บทความโดย: MayT feat. Pan
“One of the primary reasons why the human brain has evolved to look so far
into the future is so that we can take actions in the present that will bring us
to a better future than a worse one.”
เหตุผลหลักข้อหนึ่งที่ว่าทำไมมันสมองของมนุษย์นั้นถูกพัฒนามาให้คิดไปข้างหน้าหรือคิด
คาดการณ์ล่วงหน้าได้ดีนั้น ก็เพื่อให้เราสามารถกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในปัจจุบันเพื่อส่งผลให้
มีอนาคตที่ดีขึ้นและไม่ไปเจอกับสิ่งร้ายๆ พูดง่ายๆแบบภาษาไทยก็คือสมองมนุษย์อย่างพวกเรานี่มี
ความสามารถที่จะคิดถึงผลที่จะตามมาจากสิ่งที่เรากระทำได้ เราจึงทำในสิ่งที่จะหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ “งานเข้า” ในภายหลังนั่นเองครับ
มีบทความหรือหนังสือพร้อมเคล็ดลับที่สอนไม่ให้เจ็บตัว สอนไม่ให้เสียรู้ หรือสอนไม่ให้
กระทำในสิ่งที่เดือดร้อนต่อสังคม หรือมองจากอีกทางหนึ่ง หากทุกคนในสังคมนั้นใช้สมอง
เพื่อพาตัวเองให้พ้นปัญหา เราคงไม่ได้เห็นพฤติกรรมอันน่าเบื่อหน่ายมากมายบนท้องถนน
หรือแม้แต่ในที่จอดรถตามห้างหรืออาคารธุรกิจต่างๆ..พฤติกรรมประเภทที่ผู้คนที่ได้รับรู้
ต่างก็ต้องถามว่านี่ใช้ “หัว” หรือว่า “หัวแม่ตีน” คิดกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถแบบโง่ๆ
ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ความเลินเล่อต่างๆนานาที่ส่งผลให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเกิดความ
เสียหาย หรือส่งผลให้คนอื่นๆต้องมาเสียเวลาเพราะตัวเอง พอโดนด่าเข้าหน่อยก็แสดง
สัญชาติญาณกิ้งก่าแผงคอพันธุ์บ้านพ่ออยู่ออสเตรเลียพองฟู่ขู่หรือด่าเขากลับ
ถ้าวันหนึ่งโดนตบด้วยทุเรียนสักทีก็คงไม่แปลกใจ
ถ้ามีวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการด่าหรือโดนด่าได้ เราก็ควรทำ เพื่อเป็นการเห็นแก่ “คุณค่า”
ของสมองที่เรามี สิ่งต่างๆที่จะเขียนแนะนำกันต่อไปนี้นั้น โปรดระลึกไว้เสมอว่า
มันจะดีและได้ผล ต้องช่วยกันทั้ง 2 ทาง และคิดใจเขาใจเราแบบ 2 ทาง อย่าทำตัวเป็น
เด็กอมมือที่คอยคาดหวังว่าคนอื่นจะต้องมาทำดีกับเราโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่เคยคิด
และอย่าใช้คำอ้างคลาสสิคว่า “ใครๆเขาก็เอาเปรียบสังคมกันทั้งนั้น” หรือ “ใครๆเขาก็ทำกัน
ทั้งนั้นจะไปกลัวอะไร” ถ้าคิดแบบนั้นก็ควรถามตัวเองว่าในโลกนี้ใครๆเขาก็ตายกัน
ทำไมคุณไม่ไปทดลองตายกับเขาดูบ้าง อย่าเอาเหตุผลมั่วซั่วมาอ้างเพื่อความสะดวก
ของตัวเองเลย
.
วันนี้ Headlightmag จึงขอเสนอข้อควรทราบและมารยาท 9 ประการที่จะช่วยลดปัญหา
ทุกๆคนดีขึ้นหากช่วยกันปฏิบัติแบบ 2 ทาง มีให้ มีรับ และใจเขาใจเรา
ดูเหมือนว่าเป็นธรรมเนียมอันระบุที่มาไม่ได้ว่าทุกคนเวลาถอยเข้าจอดในซองนั้น
จะต้องเอาท้ายรถเข้าเสมอ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ให้พิจารณา
.
อย่างในภาพข้างบน จะเห็นว่าที่จอดนี้มีช่องทางสำหรับเข็นรถเข็นเอาของมาใส่
ขนของสะดวกกว่ามั้ย?
.
.
