BMW X5 xDrive45e (G05 : Plug-in Hybrid)
ราคาอย่างเป็นทางการ (รุ่นประกอบในประเทศ)
- X5 xDrive45e M Sport 4,999,000 บาท
มาพร้อม BSI Standard รับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าบำรุงรักษา BSI นาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
โดยรายละเอียดของแต่ละ Package ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเพิ่มได้ บวกจากราคาข้างต้น มีดังนี้
- BSI Plus : เพิ่ม BSI ฟรีค่าบำรุงรักษาเป็น 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร + 40,000 บาท
- Warranty Plus : เพิ่ม การรับประกันตัวรถเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง + 50,000 บาท
- BSI Ultimate : เพิ่ม ทั้ง 2 อย่าง (BSI ฟรีค่าบำรุงรักษา และ การรับประกันตัวรถ) + 90,000 บาท
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,922 x 2,004 x 1,745 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,975 มิลลิเมตร
- ระยะห่างล้อหน้า / ล้อหลัง : 1,666 / 1,685 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน : 83 ลิตร
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 650 – 1,870 ลิตร (เมื่อพับเบาะ)
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.32
เมื่อเทียบกับ X5 F15 รุ่นเดิม รุ่นใหม่ All NEW X5 G05 จะยาวขึ้น 36 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 66 มิลลิเมตร สูงขึ้น 19 มิลลิเมตร และ ระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 42 มิลลิเมตร
Engine เครื่องยนต์
X5 xDrive45e Plug-in Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี. Twin Power Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.6 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive
ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า ที่ 3,170 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร ที่ 0-3,170 รอบ/นาที
เมื่อรวมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้พละกำลังสูงสุด 394 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่ Lithium-ion ติดตั้งอยู่พื้นตัวถังรถ ขนาด 24.0 kWh 354V
Charging การชาร์จไฟฟ้า
การชาร์จไฟบ้านทำได้ หลายวิธี คือ
- ชาร์จไฟแบบเสียบปลั๊กปกติทั่วไป สามารถชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 11 ชั่วโมง 40 นาที
- BMW i Wallbox (กำลังชาร์จ 3.7 kWh) ชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 6 ชั่วโมง 40 นาที
- Charging Station / Wallbox (กำลังชาร์จ 7 kW) ชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 3 ชั่วโมง 40 นาที
- Charging Station (กำลังชาร์จ 11 kW) ชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 2 ชั่วโมง 15 นาที
- โหมด EV : วิ่งด้วยไฟฟ้า ได้ไกลสูงสุด 80 km. (ตัวเลขจากโรงงาน)
- วิ่งด้วยไฟฟ้า ความเร็วสูงสุด 140 km/h
- มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 รูปแบบ
- SPORT
- ELECTRIC
- ADAPTIVE
- BATTERY CONTROL
Drivetrain & Technology ระบบขับเคลื่อน และ เทคโนโลยี
- เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic
- ช่วงล่างถุงลม Adaptive M 2-Axle
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control with braking function
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ แบบ xDrive
- ระบบ Driving Assistant
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning,
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา Lane Change Warning
- ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Crossing-traffic Warning Rear
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ และ คนเดินถนน ที่ความเร็วต่ำ City Braking Function
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ขณะถอยจอด Rear Collision Prevention
- ระบบเตือนป้ายจราจร Speed Limit Info and no-overtaking indicator
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display
- ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus)
Exterior ภายนอก
- ล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-Spoke แบบสลับสี
- คู่หน้า 9.5J x 21″ – คู่หลัง 10.5J x 21″
- ยาง Runflat คู่หน้า ขนาด 275/40 R21 – คู่หลัง 315/35 R21
- ระบบไฟหน้า Adaptive LED ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย
- ไฟตัดหมอกแบบ LED
- ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ High-beam Assistant
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบปลดล็อคประตูอัจฉริยะ Comfort Access System
- ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู Soft-Close function for doors
- กุญแจรีโมทระบบสัมผัส BMW Display Key
- หลังคากระจกแบบ Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ชุดตกแต่ง M Aerodynamics
- ขอบหน้าต่างสีดำเงา
