Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+
ราคาอย่างเป็นทางการ (รุ่นประกอบในประเทศ)
- Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ 5,350,000 บาท
* รุ่นประกอบในประเทศ ถูกลงจากรุ่นนำเข้า CBU ถึง 1,740,000 บาท (รุ่นนำเข้า ราคา 7,090,000 บาท) โดยสเป็ค – Option เหมือนกันทุกประการ
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว : 4,988 มิลลิเมตร
- กว้าง : 1,890 มิลลิเมตร
- สูง : 1,435 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,939 มิลลิเมตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 520 ลิตร
Engine เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 พละกำลัง 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,800 รอบ/นาที พร้อมระบบ EQ Boost มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังเพิ่มอีก 22 แรงม้า และ แรงบิดอีก 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift TCT 9G 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC+
อัตราทดเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic
- เกียร์ 1 5.354
- เกียร์ 2 3.243
- เกียร์ 3 2.252
- เกียร์ 4 1.636
- เกียร์ 5 1.211
- เกียร์ 6 1.000
- เกียร์ 7 0.865
- เกียร์ 8 0.717
- เกียร์ 9 0.601
- เกียร์ถอยหลัง 4.798
- อัตราทดเฟืองท้าย 3.060
Exterior ภายนอก
- ล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ
- ยางคู่หน้า 245/35 R20 – ยางคู่หลัง 275/30 R20
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED
- ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS
- ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering Light
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist
- ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
- ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง และ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี Fibre-Optic
- กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง ฝั่งผู้โดยสาร ปรับมุมเอนลงอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
- กระจกมองข้าง ฝั่งคนขับ ปรับลดแสงแบบอัตโนมัติ
- กุญแจรีโมทคอนโทรล ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุ
- กุญแจรีโมทคอนโทรล สั่งการทำงานเปิด-ปิดของเซ็นทรัลล็อค และ ฝากระโปรงท้าย
- ระบบกุญแจ KEYLESS-GO
- ระบบเปิด-ปิดฝาท้าย ด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบเปิด-ปิดฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Access
- หลังคา Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบส่งกำลัง AMG Performance 4MATIC+
- ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Air Suspension
- ระบบควบคุม AMG Ride Control+
- AMG Body Styling กันชนหน้า – กันชนหลัง และ สเกิร์ตข้าง
- ปลายท่อไอเสียคู่แบบ 2 Round twin tailpipe look
- ท่อไอเสียแบบ AMG Sport Exhaust System
- สัญลักษณ์ AMG บนคาลิปเปอร์เบรก
- สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้าย แบบ AMG Spoiler Lip
- แผ่นรองกันกระแทกใต้ห้องเครื่อง
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ฟังก์ชั่น ECO Start / Stop
- ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ Dynamic Select
- ECO
- COMFORT
- INDIVIDUAL
- SPORT
- SPORT+
- ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแบบ AMG Nappa Leather ตัดสลับ Dinamica Microfibre
- เข็มขัดนิรภัยสีแดง
- เบาะนั่งคู่หน้า ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า
- เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat
- ระบบอุ่นเบาะนั่งคู่หน้า
- เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 40 : 20 : 40