อย่างในภาพ รถคัน A ถอยจอดยังไม่คล่อง กลัวครูดเสา เลยจอดกินพื้นที่มาทางขวาเยอะ
ในขณะเดียวกัน รถคัน B ก็จอดกินพื้นที่ด้านซ้ายมาเยอะด้วย แม้ทั้ง A และ B จะไม่ล้ำเส้น
ช่องจอด แต่ที่ซึ่งเหลือไว้ให้กับรถสีเขียวนั้นก็น้อยมาก หากเจ้าของรถคันสีเขียวตัดสินใจ
ถอยเข้าจอดแบบรถทุกคันล่ะก็ เจ้าของรถคันเขียวจะลงจากรถได้ยากเพราะเนื้อที่จำกัด..
ถ้าอยากจอดให้ลงง่ายๆก็ได้แต่เจ้าของรถคัน C ก็จะขึ้นรถตัวเองไม่ได้ แล้วมันก็เป็นที่มา
.
.
คนผอมอาจจะไม่เดือดร้อน แต่ถ้าคุณตัวใหญ่กว่าคนปกติ ก็คงจะเกาหัวด้วยความเคือง
อ้าว..แล้วกูจะขึ้นยังไง กลายเป็นดราม่าบน Facebook ได้อีก ดังนั้นวิธีป้องกันก็ไม่ยากเลย
ก็หันหน้ารถเข้าแทนสิครับ
.
.
เพราะถ้าหันหน้ารถเข้า คุณก็สามารถจอดชิดไปทางรถคัน A ได้มากขึ้น ถ้ามีผู้โดยสาร
ติดรถมาด้วยก็ปล่อยผู้โดยสารลงก่อนก็ได้ครับ การจอดลักษณะนี้จะเห็นได้ว่าเนื้อที่
สำหรับเปิดประตูของรถคันเขียวนั้นจะกว้างขึ้น ในขณะเดียวกันรถคัน C ทางขวาก็ยัง
สามารถขึ้นรถของตัวเองได้โดยไม่ลำบาก ทุกคนกลับบ้านได้ แม้กระทั่งคัน A ที่จอดชิดเสา
ทางซ้าย ถึงแม้ฝั่งคนนั่งจะไม่มีที่ให้ขึ้น แต่คนขับก็สามารถขึ้นรถแล้วขับออกมาก่อนแล้วให้
ผู้โดยสารขึ้นทีหลังก็ได้ ไม่มีปัญหา
(คสช. ในที่นี้ย่อมาจาก “คนสนิทที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ”)
– คอยชำเลืองดูด้านหลังซ้ายเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าไม่มีรถมาก็ค่อยถอย
ออกอย่างมั่นใจ
.
กำลังจะสตาร์ทรถแล้วออกจากช่องจอด อย่าดีใจจนเผลอกระแทกเบรกกระทันหัน
.
.
เมื่อรู้แล้วว่าจะไปจอดตรงไหน ก็เปิดไฟฉุกเฉิน หรือเปิดไฟเลี้ยวข้างที่มีรถกำลังจะออก
เป็นมารยาทเหมือนกับจะบอกรถคันหลังว่า “เดี๋ยวผม/ดิฉัน/หนู/กู จะจอดช่องนี้นะ
แต่ถ้าให้ความคิดกับมันสักนิดก่อนจอดหรือเลือกจุดที่ต้องการจะจอด ก็อาจช่วยให้
.
.
.
.
ขับกลับบ้านกลายเป็น Jeep Wrangler รุ่นไร้ประตู เท่จะตายชัก หรือบางครั้งก็อาจเป็น
อุบัติเหตุที่สุดวิสัยจริงเช่นมีคนทำน้ำมันหกไว้บนพื้นแล้วรถวิ่งสวนลงมาเหยียบทำให้
ไถลไปโดนรถคุณ..เสียไม่คุ้มสะดวกครับ
.
ซึ่งเวลาเปิดประตู เจ้าตัวนี้จะทำหน้าที่คล้ายสปริงรั้งให้ประตูอยู่นิ่งกับที่เป็น step
ที่โรงงานตั้งเอาไว้ ปัญหาคือบางครั้งไอ้การเด้งเข้าร่องเข้าจุดของมันนี่ล่ะครับ
แรงมากจนสามารถทำเอารถคันข้างๆบุบได้ พวก Mercedes-Benz มักจะมี
ประตูแบบนี้ล่ะครับ ผมเคยโดนคนเปิดชนจนบุบไปเลย (และรถทั้งสองคัน
การใจเย็นหาที่จอดสบายๆกว้างๆนั้นลืมไปได้เลย แล้วจะเปิดประตูยังไงในที่แคบมากๆ
โดยที่ประตูรถเราไม่ไปชนขับสีข้างรถคนอื่นเขา?
.