- ราวหลังคาสีดำเงา
Interior ภายในห้องโดยสาร
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Vernesca
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต
- เบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบความจำตำแหน่งฝั่งคนขับ Memory Seat
- ที่ปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support เบาะนั่งคู่หน้า
- เบาะนั่งด้านหลัง แบ่งพับแบบ 40 : 20 : 40
- พวงมาลัย Multifunction หุ้มหนังแบบ M Sport
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร Ambient Light
- เพดานหลังคา สี Anthracite
- ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชั่นควบคุมอุณหภูมิ
- ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้
- ภายในตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon
- ม่านบังแดดประตูคู่หลัง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 4 Zones
- ระบบจัดเก็บสัมภาระท้ายรถ Luggage Compartment Package
Entertainment ระบบความบันเทิง
- ชุดมาตรวัด BMW Live Cockpit Professional
- ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส Touch Controller
- ระบบ BMW Connected Drive ประกอบไปด้วย
- ระบบแสดงข้อมูลการจราจรแบบ Real-time
- บริการติดต่อผู้ช่วยส่วนตัว Concierge Service
- ระบบ Remote Service
- ระบบ Teleservice
- ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน Intelligent Emergency Call
- ฟังก์ชั่นสั่งงานระบบ iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ BMW Gesture Control
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon
- ระบบเชื่อมต่อ และ ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging
- ปุ่มเรียกใช้ฟังก์ชั่นที่ชื่นชอบ
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS / EBD / BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ DSC
- ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนน DTC
- ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
- พร้อมฟังก์ชั่น Hold อัตโนมัติ ขณะรถหยุดนิ่ง
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน Crash Sensor
- ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง Side Impact Protection
- เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอด ด้านหน้า
- เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอด ด้านหลัง
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Camera
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ม่านถุงลมนิรภัย
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 4 สี
- สีดำ Black Sapphire
- สีขาว Mineral White
- สีน้ำเงิน Phytonic Blue
- สีเทา Arctic Grey Brilliant Effect
สีภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 สี (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
- สีน้ำตาลเข้ม Coffee / Black
- สีดำ Black / Black
ผลทดสอบ อัตราเร่ง BMW X5 xDrive45e M Sport
Acceleration
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 6.11 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 3.95 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 248 km/h @ 6,400 rpm (6th gear)
BMW X5 xDrive45e M Sport (G05) 4,999,000 บาท
Short Review
ใครจะไปคิดว่า SUV ร่างใหญ่ขนาดนี้อย่าง X5 xDrive45e แต่สามารถทำอัตราเร่งแซง ทำได้เทียบเท่า M2 Coupe’ !!!
ใช่ครับ คุณไม่ได้ตาฝาด หรือ ผมเขียนผิดแต่อย่างใด ด้วยแสงยานุภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า 113 แรงม้า และ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 เทอร์โบ พละกำลังรวมทั้งระบบ 394 แรงม้า ประกอบกับการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 24.0 kWh มันใหญ่กว่ารถ Plug-in Hybrid รุ่นอื่นๆในตลาดถึง 2 เท่า (X5 xDrive40e รุ่นเดิม แบตเตอรี่ขนาด 9.6 kWh ส่วนรุ่นอื่นๆในตลาด เช่น XC60 – XC90 T8 แบตเตอรี่ 11.6 kWh / E 300e – GLC 300e ขนาด 13.5 kWh) ทำให้การเรียกพลังงานไปใช้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และ นานกว่า
เทียบกับ X5 รุ่นเดิมรหัส 40e ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ 9.2 kWh พละกำลังรวม 313 แรงม้า พอมาเป็น X5 รุ่นใหม่ G05 เปลี่ยนรหัสใหม่เป็น 45e และ อัพเกรดมาใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 เทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ 24.0 kWh ถ้ากลัวว่าจะประหยัดน้อยลงกว่าเดิม ก็เลิกความคิดนั้นไปได้เลย เพราะ ทั้งพละกำลัง และ ความประหยัดดีขึ้นกว่าเดิม อย่างน่าเหลือเชื่อ เหตุผลหลักคือ แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และ Logic การจัดการพลังงานของระบบ Hybrid ที่ทำงานได้ดีขึ้น