- ด้านบนของแดชบอร์ดหน้า และ แผงประตูหุ้มด้วยหนัง
- พวงมาลัยแบบ AMG Performance Steering Wheel
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง Nappa ตกแต่งด้วย AMG Carbon-fibre
- พวงมาลัยนิรภัย พร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยไฟฟ้า แบบปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ
- ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง เลื่อนขึ้น-ลง ด้วยระบบไฟฟ้า
- นาฬิกาแบบอนาล็อก
- ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-zones
- ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร AIR Balance Package
- หน้าจอแสดงข้อมูลแบบ Digital Wildscreen Cockpit
- ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี
- กาบบันไดสเตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ AMG แบบเรืองแสง
- ชุดคันเร่ง และ แป้นเบรก แบบสปอร์ต
Entertainment ระบบความบันเทิง
- ระบบ Audio 20 GPS พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว
- ระบบนำทาง Navigation System
- ระบบ Apple CarPlay / Android Auto
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charging
- ระบบควบคุม และ สั่งงานด้วย Touchpad
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester Surround Sound System
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS / EBD / BA
- ระบบเบรก Adaptive Brake พร้อมฟังก์ชั่น Hold
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist
- ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน Adaptive Brake Light
- ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า Active Distance Assist DISTRONIC
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบจำกัดความเร็ว Speedtronic
- ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ ASSYST service
- ระบบช่วยเบรก Active Brake Assist
- โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง tyre pressure loss warning system
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Attention Assist
- ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Parking Pilot including Active Parking Assist
- เซนเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด Parktronic
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assist Package
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยหัวเข่าคนขับ
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 4 สี
- สีขาว Polar White
- สีดำ Obsidian Black
- สีเงิน Iridium Silver
- สีเทา Graphite Grey
ภายในห้องโดยสาร
- AMG – Leather Black / Seat Belts in Red
- AMG Carbon-Fibre Center Console
- Light longitudinal-grain aluminium trim
อัตราเร่ง Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+
Comfort Mode
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.06 วินาที
- อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 3.91 วินาที
Sport+ Mode
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.06 วินาที
- อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 3.53 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 257 km/h @ 5,250 rpm (7th Gear : locked)
Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ : 5,350,000 บาท
Short Review by Pan Paitoonpong
