หลังจากที่ MG ประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV 100% ในบ้านเรา ด้วยการเปิดตัว MG ZS EV นำเข้าจากประเทศจีน ด้วยราคาสุดเร้าใจ ถูกที่สุดในตลาด เพียง 1,190,000 บาท เท่านั้น ก็สร้างยอดขายแบบถล่มทลาย จากกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าหลักหน่วยต่อเดือน สู่หลักร้อย
ปี 2020 นี้ แม้จะมีการแพร่ระบาดจากไวรัส COVID-19 แต่ MG ประเทศไทย ยังคงเปิดตัวผลิตภัณฑ์เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ต้นปี เปิดตัว MG ZS Minorchange กันไปเป็นที่เรียบร้อย ช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ ก็มีรถ Compact SUV ทางเลือกใหม่ Plug-in Hybrid เตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ถือเป็นครั้งแรกของ MG ที่เปิดตัวรถยนต์ PHEV สู่ตลาดเมืองไทย
รุ่นรถที่ MG ประเทศไทย เตรียมจะเปิดตัว คือ MG HS Plug-in Hybrid คาดว่าพร้อมๆกับ Mitsubishi Outlander PHEV จากทางฝั่งญี่ปุ่น (อ่านข้อมูลได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/mitsubishi-outlander-plug-in-hybrid-comimg-soon-thai-2020/) ต้องรอดูกันว่า 2 ค่าย จากสองฝั่ง ใครจะทำราคาได้ดีกว่ากัน รวมถึงการจัด Option และ ทำการตลาด สร้างความเข้าใจกับกลุ่มลูกค้า
ล่าสุด MG ประเทศไทย ประกาศเตรียมเปิดตัว MG HS PHEV (Plug-in Hybrid) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 27 ตุลาคม 2020 ที่จะถึงนี้ ! เตรียมรอลุ้น สเป็ค และ ราคาอย่างเป็นทางการกันได้เลย
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว 4,574 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,876 มิลลิเมตร
- สูง 1,664 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร
Color สี
- ภายนอก มีให้เลือก 3 สี
- สีแดง Scarlet Red
- สีขาว Arctic White
- สีดำ Black Knight
- ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 โทนสี
- สีน้ำเงินเข้ม – สีขาว
- สีดำ
Engine & Powertrain เครื่องยนต์ และ ขุมพลัง
เครื่องยนต์เบนซิน Direct Injection 4 สูบ แถวเรียง Blue Core ขนาด 1.5 ลิตร 1,490 ซีซี. GDI พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.0 x 86.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU Gearbox
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวมสูงสุด 291 แรงม้า 480 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 16.5 kW
ตัวเลขสมรรถนะจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.6 วินาที
- วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางไกลสุด 75 กิโลเมตร
รายละเอียด Option ของ MG HS PHEV (Plug-in Hybrid) เวอร์ชั่นไทย คร่าวๆมีดังนี้
Exterior ภายนอก
- ช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง / ด้านหลัง Multi-Link พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน / ด้านหลัง ดิสก์เบรก
- ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ไฟเลี้ยวด้านหน้า – ด้านหลัง แบบ LED แบบ Sequential
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
- ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ
- ระบบไฟ Welcome Light
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ Follow me home Light
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า / หลัง
- ไฟท้าย LED
- ไฟเลี้ยวด้านหน้า – ด้านหลัง แบบ LED Sequential
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
- ล้ออัลลอย แบบ 5 ก้านคู่ 18 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 235/50 R18
- ยางอะไหล่แบบ Spare tire
- กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว
- ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า Power Tailgate
- แผงกั้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
- ราวหลังคา
- สปอยเลอร์หลัง
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสารสีทูโทน น้ำเงินเข้ม-ขาว / สีดำ (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีเงิน และ สีเงินกึ่งมันแบบ Hairline
- แผงแดชบอร์ดหน้า บุนุ่มหุ้มด้วยหนังสีแดง เดินตะเข็บด้าย
- แผงประตู บุนุ่มหุ้มด้วยหนังสีแดง เดินตะเข็บด้าย
- ฝ้าเพดานหลังคา สีดำ
- ชุดแป้นคันเร่ง และ เบรก แบบสปอร์ต
- หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า 4 บาน ขึ้น-ลง อัตโนมัติคู่หน้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
- ชุดมาตรวัดแบบ Optitron
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
- ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร แบบ LED
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5
- กล่องเก็บของคอนโซลกลาง แบบรักษาอุณหภูมิ
- ช่องชาร์จไฟ 12V
- ช่องชาร์จไฟ USB 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- พวงมาลัย Multi-function แบบสปอร์ตท้ายตัด
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อมปุ่มรับ-วางสาย
- ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ Super Sport บนพวงมาลัย
- โหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ
- ECO
- Normal
- Sport
- Custom
- กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Interactive Ambient Light ปรับเปลี่ยนได้ 64 สี และ ปรับตามโหมดการขับขี่
Seating เบาะนั่ง
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สลับหนังกลับ Alcantara สีน้ำเงินเข้ม-ขาว / สีดำ (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมที่ปรับดันหลัง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
- เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 1 จังหวะ
- ที่วางแขนตรงกลางเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมที่เก็บของ และ ที่วางแก้วน้ำ
Entertainment ระบบความบันเทิง
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
- เครื่องเสียง วิทยุ AM/FM
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบ i-SMART สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย
- สั่งเปิด-ปิดระบบปรับอากาศ
- เครื่องเสียง
- โทรออก และ รับสาย
- สั่งเปิด-ปิด Sunroof
- ระบบสั่งงานบนหน้าจอ
- ระบบนำทาง พร้อมรายงานจราจร Real Time
- แนะนำร้านอาหาร – ที่พัก
- เลขาส่วนตัว i-Call
- โทรออก-รับสายในกรณีฉุกเฉิน
- ระบบสั่งงานบน Smart Phone
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
- เปิดระบบปรับอากาศ
- ล็อค-ปลดล็อคประตู
- วางแผนการเดินทาง Travel Plan
- ระบบ Find My Car
- ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบสตรีมมิ่ง
- ระบบแผนที่นำทาง Navigation System
- ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE พร้อม SubWoofer
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโมัติ IHC
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบ Auto Vehicle Hold
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถเสี่ยงต่อการชนคันหน้าขณะขับขี่ FCW
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบช่วยเตือนการปิดประตู DOW
- ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยของ MG HS PHEV (Plug-in Hybrid) จะมีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2020 นี้ ก่อนงาน Motor Expo จะเริ่มต้นขึ้นปลายเดือน พฤศจิกายน
ราคาของ MG HS PHEV (Plug-in Hybrid) คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,200,000 – 1,500,000 บาท หากมีข้อมูลเพิ่มเติมของ MG HS Plug-in Hybrid ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/77509.0