อัตราเร่งแซง 80-120 km/h ของ X5 xDrive45e อยู่ที่ 3.95 วินาที สามารถฟัดกับ M2 Coupe’ ที่ทำตัวเลขได้ 3.83 วินาที ได้สบายๆ แต่ต้องทำใจในช่วงความเร็วปลายว่าจะโดนฉีกออกไปเรื่อยๆ ด้วยข้อจำกัดของระบบ Hybrid เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปพ่วงเทอร์โบเพียวๆ ไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้ามาเกี่ยวข้องอย่าง M2 Coupe’ (X5 xDrive45e 0-200 km/h : 20.65 วินาที ในขณะที่ M2 Coupe’ 0-200 km/h ทำได้ 17.75 วินาที) แต่ SUV ร่างยักษ์ขนาดนี้ทำอัตราเร่งได้แบบนี้ ถือว่าเร็วที่สุดในตลาดแล้ว เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน
- XC90 T8 AWD : 0-100 km/h : 6.96 sec | 80-120 km/h : 5.42 sec
- X5 xDrive45e : 0-100 km/h : 6.11 sec | 80-120 km/h : 3.95 sec
แต่ถ้าข้ามไปอีกระดับ เจอกับ Porsche Cayenne e-Hybrid 462 แรงม้า อันนี้ต้องยอมให้ เพราะรายนั้น 0-100 km/h อยู่ประมาณ 5.98 วินาที และ อัตราเร่งแซง 80-120 km/h อยู่แถวๆ 3.7 วินาที แต่ค่าตัวก็ต่างกันพอสมควร เริ่มต้นที่ 6,680,000 บาท หรือ แพงกว่า X5 เกือบๆ 2 ล้านบาท
จากที่เคยลองระบบ Hybrid ของทั้ง BMW / Mercedes-Benz / Volvo พบว่า Logic การรักษาพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่ และ การชาร์จไฟกลับเข้าระบบ ของ BMW จะทำงานได้มีประสิทธิภาพน่าพึงพอใจมากที่สุดในบรรดา SUV ด้วยกัน เมื่ออยากชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่เพื่อเตรียมออกศึก ก็สามารถเลือกโหมด Battery Control และ ตั้งเปอร์เซนต์ของระดับแบตเตอรี่เอาไว้ได้ การชาร์จไฟเข้าก็ทำได้เร็ว ทั้งจากเครื่องยนต์ และ ระบบ Regenerative Brake
เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ถึง 24.0 kWh การชาร์จไฟเข้าจึงใช้เวลานานขึ้นเป็นเงาตามตัว ถ้าใช้ที่ชาร์จที่แถมมากับรถ เสียบกับเต้าเสียบบ้านธรรมดากำลังไฟ 2.1 kW ก็จะชาร์จนาน แนะนำให้ติด BMW iWallbox ที่มีกำลังชาร์จ 3.7 kW ก็จะทำให้ใช้เวลาน้อยลง
- ชาร์จไฟแบบเสียบปลั๊กปกติทั่วไป สามารถชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 11 ชั่วโมง 40 นาที
- BMW i Wallbox (กำลังชาร์จ 3.7 kWh) ชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 6 ชั่วโมง 40 นาที
ข้อเสียเปรียบของ BMW ที่เป็น Plug-in Hybrid ในขณะนี้คือ กำลังชาร์จสูงสุดที่ตัวรถรองรับได้คือ 3.7 kW เท่านั้น หากไปเสียบ Charging Station ที่มีกำลังมากกว่านี้ ก็ได้สูงสุดเพียง 3.7 kW เท่านั้น ทำให้การชาร์จไฟใช้เวลานานกว่าของค่ายอื่นในกรณีที่ชาร์จที่ Station
สำหรับค่าไฟในการชาร์จ 1 ครั้ง จาก 0-100 % อยู่ประมาณ 58 บาท แลกกับการวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียวได้ประมาณ 70 km. ค่าใช้จ่ายก็ตกอยู่ประมาณ 0.82 บาท ต่อ 1 กิโลเมตร
มาที่ด้านการขับขี่บังคับควบคุมกันบ้าง ช่วงล่าง Adaptive M ปรับระดับความสูงได้มากถึง 40 มิลลิเมตร แต่ปรับความแข็งอ่อนของตัวช็อคอัพได้ ในโหมด Sport ก็ยังไม่แข็งจนเกินไป มันซับแรงสะเทือนทุกดอกได้ดี ทุกคนในครอบครัวน่าจะแฮ้ปปี้ แต่ความนุ่มของมันยังทำให้ความมั่นใจในการเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง ยังเป็นรอง Audi Q7 อยู่ แต่ได้ความนุ่มนวลมากกว่ามาแทน ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ ความมั่นใจของช่วงล่าง อยู่ระหว่าง XC90 และ Audi Q7 โดย X5 ให้ความนิ่ง ความมั่นใจมากกว่า XC90 พอสมควร
พวงมาลัยน้ำหนักดี ตามสไตล์ BMW การตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้า ทำได้น่าประทับใจ เนียนราบลื่น มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 รูปแบบ SPORT / ELECTRIC / ADAPTIVE / BATTERY CONTROL ในส่วนของ Sport Mode ยังปรับแบบ Individual ได้อีก ทั้ง พวงมาลัย ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น Comfort หรือ Sport
ค่าตัว 4,999,000 บาท กับ Option ที่มาครบ ถือเป็น BMW รุ่นแรกๆที่ของมาครบตั้งแต่เปิดตัว ไม่ต้องรอให้ปรับอุปกรณ์กันรายปี ล้อ 21 นิ้ว ช่วงล่าง Adaptive M, หลังคากระจกเต็มบาน Panoramic Sunroof, เครื่องเสียง Harman Kardon, หน้าจอกลางแบบเต็ม มาตรวัด Live Cockpit รวมไปถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนมุมอับกระจกมองข้าง ระบบเตือนเปลี่ยนเลน และ ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่อง พวงมาลัยดึงกลับให้ ขาดก็แต่ Adaptive Cruise Control ที่จริงๆแล้วน่าจะให้มาด้วย จริงๆคันนี้ก็ขาดแค่นี้แหละครับ ที่ควรจะมีมาให้ได้แล้ว ซึ่งตรงนี้แพ้ให้กับ Volvo XC90 T8 เพียงแค่จุดนี้จุดเดียว นอกนั้นผมมองว่า X5 จัดมาให้ครบกว่า ในราคาใกล้เคียงกัน
ความน่าซื้อของ BMW Plug-in Hybrid คือ การมี BSI มาครอบคลุมเอาไว้ ทำให้ไม่ต้องกังวลกับเรื่อง Service ไปอีก 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร บางช่วงอาจมีโปร 6 ปี หรือ 120,000 km. และ ทางเลือก 10 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับคนใช้รถน้อย ก็เป็นตัวแปรที่ทำให้อุ่นใจได้มากขึ้นกับการใช้รถ PHEV สักคัน
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/74980.0