Honda Civic Hatchback Minorchange (FK)
ราคาอย่างเป็นทางการ
- 1.5 TURBO RS CVT 1,229,000 บาท
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว : 4,501 มิลลิเมตร
- กว้าง : 1,799 มิลลิเมตร
- สูง : 1,421 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,697 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น ground clearance : 133 มิลลิเมตร
Engine เครื่องยนต์
เครื่องยนต์รหัส L15B7 บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,496 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.6 : 1 กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E20
Exterior ภายนอก
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
- ไฟท้าย แบบไฟหรี่ LED
- กันชนหน้าสไตล์สปอร์ต
- กระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต
- มือเปิดประตูภายนอก สีรมดำ
- คิ้วขอบประตู สีดำเงา Gloss Black
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ
- กันชนหลังสไตล์สปอร์ต
- ท่อไอเสียแบบคู่ (ซ้าย-ขวา)
- สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกแบบ LED
- เสาอากาศครีบฉลาม Shark Fin
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- ท่อไอเสียแบบออกกลางคู่
Interior & Equipment ภายในห้องโดยสาร – อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง
- เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
- แผงกั้นสัมภาระด้านท้าย
- แป้นคันเร่ง – เบรก แบบสปอร์ต
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำ Piano Black
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้าคู่หน้า ปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ
- ปุ่ม ECON
- ชุดมาตรวัด และ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ เป็น TFT สีแดง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกซ้าย-ขวา
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบกุญแจ Honda Smart Key System
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท Engine Remote Start
ระบบความบันเทิง Entertainment System
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- รองรับระบบ Apple Car Play / Android Auto
- ระบบ Honda CONNECT
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และรับสายโทรศัพท์
- เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียง SIRIช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง
- ช่องเชื่อมต่อ HDMI
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย Safety Features
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบล็อครถอัตโนมัติ เมื่อห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ Auto Door Lock by Speed
- สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSA
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ระบบ Honda SENSING
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
- ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS
- ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC with LSF Low Speed Following
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบสัญญาณกันขโมย
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- กล้องแสดงภาพมุมอับสายตา Honda LaneWatch
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
- สีเทานม Sonic Grey Pearl (เพิ่มเงิน 6,000 บาท)
- สีดำมุก Crystal Black Pearl (เพิ่มเงิน 6,000 บาท)
- สีขาวมุก Platinum White Pearl (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
- สีแดง Rallye Red
- สีเทา Modern Steel Metallic