..คำตอบคือ ก็เอามือหนีบข้างประตูไวแบบนี้สิครับแล้วเปิดไปเลย ต่อให้คุณต้องเบียดต้องยัน
กับประตูเพียงไร ตราบใดที่ยังเอามือคั่นไว้รถคันข้างๆก็จะไม่เป็นรอยหรอกครับ มีรอยอย่างมาก
ก็แค่รอยเหงื่อที่มือของคุณนั่นล่ะครับ
5. จอดขวาง อย่าใส่เกียร์ อย่าดึงเบรกมือ
เป็นเรื่องปกติที่น่ารำคาญใจมาก ที่ใดมีที่จอดรถ ที่นั่นย่อมมีพวก P-Man and Handbrake Girl
ปรากฏให้เห็นทั้งๆที่มีป้ายเขียนเอาไว้แล้วว่า…
.
.
เหตุผลที่จะใส่เกียร์ P หรือดึงเบรกมือก็แล้วแต่จะว่ากันไป บางคนก็ทำเพราะว่าลืม
ลืมจริงๆไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น ปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้ความคิด ก็โอเค แต่บางคนก็จะทำ
เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นมาเข็นรถตัวเอง เพราะกลัวรถตัวเองเป็นรอย ทั้งๆที่ตัวเอง
ก็จอดปิดคนอื่นเขา อาศัยความคิดมักง่ายตื้นๆว่าตัวเองไปธุระแป๊บเดียว คงไม่เป็นไร
.
.
สิ่งที่ถูก และควรทำให้เป็นนิสัยก็คือ เวลาจอดซ้อนคัน นอกจากจะไม่ใส่เกียร์ P
ไม่ดึงเบรกมือ คุณควรทดลองเข็นรถตัวเองไปมาด้วยเพื่อให้ชัวร์ว่ารถสามารถเข็นได้
นอกจากนี้ก่อนจะจอดก็ควรเล็งแนวล้อให้ตรง มองหน้ามองหลัง สมมติว่ารถเรา
ต้องถูกเข็น มันจะต้องเข็นเป็นแนวตรงๆได้โดยไม่ไปจนกับส่วนหน้าหรือท้าย
ของรถที่จอดในช่องจอด ซึ่งอาจจะล้ำออกมา
ทีนี้ รถสมัยใหม่หลายรุ่นนั้นไม่สามารถจอดโดยปลดมาเกียร์ว่างได้เลย เช่นรถยุโรป
และพวกรถไฮบริดญี่ปุ่นบางรุ่น ซึ่งถ้าไม่ใส่ P ก็จะเอากุญแจออกหรือดับเครื่องไม่ได้
แถมยังไม่มีปุ่มให้กดปลดล็อคเลื่อนคันเกียร์ไป N ได้ด้วย หากเป็นแบบนี้ แนะนำว่า
หาช่องจอดดีๆแบบไม่ต้องให้ใครมาเข็นดีกว่าครับ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆคุณสามารถ
เรียกการ์ดเมตตาธรรมค้ำจุนโลกได้ 2 แบบ
.1) ถ้าจำเป็นต้องจอด และคิดว่าไม่เกิน 5-10 นาที ให้เขียนกระดาษแปะไว้หน้ารถ
“เรียนพี่เจ้าของรถทะเบียน xx-xxxx คะ หนูปวดขี้กระทันหัน ขออนุญาตจอดแปะ
จะกลับมาภายใน 5 นาทีค่ะ ขออภัยจริงๆ”
2) ถ้ามีแววว่าจะต้องจอดนานมาก ให้เขียนเบอร์โทรแปะไว้ด้วย
“เรียนพี่เจ้าของรถทะเบียน xx-xxxx คะ หนูกินส้มตำใส่พริก 3 เม็ดตามด้วยโค้กลิตร
และเผลอซัดนมหมดอายุไปด้วย..หนูคงเข้าๆออกๆห้องน้ำทั้งวัน ถ้าพี่จะเอารถออก
โทรเรียกหนูที่เบอร์ 08x-xxx-xxxx นะคะ ขออภัยจริงๆค่ะ”
.
นี่เขียนเป็นตัวอย่างเอามันส์ แต่เป็นวิธีที่ผมเคยใช้จริงๆและมันช่วยลดความโมโห
ของคนที่ถูกคุณจอดปิดช่องลงไปได้มาก เป็นการป้องกันไม่ให้รถคุณถูกขูดสีหรือ
โดนปล่อยลมยางโดยไม่จำเป็น บางคนอาจจะมองว่าการเปิดเผยเบอร์มือถือนี่
ใครเดินผ่านมาก็เห็น แล้วมีเลขทะเบียนมีเบอร์มือถือนี่จะโดนเอาไปใช้ด้วยประสงค์ร้าย
อะไรหรือเปล่า? มันสุดจะคาดเดาครับ แต่คุณต้องเลือกว่าจะทำสิ่งที่ถูกต้องต่อสังคม
หรือถูกความต้องการของคุณ ถ้าคุณเลือกอย่างหลังแล้วคู่กรณีเขางัดการ์ด
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” มาใช้ ห้ามงอแงนะครับ เจอกันที่ สน. ลูกเดียว
.
