Honda Civic FC Sedan
ราคาอย่างเป็นทางการ
- 1.5 Turbo RS CVT 1,219,000 บาท
Engine เครื่องยนต์
1.5 Turbo CVT
เครื่องยนต์รหัส L15B7 บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,496 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.6 : 1 พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E20
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,648 x 1,799 x 1,416 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,698 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance : 125 มิลลิเมตร
- ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า 1,297 / 1,306 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน : 47 ลิตร
รายละเอียด Option ของ Honda Civic FC Minorchange 1.5 TURBO RS
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo 173 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมัน E20
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- ไฟตัดหมอกแบบ LED
- ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- มือเปิดประตูภายนอก โครเมียมรมดำ
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- ท่อไอเสียแบบคู่
- กันชนหน้า และ กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต RS
- สปอยเลอร์หลังแบบ Wing พร้อมไฟเบรกแบบ LED
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีแดง
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำเงา Piano Black
- มาตรวัดแบบ TFT พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
- ปุ่ม ECON
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ และเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท Engine Remote Start
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- กระจกมองหลัง ปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake
- ระบบ Auto Brake Hold
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้าคู่หน้า ปรับขึ้นลง One Touch
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง Telescopic (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
- แป้นคันเร่ง และ เบรก แบบสปอร์ต
Entertainment ระบบความบันเทิง
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- รองรับระบบ Apple Car Play
- พวงมาลัย Multi-Function ควบคุมเครื่องเสียงและรับสาย
- เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียง SIRI
- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง
- ช่องเชื่อมต่อ HDMI
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบนำทาง Navigation System
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSA
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
- ระบบ Honda SENSING ประกอบไปด้วย
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
- ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS
- ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC with LSF Low Speed Following
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- ระบบสัญญาณกันขโมย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตา Honda LaneWatch
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบล็อครถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี
- สีขาวมุก Platinum White Pearl (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
- สีดำมุก Crystal Black Pearl (เพิ่มเงิน 6,000 บาท)
- สีเทา Modern Steel Metallic
- สีเงิน Lunar Silver Metallic
- สีน้ำเงิน Brilliant Sporty Blue Metallic
- สีแดง Ignite Red
ผลทดสอบ อัตราเร่ง Honda Civic FC 1.5 TURBO RS (อย่างเป็นทางการ)