ผลทดสอบ อัตราเร่ง Honda Civic FC 1.5 TURBO RS (อย่างเป็นทางการ)
Acceleration
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 8.80 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 6.13 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 208 km/h @ 6,050 rpm
Fuel Consumption
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง วิ่งความเร็วเฉลี่ย 110 km/h ทำได้ 16.33 km/l
Honda Civic Hatchback Minorchange 1.5 TURBO RS + SENSING : 1,229,000 บาท
ในที่สุดสิ่งที่ลูกค้าหลายคนถวิลหากันตั้งแต่ Civic Hatchback เปิดตัว ” ท่อไอเสียคู่ ออกกลาง ” ก็มาปรากฎกายในรถเวอร์ชั่นไทยเรียบร้อยแล้ว ! ไม่ต้องแปลงซุ้มล้ออะไหล่ให้ยุ่งยากอีกต่อไป มาเสร็จสรรพจากโรงงานเลย พร้อมชุดแต่ง RS รอบคัน ทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร แถมยังมีเซอร์ไพรส์ด้วยการเพิ่มสีเทาใหม่ Sonic Grey Pearl หรือ ผมเรียกว่าสีเทานม ดูจะเข้าใจง่ายดี ฮ่าๆๆ ทำให้ดูดุดัน และ เอาใจวัยรุ่นมากกว่าเดิม เรียกว่า ชนกับ Mazda 3 Fastback สี Polymetal Grey เต็มๆ
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงกลางอายุแล้ว และไม่ได้มีเสน่ห์ในการออกแบบที่สดใหม่หรือช่วงล่างที่พร้อมซิ่งจริงๆ อย่าง Mazda 3 แต่ Honda Civic ก็ยังมีจุดเด่นด้านพละกำลัง เทคโนโลยีเครื่องยนต์เทอร์โบ L15B7 ที่ยังนับว่าแรงและเร็วที่สุดในคลาส เป็นรถเกียร์ CVT ที่มีความรู้สึกว่าทะยานจริงเวลากด และ ข่าวดีคือถ้ายังไม่พอ ตลาด Aftermarket parts มีของแต่งมากมายพร้อมรอคุณอยู่ นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้ Honda ครองใจวัยรุ่น
ใน Civic Hatchback Minorchange แม้ราคาจะทะยานสูงขึ้นใกล้แตะรถ D-Segment เมื่อ 5 ปีก่อนไปแล้ว แต่เวอร์ชั่น Turbo RS ก็ได้อุปกรณ์เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน นอกจากภายนอก – ภายในห้องโดยสารแบบ RS ที่บอกไปแล้วข้างต้น คุณยังได้ระบบ Honda SENSING ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยแล้ว ยังได้รับความสะดวกสบายจาก Adaptive Cruise Control ที่ทำงานได้จนความเร็วเหลือศูนย์ มีฟังก์ชั่น Stop & Go ช่วยให้นอกจากขับสนุกบนทางด่วนดึกๆแล้ว เวลารถติดตอนเย็นก็คลานตามคันหน้าได้เรื่อยๆไม่เมื่อยเท้า
ช่วงล่างของ Civic ในวันนี้ ถือว่านำหน้าคู่แข่งเรื่องความนุ่ม แต่เป็นรองเรื่องความมั่นใจไปบ้าง เพราะแม้แต่ Toyota Corolla Altis (TNGA) ก็ปรับช่วงล่างจนหนึบเกาะกว่า Civic ไปแล้ว ถ้าว่ากันแบบเดิมๆ ยิ่งไปกว่านั้น Mazda 3 เรื่องช่วงล่างก็หายห่วงเรื่องความมั่นใจ เพียงแต่ว่าสะเทือนมากไปหน่อยเท่านั้น จุดเด่นของ Civic Hatchback ที่โดดเด่นที่สุดใน C-Segment นอกเหนือจากเรื่องความแรงที่อยู่หัวแถวแล้ว พื้นที่ในห้องโดยสารก็กว้างขวางมากที่สุดเช่นกัน กลายเป็นรถซิ่งได้ ที่นั่งสบายที่สุดในกลุ่ม
ถ้าคุณอยากได้รถห้าประตู Hatchback ท้ายสั้น ในระดับนี้คุณมีตัวเลือกไม่มาก Civic ดูเป็นทางเลือกที่แพง แต่ก็ปรับจูนลักษณะของรถมาเผื่อการใช้งานของคนต่างวัย ได้ทั้งแรง ได้ทั้งความโปร่งโล่งสบาย ตอบรับความต้องการของคนส่วนมากได้ดี วัสดุไม่ได้ดีที่สุดในกลุ่มแบบ Mazda 3 เครื่องเสียงไม่ได้ BOSE ที่ดีที่สุดในกลุ่ม แต่คุณจะได้รถที่วางตัวอยู่ตรงกลาง เป็นมิตรกับทุกคน
พรสวรรค์รอบด้านของตัวรถ ก็มาพร้อมกับราคาที่แรงสุดใน C-Segment เช่นกัน นั่นคือจุดที่คุณต้องคิดหนักสุด สำหรับคนที่มองหาความคุ้มค่าในการซื้อรถใช้ เพราะมีเพียงรุ่นย่อยเดียวให้เลือก 1,229,000 บาท แต่ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นสายซิ่ง ชอบแต่ง โมดิฟาย ความแพงนั้น ก็เป็นสิ่งที่น่าจะยอมแลก เพราะคู่แข่งใน Segment ก็ให้สิ่งนี้ไม่ได้เช่นกันจากโรงงาน
Honda SENSING มีระบบอะไรบ้าง และ การทำงานเป็นอย่างไร ?
