเยอะ ส่วนตัวมองว่าถ้านับแต่ด้านดีไซน์ ผมว่ามันสวย ลงตัวกว่า City ใหม่เสียอีก ขาดก็แต่ล้อทำสีปัดเงา ให้ดูสปอร์ตมากกว่าสีเดียวกันทั้งวงแบบที่เห็นอยู่นี้ แน่นอนว่าบางศูนย์ก็ทำเป็นของแถมลูกค้า หรือ ถ้าไปทำข้างนอกก็ตกอยู่ประมาณ 2-3 พันบาท สำหรับ 4 วง
ภายในห้องโดยสาร สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือ ดีไซน์ ใช้ Theme ยุคใหม่ของ Nissan มีการเพิ่มส่วนที่บุนุ่มหุ้มด้วยหนังในส่วนของแดชบอร์ดหน้า คุณภาพวัสดุที่ใช้ดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda City การใช้วัสดุยังถือว่าด้อยกว่าในบางจุด เช่น หนังที่ใช้หุ้มพวงมาลัยให้ความรู้สึกเหมือนยูรีเทน เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าที่สากไปหน่อย ถ้ามีรุ่นที่หุ้มหนังมาให้ก็จะดีมาก แต่นอกนั้นโดยรวมถือว่าสอบผ่านทั้งหมด
อัตราเร่งเทียบกับรุ่นเดิม เรียกว่า พลิกเป็นคนละคัน ดีขึ้นผิดหูผิดตาด้วยอานิสงส์ของ เครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 11.05 วินาที ในโหมด Sport+ ส่วนอัตราเร่งแซง 80-120 km/h ทำได้ภายใน 8.14 วินาที เทียบกับรุ่นเดิมที่ทำได้ 16.32 วินาที และ 12.24 วินาที เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 5 วินาที ! โอ้โห ต้องเรียกว่าพลิกชีวิตกันเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับรถในกลุ่ม Eco Car / B-Segment ถือว่า Almera ทำได้อันดับต้นๆของกลุ่ม จะช้ากว่าแค่ City 1.0 Turbo และ City / Jazz 1.5 รุ่นเดิม รวมไปถึง Fiesta EcoBoost เท่านั้น นอกนั้นถือว่าเร็วกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าทั้งหมด
ถ้าเทียบกับคู่แข่งที่สดใหม่ที่สุดในตลาดอย่าง City 1.0 Turbo ต้องบอกว่า ช้ากว่ากันเพียง 1 วินาที เท่านั้น แต่ปัญหาของ Almera ที่จับอาการได้คือ ความสั่นของเครื่องยนต์ 3 สูบ ที่มากไปเสียหน่อย ถ้าปรับปรุงตรงนี้ได้ลดความน่ารำคาญไปได้เยอะ คาดว่าจะมาจากยางแทนเครื่อง ลองไปเปิดฝากระโปรงหน้าดู บริเวณแท่นเครื่องด้านซ้าย เมื่อสตาร์ทรถจะเห็นค่อนข้างชัดครับ แต่ใช่ว่า City 3 สูบ จะไม่สั่นนะครับ รายนั้นก็มีความสั่นเหมือนกัน แต่จะสั่นเป็นจังหวะติดกัน แต่เว้นระยะในช่วงรอบเดินเบา และ ช่วงใส่เกียร์ D รอบต่ำ แต่ไม่สั่นมากเท่าของ Almera
ช่วงล่างของ Almera ถ้าเทียบกับ City ผมให้คะแนนกับ Almera สูงกว่า City มีความเฉียบคม ความมั่นใจมากกว่า ทั้งในความเร็วต่ำ และ ความเร็วสูง แต่ Almera ไปแพ้เรื่องอัตราเร่ง และ น้ำหนักพวงมาลัยที่เบาไปนิด ทำให้ความเร็วสูงต้องใช้สมาธิควบคุมมากหน่อย แต่ถ้าขับไม่เกิน 120 km/h มันพอเหมาะ พอดีแล้วล่ะครับ ด้านอัตราสิ้นเปลืองมันประหยัดกว่า City ในการขับแบบเดียวกัน แต่ยังแพ้ให้กับ Mazda 2 เบนซิน 1.3 ลิตร
อุปกรณ์ และ Option ที่ใส่มาให้ Almera คือ สิ่งที่น่าชื่นชมยินดีมากที่สุด ให้มามากที่สุดในรถระดับเดียวกัน ประเคนมาให้ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW, เบรกอัตโนมัติ IEB, ระบบเตือนมุมอับกระจกมองข้าง และ ถอยหลัง BSW, RCTA และ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา รวมไปถึงชุดมาตรวัดแบบดิจิตอล ที่แสดงผลได้หลากหลาย และ สวยงามอีกด้วย ถ้าเน้นความคุ้มค่าของเล่นเยอะ ราคาสมเหตุสมผล Nissan Almera 1.0 Turbo ดูจะตอบโจทย์มากที่สุด
แต่ถ้าใครมองหาอัตราเร่ง คงต้องไปจบที่ City อยากได้ความพรีเมียมของภายในห้องโดยสาร และ ช่วงล่างที่เฟิร์มมั่นใจที่สุด ต้องไปหา Mazda 2 แต่ถ้าใครกังวลเรื่องความทนทาน และ ศูนย์บริการที่ดูจะไว้ใจได้ในทุกๆที่ที่ไป คงต้องไปจบกับ Yaris ATIV หรือ สุดท้ายแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ Ciaz ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว จุดเด่นของเค้าอยู่ที่ความกว้างของห้องโดยสารที่โอ่โถงที่สุด แต่ไปต่อรองราคากับเซลล์หน่อยนะครับ เพราะ อุปกรณ์ที่ให้มาน้อยกว่าเพื่อนเลย ส่วน Attrage เก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าตัวเลือกทั้งหมดที่ผมว่ามา ไม่ถูกใจเลยจริงๆ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/75034.0
ถ้ายังต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม หรือ มีเวลาเหลือหลังจากดูหนังดูละคร หรือ ซีรีส์เกาหลี ก็ไปอ่านบทความ Full Review ได้ที่นี่ครับ : http://www.headlightmag.com/full-review-2020-nissan-almera-1-0-turbo-cvt/
ทดลองขับ Nissan ALMERA 1.0 Turbo CVT (MY 2020) : ความหวังครั้งสำคัญของชาวบางเสาธง !