All NEW Chevrolet Captiva
ราคาอย่างเป็นทางการ
- 1.5 TURBO LS (5 Seats) 869,000 บาท*
* รุ่น 1.5 TURBO LS 5 ที่นั่ง ราคาพิเศษ 869,000 บาท จากราคาปกติ 999,000 บาท (ส่วนลด 130,000 บาท) จำนวนจำกัด 300 คัน ที่จอง และ รับรถภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563
Dimension มิติตัวถัง
- Honda CR-V : 4,571 x 1,855 x 1,667 มม. / ระยะฐานล้อ 2,662 มม.
- Mazda CX-5 : 4,550 x 1,840 x 1,680 มม. / ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
- Nissan X-Trail : 4,690 x 1,830 x 1,740 มม. / ระยะฐานล้อ 2,705 มม.
- Subaru Forester : 4,625 x 1,815 x 1,730 มม. / ระยะฐานล้อ 2,670 มม.
- Chevrolet Captiva : 4,655 x 1,835 x 1,760 มม. / ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
- MG HS : 4,574 x 1,876 x 1,664 มม. / ระยะฐานล้อ 2,720 มม.
Engine เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ DVVT ขนาด 1.5 ลิตร 1,451 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโปรแกรมอัตราทดเกียร์ Shift Control 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
Exterior ภายนอก
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 TURBO 143 แรงม้า 250 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโปรแกรมอัตราทดเกียร์ Shift Control 8 จังหวะ
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17
- ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสก์เบรก / ด้านหลัง ดิสก์เบรก
- ไฟหน้า Projector Lens แบบ ฮาโลเจน
- ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ
- ไฟเลี้ยวหน้า แบบ LED
- ระบบไฟนำทางเข้าบ้าน Walk Me Home
- ไฟตัดหมอกหลัง
- กระจังหน้า โครเมียม / สีเทา
- กันชนหน้า กันชนหลัง พร้อมแผงกันกระแทกรอบคัน
- คิ้วกระจกหน้าต่างภายนอก สีดำ
- โป่งซุ้มล้อ สีดำ
- มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถ
- สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ราวหลังคา
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin
- กระจกมองข้าง ปรับด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว
- ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้า / ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
- แผงแดชบอร์ดหน้า หนังลายยีนส์ Blue Denim
- แผงประตูข้าง หนังลายยีนส์ Blue Denim
- ระบบปรับอากาศ แบบ Electronic
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ปรับแรงลมแยกส่วน
- แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า
- ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร และ ไฟอ่านแผนที่
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติ ฝั่งคนขับ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
- พวงมาลัยยูรีเทน
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อมปุ่มรับสาย-โทรออก
- ชุดมาตรวัดแบบ Optitron
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 4 นิ้ว
- ช่องชาร์จไฟ 12V
- ช่องชาร์จไฟ USB 2 ตำแหน่ง
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
- ระบบ Auto Vehicle Hold
Seating เบาะนั่ง
- เบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง
- เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้ายีนส์ Blue Denim / สีดำ
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 60 : 40
- เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนได้
Entertainment ระบบความบันเทิง
- หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส ขนาด 10.4 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อ Chevrolet Link
- ช่องเชื่อมต่อ AUX
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto (ปี 2020)