- Adaptive Cruise Control (ACC) with LSF (Low Speed Following)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน การทำงานก็เหมือนกับระบบ Cruise Control ทั่วไป แต่จะเพิ่มความสามารถในการรักษาระห่างจากรถคันหน้า ตรวจจับโดยกล้องและเรดาร์ เช่น ที่ความเร็ว 120 km/h เราตั้งความเร็วเอาไว้ หากรถคันข้างหน้าลดความเร็วลง ระบบก็จะลดความเร็วลงตาม ถ้าเป็น Cruise Control เราจะต้องเปลี่ยนเลนเพื่อหลบ หรือ เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่ ACC จะช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ หากมีรถมาแทรกกลาง ระบบก็จะค่อยๆชะลอความเร็วลงเช่นกัน แล้ว detect รถคันที่มาใหม่แทน ตามระยะที่เราตั้งเอาไว้ มี 3 ระยะให้เลือก คือ ใกล้ กลาง ไกล หากรถคันหน้าเพิ่มความเร็ว ระบบก็จะเพิ่มความเร็วให้กลับไปสู่ความเร็วและ ระยะห่างที่เราได้ตั้งเอาไว้แต่แรก
ปกติแล้ว ACC จะทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วที่ 30 – 180 km/h เมื่อระบบชะลอความเร็วลง ไฟเบรกก็จะติดด้วยครับ เพื่อให้รถคันหลังทราบ แต่ใน Civic Turbo RS จะเพิ่มระบบ LSF (Low Speed Following) มาให้ด้วย ทำให้ที่ความเร็วต่ำกว่า 30 km/h ยังคงสามารถใช้งานระบบ ACC ได้อยู่ และ เมื่อรถคันหน้าหยุดนิ่ง และ เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง รถของเราก็ยังคงสามารถเคลื่อนตัวตามได้ แต่ถ้าหากหยุดนิ่งเกิน 10 วินาทีขึ้นไป ต้องกดปุ่ม RES หรือ กดคันเร่ง เพื่อช่วยให้ระบบ ACC ทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ
- Collision Mitigation Braking System (CMBS)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ ตรวจจับคนเดินถนน ด้วยกล้อง และ เรดาร์ ทำงานตั้งแต่ความเร็ว 15 km/h ขึ้นไป เมื่อมีรถด้านหน้า หรือคนเดินถนน ระบบจะตรวจจับเมื่ออยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย จะมีข้อความขึ้นเตือนบนหน้าจอ MID ที่ชุดมาตรวัด, มีเสียงเตือน รวมถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัย
ถ้าหากคนขับยังไม่ตอบสนองระบบก็จะช่วยกระตุกเข็มขัดนิรภัย และ เพิ่มแรงเบรกให้ แต่ถ้ารถติดๆไหลๆในเมืองความเร็วไม่เกิน 15 km/h แล้วมัวแต่เล่นมือถือ ระบบจะไม่ทำงานนะครับ คนละแบบกับของ Mazda ที่ช่วยเบรกเฉพาะที่ความเร็วต่ำ
- Lane Keeping Assist System (LKAS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ตรวจจับเส้นแบ่งเลน (ที่เป็นเส้นประ) โดยใช้กล้องด้านหน้า เริ่มทำงานที่ความเร็ว 72 – 180 km/h จะช่วยเตือนด้วยสัญลักษณ์สีส้มบนหน้าจอ MID บนมาตรวัด รวมถึงหากตรวจจับว่ากำลังจะออกนอกเลน พวงมาลัยจะมีการหน่วงช่วยดึงรถให้อยู่ในช่องจราจรสามารถตรวจจับเส้นแบ่งเลนได้ทั้งทางตรง และ ทางโค้ง จับองศาโค้งได้ถึง 230 องศา หากมีการปล่อยมือจากพวงมาลัยระบบก็จะเตือนเช่นกัน
- Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning (RDM with LDW)
ระบบแจ้งเตือน และ ช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ใช้กล้องด้านหน้าตรวจจับเส้นแบ่งเลน (เส้นทึบ ขอบถนน) พูดง่ายๆก็คือระบบจะช่วยตรวจจับไม่ให้รถตกถนนนั่นเอง มีการช่วยหน่วงพวงมาลัยให้กลับเข้าสู่ช่องจราจร หากกรณีที่เบี่ยงออกนอกทางมากขึ้น ก็จะมีการช่วยเบรกชะลอความเร็วด้วย และ มีการแจ้งเตือนผ่านทางสัญลักษณ์สีส้มบนหน้าจอ MID และ เสียงเตือน รวมถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัย
2 ระบบหลังที่ว่ามานี้ หากเส้นถนนจางมาก จนไม่สามารถตรวจจับได้ หรือ ไม่มีเส้นแบ่งช่องจราจรบนถนน ระบบก็จะไม่ทำงานครับ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/74089.0