Acceleration
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 8.76 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 6.20 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 208 km/h @ 6,050 rpm
Fuel Consumption
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง วิ่งความเร็วเฉลี่ย 110 km/h ทำได้ 16.72 km/l
Honda Civic FC Minorchange 1.5 TURBO RS + SENSING : 1,219,000 บาท
แม้ว่า Civic FC ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2016 จะมีปัญหาหลายอย่างในเรื่อง Defect แร็คพวงมาลัย จอภาพ และ คุณภาพการประกอบก็ยังมีบางจุดที่ปะแปะส่งสไตล์ฮอนด๊าฮอนด้า.. แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้ามองเฉพาะรุ่นที่ใช้เครื่อง 1.5 ลิตรเทอร์โบนั้น Honda ได้สร้างรถที่เป็นคำตอบสำหรับวัยรุ่นตอนกลางเท้าหนัก กับพ่อบ้านสายซิ่งที่ดีมากคันหนึ่ง
การใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกับ Accord และ การเซ็ตช่วงล่างกับพวงมาลัยที่ดี Civic FC เป็น Honda สายบ้านรุ่นแรกที่ผมรู้สึกว่าช่วงล่างเดิมๆติดรถนั้น ดีพอ ในขณะที่ FB นุ่มไป, FD ท้ายออกง่ายไป และ ES Dimension น่าผิดหวังสุดๆ ใน FC นั้นแม้ว่ามันอาจยังไม่ใช้รถที่ช่วงล่างเจ๋งเท่า Ford แต่ก็ใกล้เคียงมากกว่าที่เคยเป็นมา
Civic Minorchange 1.5 TURBO RS ในจุดหลัก คุณยังได้รถบุคลิกพ่อบ้านเท้าไฟฐานะปานกลางเช่นเดิม เครื่องยนต์ L15B7 ออกตัวเนือยนิดๆแบบเกรงใจเกียร์ แต่พอพ้น 50 km/h ก็พุ่งไปเหมือนฝูงหญิงสาวพุ่งเข้าประตูห้างในวัน Clearance Sales ประจำปี มันแรง มาแบบเป็นกระแสธารต่อเนื่อง เกียร์ CVT เป็นแบบที่มีการไล่รอบเวลากดคันเร่ง และ ฉลาดมากพอที่จะหาจุดแช่รอบ/ไล่รอบ เพื่อสร้างความเร็ว อีกทั้งยังใช้งานในเมืองได้สบายเหมือนขับรถบ้านทั่วไป มีการตอบสนองที่คงที่ จับจังหวะ และ นิสัยใจคอได้ง่าย ขนาดผมไม่ชอบ CVT ก็ยังรู้สึกว่ายอมรับได้ถ้าต้องขับรถคันนี้
จอกลางรถจากเดิมที่เป็นสวิตช์สัมผัส ในรุ่น Minorchange นี้จะกลายเป็นปุ่มกด และ หมุนแทน ใช้งานได้แม่นยำกว่าการสัมผัสแบบเดิม บางทีปุ่มธรรมดาแบบนี้แหละ น่าจะเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้ปุ่มสไลด์นิ้ว SWIPE ที่ปรับความดัง-เบาของเสียง ก็ถูกเอาออก เนื่องจากลูกค้าเอามือไปโดน แล้วเพิ่มลดเสียงแบบไม่ได้ตั้งใจกันหลายต่อหลายราย
ในราคาที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 20,000 บาท Civic Minorchange 1.5 TURBO RS ตอบแทนคุณด้วย Safety Feature หลายอย่าง Honda SENSING มาครบทั้งระบบ ทั้งหมดนี้ทำให้ไม่เป็นรองคู่แข่งแล้วในเรื่องความปลอดภัยแบบก่อนเกิดเหตุ Active Safety มีการขับขี่ที่อยู่ในแถวหน้า และ มีพละกำลังแรงเป็นอันดับต้นของกลุ่ม เป็นรถที่ผมรู้สึกว่า หากมีรถได้คันเดียวในบ้าน มันคงเป็นทางเลือกที่ผมจะไป เพราะใช้งานสะดวกเหมือนรถธรรมดา ทุกคนในบ้านขับได้ แต่พอคิดจะเล่นแรง ก็ต่อยอดได้ไม่ยาก (แต่ต้องทำใจยอมรับเรื่อง Defect และ เตรียมใจไว้บ้าง)
เทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Corolla Altis ที่มีจุดเด่นด้านความประหยัดด้วยเครื่องยนต์ Hybrid 1.8 ลิตร และ ค่าตัวที่ถูกกว่ากัน 1 แสนบาท แต่ห้องโดยสารแคบลงกว่ารุ่นเดิม ทำให้เรื่องความโปร่งโล่งสบาย แพ้ให้กับ Civic รวมถึงด้านความแรง ยังไงก็ต้องยอมให้กับ Honda
ส่วน Mazda 3 เป็นผู้นำด้านการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักพวงมาลัย ความแม่นยำ และ การบังคับควบคุมช่วงล่าง ที่มั่นใจมากที่สุดในกลุ่มนี้ วัสดุที่พรีเมียมที่สุด แต่ก็มาเจอข้อเสียเรื่องพื้นที่ในห้องโดยสาร ทั้ง 3 รุ่น เรียกได้ว่ามีจุดเด่น จุดด้อย ต่างกันในแต่ละด้าน แต่ความกลมกล่อมในทุกด้าน ดูเหมือนว่า Honda Civic จะสามารถครองใจลูกค้าส่วนใหญ่ในตลาดเอาไว้ได้
Honda SENSING มีระบบอะไรบ้าง และ การทำงานเป็นอย่างไร ?