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
- ระบบป้องกันการลื่นไถล และ ล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกระทันหัน ESS
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ที่เบาะนั่งแถวที่ 2
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- สัญญาณกันขโมย
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 5 สี
- สีเทา Aurora Silver
- สีเงิน Dazzling Silver
- สีดำ Starry Black
- สีขาว Candy White
- สีแดง Carnelian Red
อัตราเร่ง Chevrolet Captiva 1.5 TURBO
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 12.95 วินาที
- อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 9.85 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 188 km/h @ 5,200 rpm
Fuel Consumption
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง วิ่งเฉลี่ย 110 km/h ทำได้เฉลี่ย 11.76 km/l
Chevrolet Captiva 1.5 TURBO LS : 869,000 บาท
Short Review
เปิดต้นปี 2020 ด้วยการลดราคาลงมาจากเดิมถึง 130,000 บาท ทำให้ตอนนี้ Captiva LS 5 ที่นั่งรุ่นเริ่มต้น เหลืออยู่แค่ 869,000 บาท กับตัวรถขนาดเท่าๆกับ C-SUV อันที่จริงแต่ก่อน Captiva อยู่ในกลุ่ม C-SUV แบบเต็มตัวทั้งขนาดตัวรถ เครื่องยนต์ และ ราคา แต่เวลาล่วงเลยไป 9 ปี กว่าจะมี Model ใหม่ ทำให้การกลับมาของ Captiva ครั้งนี้ Chevrolet ต้องหากลยุทธ์ใหม่มาเล่น ด้วยสงครามราคาแทน
สร้างความคุ้มค่าด้วยตัวรถที่พื้นที่ห้องโดยสารยาว พื้นที่วางขา Legroom เรียกได้ว่าสามารถลงไปนั่งที่พื้นตัวรถได้สบายๆ ติดตั้งหน้าจอกลางขนาดใหญ่มาให้ทุกรุ่นย่อย พร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอด ตัวหน้าจอควบคุมเกือบทุกฟังก์ชั่นของรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียง หรือ ระบบปรับอากาศ การตั้งค่าต่างๆอยู่ที่หน้าจอกลางนี้หมด และ ที่ผมกล่าวมาทั้งหมด นั่นคือจุดเด่นของตัวรถที่มีอยู่
ราคาคุ้มค่า – ขนาดห้องโดยสารที่กว้าง และ ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ 3 ส่วนใหญ่ๆ ที่เป็นจุดเด่นของรถคันนี้ แต่นอกเหนือจาก 3 หัวข้อนี้ Captiva ก็ดูจะอยู่ในระดับกลางๆไปเสียหมด หรือ คู่แข่งอาจจะมีดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยที่น้ำหนักเบาเกินไป ทำให้ความมั่นใจในการขับขี่ลดลง ช่วงล่างที่ค่อนข้างเฟิร์ม แต่พอมาเจอกับพวงมาลัยที่เบาไปหน่อย ทำให้อาการตัวรถค่อนข้างว่อกแว่กเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง หรือ เปลี่ยนเลนกระทันหัน
เบาะนั่งด้านหลัง ฟังก์ชั่นการพับเบาะออกจะแปลกประหลาดกว่ารถคันอื่นๆไปบ้าง ต้องยกเบาะรองนั่งโยกพับไปข้างหน้าก่อน พนักพิงเบาะถึงจะพับลงมาได้เรียบ แต่ข้อดีของเบาะนั่งด้านหลัง คือ ปรับเอนได้หลายระดับ ในรุ่น 5 ที่นั่ง จะปรับเลื่อนหน้า-ถอยหลังไม่ได้ แต่ตั 7 ที่นั่ง เพิ่มฟังก์ชั่นตรงนี้มาให้
เครื่องยนต์แม้จะเป็น 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบมาให้ด้วย แต่แรงม้าที่มีเพียง 143 ตัว ประกอบกับเกียร์ CVT ที่มีอาการเย่อบ้างเล็กน้อย ทำให้อัตราเร่งไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ ถ้าคุณใช้รถยนต์ขับจากจุด A ไป จุด B ขับไปเรื่อยๆไม่คิดอะไรมาก คิดว่าเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าเมื่อไหร่ต้องเรียกพละกำลังมาใช้งาน เช่นเร่งแซงทางไกล ต้องเผื่อระยะเวลากันไว้สักนิดหนึ่ง
สุดท้ายนี้ต้องลองชั่งน้ำหนักกันดู ว่าเราต้องการรถแบบไหน ถ้าต้องการรถยกสูงหน่อย ขับไปไหนมาไหนแค่ในเมือง อยากได้ที่เก็บของเยอะๆ พื้นที่ห้องโดยสารกว้างๆ ในราคาประหยัด Captiva ก็อาจจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนคาดหวังสูง หรือ ต้องการรถที่ไม่ได้ดีที่สุด แต่กลมกล่อมเหมาะกับการใช้งานในทุกๆด้าน ลองมองตัวเลือกอื่นไว้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/73972.0