CLS 53 คือรถยักษ์ความยาวหย่อน 5 เมตรไปเพียงเล็กน้อย กว้างกว่า 1.8 เมตร และ น้ำหนักตัวเฉียด 2 ตัน ก็เทียบได้กับ Eco Car 2 คัน ตัวเลขทั้งหมดฟังแล้วชวนให้นึกถึง Sedan มาดอุ้ยอ้าย ที่เอาไว้รับท่านประธานบริษัทนั่งไปกินข้าวกับคู่ค้าธุรกิจรายใหญ่ เว้นเสียแต่ว่าประธานคงต้องตัวเตี้ยสักหน่อย เพราะแนวหลังคาของ CLS นั้นแทบจะแบนราบ ถ้าคนตัวสูง 6 ฟุต 1 นิ้วนั่ง ต่อให้อยู่บนเบาะหน้าที่ปรับลงต่ำสุดแล้วศีรษะก็แทบจะเฉี่ยวเพดาน ถ้าหากคุณสนใจเรื่องพื้นที่เหนือศีรษะ บางที E 53 ซึ่งแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมทุกอย่างร่วมกัน ต่างกันแค่ดีไซน์ และ ความสูงของหลังคา น่าจะเป็นรถที่ตอบโจทย์คุณได้ดีกว่า
แต่ช่างมันปะไร…คนที่ซื้อ CLS ส่วนมากเขาหวังอยากได้รูปทรงที่ดูปราดเปรียวเฉี่ยวทุกองศา ไม่ซ้ำกับ Limousine สนามบิน หรือ โรงแรมที่ไหน ซึ่งเราคงไม่ปฏิเสธว่า CLS ใหม่ ก็ให้ทั้งความสวย และ ในขณะเดียวกันก็ดูน่ากลัวเหมือนผู้ใหญ่ที่ชอบทำตาถมึงทึง และ ที่สำคัญ นอกจากหน้าตาจะดุแล้ว สมรรถนะก็ดุตามไปด้วย
ขุมพลัง M256.930 6 สูบเรียง 3.0 เทอร์โบ 435 แรงม้า แม้จะพ่วงกับมอเตอร์ขนาดจิ๋วหลิว EQ Boost ก็ยังให้แรงดึงช่วงออกตัวที่น่าตื่นตาตื่นใจ มันทำอัตราเร่ง 0-100 km/h และ 80-120 km/h ได้เร็วกว่า C 43 Coupe’ รุ่นน้อง แม้น้ำหนักตัวจะมากกว่ากันถึง 230 กิโลกรัม
ถ้าไปเทียบกับรถ Plug-in Hybrid ดุๆอย่าง Volvo S90 T8 407 แรงม้า แล้ว Volvo กับ มอเตอร์พลังสูง พอถึง 120 km/h เจ้า AMG CLS 53 ก็ขึ้นหน้าไปแล้ว เข็มความเร็วไต่อย่างต่อเนื่องสมกับที่มี 435 แรงม้า ถ้าวันไหนคุณหมั่นไส้เพื่อนบางคนที่ชอบบ่นด่ารถแรงๆว่า ” จะเอาม้าเยอะๆไปวิ่งที่ไหน ” เอาผ้าคาดปาก มัดมือเท้าแล้วจับนั่ง CLS 53 กดคันเร่งแค่ 20 วินาที มันน่าจะเปลี่ยนนิสัยเขาได้ตลอดชีวิต
การทรงตัวและการเข้าโค้งก็มั่นใจได้ ช่วงล่างถุงลมในรถใหญ่หนักขนาดนี้ ดูจะเข้าท่า สามารถคุมอาการยวบของตัวถังได้ดีโดยไม่มีอาการท้ายดีดแรงแบบ C 43 Facelift สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างคือ การเข้าโค้ง ซึ่ง CLS 53 พอเจอโค้งแคบจะไม่คล่องตัวแบบ C 43 แต่ในโค้งกว้าง ผมพบว่าถ้าคุณกดคันเร่งครึ่งทางตอนออกโค้ง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ CLS 53 จะดึงหน้ารถออกจากโค้ง แรงกว่าสามีดึงแขนภรรยาออกจากร้าน Sephora ซึ่งถ้าเป็น C 43 คุณจะรู้สึกว่าล้อหน้า และ หลังมีบทบาทในการพาตัวรถออกจากโค้งไปเท่าๆกันมากกว่า
ในโหมด Comfort กับการใช้งานแบบปกติ CLS 53 ทำตัวเป็นรถผู้ใหญ่ ช่วงล่างในโหมดนี้จะนุ่มจนอยู่ในระดับพอมีความสบาย อาจจะรู้สึกตึงหนึบกว่า C 300 e บ้านๆบ้างราว 10-20% และ ยังสามารถทรงตัวได้ดีที่ความเร็วสูง จนผมอยากเตือนให้คุณมองความเร็วบนจอ HUD ไว้บ่อยๆ เพราะคุณอาจกำลังขับจิบโค้กกระป๋องแล้วไหลไป 180 km/h โดยไม่รู้สึกอะไรเลย ตอนลองทำ Top Speed ผมรู้สึกว่าโหมด Comfort เวลาวิ่งบนทางด่วนผิวไม่เรียบของไทย ตัวรถดูจะนิ่ง ขับแล้วเกร็งน้อยกว่าโหมด Sport + ด้วยซ้ำ
เรื่องอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ไม่ต้องพูดถึงเพราะจัดเต็มสมราคา มาตรวัด แสงไฟตกแต่งภายใน Ambient Light 64 สี วัสดุที่ใช้ หรูหราสมเป็นตราดาว มีกล้อง 360 องศา มาให้รอบคัน รวมถึงระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร ระบบเบรกอัตโนมัติที่ทำงานได้ดีเยี่ยม และระบบ Radar Cruise Control ที่สามารถทำงานที่ความเร็วต่ำจนเหลือ 0 km/h แล้วออกตัวอีกครั้งด้วยการกดปุ่ม หรือ คันเร่ง ช่วยให้เท้าขวาของคุณมีจังหวะผ่อนคลายเวลารถติด
วิธีที่จะสรุป CLS 53 ได้ดีที่สุด..ก็คงต้องพูดว่า มันคือรถที่ราคา 55% ของ Porsche Panamera 4 E-Hybrid แต่ได้สมรรถนะและอรรถรส 85-90% โดยที่ไม่น้อยหน้าเรื่องอุปกรณ์และความทันสมัย แรง หรู และใช้งานในชีวิตประจำวันได้ โดยมีข้อแม้สองข้อคือ หนึ่ง คุณต้องแน่ใจว่าหลังคาที่เตี้ยของมัน ไม่เป็นอุปสรรคในการโดยสาร หรือเข้า/ออกจากรถของคุณ สอง คือ เตรียมเผื่อใจไว้สำหรับความจุกจิกสไตล์เบนซ์ที่มีมอเตอร์ไว้สักหน่อย เพราะช่วงที่ออกมาขายใหม่ๆก็มีลูกค้าเจอ Defect บ้างเหมือนกัน ถ้ารับสองข้อนี้ได้ ก็ไม่ต้องคิดนานครับ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/73722.0