- Adaptive Cruise Control (ACC) with LSF (Low Speed Following)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน การทำงานก็เหมือนกับระบบ Cruise Control ทั่วไป แต่จะเพิ่มความสามารถในการรักษาระห่างจากรถคันหน้า ตรวจจับโดยกล้องและเรดาร์ เช่น ที่ความเร็ว 120 km/h เราตั้งความเร็วเอาไว้ หากรถคันข้างหน้าลดความเร็วลง ระบบก็จะลดความเร็วลงตาม ถ้าเป็น Cruise Control เราจะต้องเปลี่ยนเลนเพื่อหลบ หรือ เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่ ACC จะช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ หากมีรถมาแทรกกลาง ระบบก็จะค่อยๆชะลอความเร็วลงเช่นกัน แล้ว detect รถคันที่มาใหม่แทน ตามระยะที่เราตั้งเอาไว้ มี 3 ระยะให้เลือก คือ ใกล้ กลาง ไกล หากรถคันหน้าเพิ่มความเร็ว ระบบก็จะเพิ่มความเร็วให้กลับไปสู่ความเร็วและ ระยะห่างที่เราได้ตั้งเอาไว้แต่แรก
ปกติแล้ว ACC จะทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วที่ 30 – 180 km/h เมื่อระบบชะลอความเร็วลง ไฟเบรกก็จะติดด้วยครับ เพื่อให้รถคันหลังทราบ แต่ใน Civic Turbo RS จะเพิ่มระบบ LSF (Low Speed Following) มาให้ด้วย ทำให้ที่ความเร็วต่ำกว่า 30 km/h ยังคงสามารถใช้งานระบบ ACC ได้อยู่ และ เมื่อรถคันหน้าหยุดนิ่ง และ เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง รถของเราก็ยังคงสามารถเคลื่อนตัวตามได้ แต่ถ้าหากหยุดนิ่งเกิน 10 วินาทีขึ้นไป ต้องกดปุ่ม RES หรือ กดคันเร่ง เพื่อช่วยให้ระบบ ACC ทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ
- Collision Mitigation Braking System (CMBS)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ ตรวจจับคนเดินถนน ด้วยกล้อง และ เรดาร์ ทำงานตั้งแต่ความเร็ว 15 km/h ขึ้นไป เมื่อมีรถด้านหน้า หรือคนเดินถนน ระบบจะตรวจจับเมื่ออยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย จะมีข้อความขึ้นเตือนบนหน้าจอ MID ที่ชุดมาตรวัด, มีเสียงเตือน รวมถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัย
ถ้าหากคนขับยังไม่ตอบสนองระบบก็จะช่วยกระตุกเข็มขัดนิรภัย และ เพิ่มแรงเบรกให้ แต่ถ้ารถติดๆไหลๆในเมืองความเร็วไม่เกิน 15 km/h แล้วมัวแต่เล่นมือถือ ระบบจะไม่ทำงานนะครับ คนละแบบกับของ Mazda ที่ช่วยเบรกเฉพาะที่ความเร็วต่ำ
- Lane Keeping Assist System (LKAS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ตรวจจับเส้นแบ่งเลน (ที่เป็นเส้นประ) โดยใช้กล้องด้านหน้า เริ่มทำงานที่ความเร็ว 72 – 180 km/h จะช่วยเตือนด้วยสัญลักษณ์สีส้มบนหน้าจอ MID บนมาตรวัด รวมถึงหากตรวจจับว่ากำลังจะออกนอกเลน พวงมาลัยจะมีการหน่วงช่วยดึงรถให้อยู่ในช่องจราจรสามารถตรวจจับเส้นแบ่งเลนได้ทั้งทางตรง และ ทางโค้ง จับองศาโค้งได้ถึง 230 องศา หากมีการปล่อยมือจากพวงมาลัยระบบก็จะเตือนเช่นกัน
- Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning (RDM with LDW)
ระบบแจ้งเตือน และ ช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ใช้กล้องด้านหน้าตรวจจับเส้นแบ่งเลน (เส้นทึบ ขอบถนน) พูดง่ายๆก็คือระบบจะช่วยตรวจจับไม่ให้รถตกถนนนั่นเอง มีการช่วยหน่วงพวงมาลัยให้กลับเข้าสู่ช่องจราจร หากกรณีที่เบี่ยงออกนอกทางมากขึ้น ก็จะมีการช่วยเบรกชะลอความเร็วด้วย และ มีการแจ้งเตือนผ่านทางสัญลักษณ์สีส้มบนหน้าจอ MID และ เสียงเตือน รวมถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัย
2 ระบบหลังที่ว่ามานี้ หากเส้นถนนจางมาก จนไม่สามารถตรวจจับได้ หรือ ไม่มีเส้นแบ่งช่องจราจรบนถนน ระบบก็จะไม่ทำงานครับ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/76182.0