6. อย่าเห็นแก่ตัวโดยการส่งร่างจำแลงไปจองที่จอด
ขอร้องเถอะ..อย่าส่งคนลงไปยืนจองที่จอดรถ- รถยนต์บางคันนั่งกันมาหลายคน
ระหว่างที่รถติดอยู่ในลานจอดบนอัตราความเร็วเต่าคลาน ทันใดนั้นใครสักคนบนรถ
เหลือบไปเห็นช่องจอดที่ถัดไปอีกหนึ่งบล็อก ก็เลยอาศัยช่วงรถติดเปิดประตูเดินลงไปยืน
เป็นกรวยปักหลักจับจองช่องจอดที่เล็งไว้เสียดื้อๆ เรื่องแบบนี้จัดว่าเป็นมารยาท
ที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง ช่องจอดในห้างสรรพสินค้าไม่ใช่การพรีออเดอร์ซื้อครีมหน้าเด้ง
กับเน็ตไอดอล ลองคิดดูสิว่าถ้าสมมมุติคุณคือเจ้าของรถที่เปิดไฟเลี้ยวเตรียมถอยจอด
ในช่องดังกล่าว จู่ๆมีใครก็ไม่รู้มายืนขวางแล้วยกมือทำท่าปางห้ามญาติ
เป็นสัญลักษณ์บอกว่าฉันจองแล้วนะ คุณคงจะอารมณ์เสียขนาดหนัก
.
ที่แย่กว่านั้น คือพ่อแม่บางคนไปช้อปปิ้งกับลูกเล็กๆวัยประถมต้น เจอช่องว่างก็ให้ลูก
วิ่งไปยืนจองที่จอดโดยหวังอาศัยให้ผู้คนเมตตาจากความเป็นเด็ก บอกไว้ก่อนนะครับ
ว่าเคสนี้เจอมนุษย์ใจเหี้ยมถอยชนจนเอาดื้อๆจนขึ้นโรงขึ้นศาลเลยก็มีมาแล้ว
.
.
สาเหตุที่ห้างสรรพสินค้าอำนวยความสะดวกแก่คนพิการให้ติดกับประตูทางเข้าก็เพราะว่า
ถ้าเราปล่อยให้คนพิการนั่งวีลแชร์จอดตรงไหนก็ได้เหมือนบุคคลทั่วไป สมมุติเขาได้ที่จอด
ตรงชั้น1B แล้วไม่มีลิฟท์พาร่างกับรถเข็นที่เขาปั่นล้อด้วยมือลงหรือขึ้นมายังภายในตัวห้าง
จะทำยังไงล่ะ ไหนจะต้องเสี่ยงกับความปลอดภัยต่ำโดยฝ่าทางเดินรถจากจุดที่จอดมายังประตู
ทางเข้าของห้างซึ่งเสี่ยงอันตรายอยู่พอสมควร นี่ยังไม่นับความไม่สะดวกจากช่องจอดที่คับแคบ
กระเถิบร่างกายออกจากรถอย่างยากลำบาก สังเกตไหมครับ ช่องจอดรถคนพิการมักมีขนาด
กว้างกว่าช่องจอดคนทั่วๆไป ก็เพราะต้องเผื่อพื้นที่การขึ้น-ลงรถที่ง่ายดายสำหรับคนพิการนั่นเอง
ส่วนคนที่มีคนแก่อยู่ในรถ เช่นครอบครัวที่เดินทางกับผู้สูงอายุ ซึ่งยังสามารถเดินได้
และไม่ต้องใช้ไม้เท้าหรือรถเข็น กรุณาจอดช่องรวมกับบุคคลทั่วไป หากคุณกลัวว่าคุณปู่
คุณย่าจะเดินเข้าห้างไม่ไหวหรือไกลเกินไป รบกวนวนรถไปส่งคุณปู่กับคุณย่าลงไปกับน้อง
หรือญาติอีกสักคน ให้เขาไปนั่งรอก่อน ส่วนตัวคุณก็วนหาที่จอดรถไป แล้วค่อยไปนัดเจอกัน
ในตัวห้างก็ได้นี่ครับ เซฟพื้นที่คนพิการ ไว้ให้คนที่พิการจริงๆเขาใช้ดีกว่ามั้ยครับ?
.
นาทีนั้นนอกจากรปภ.จะไม่ได้ยืนบริการประจำจุดจึงมองไม่เห็นสัญญาณการ
ขอความช่วยเหลือของคุณแล้ว รถยนต์คันที่เปิดไฟเลี้ยวรอจอดต่อจากคุณยังไม่มีน้ำใจ
พอที่จะลงมาช่วยเข็นรถที่ขวางอีก
ไม่เสียหาย แต่อย่าลืมว่ากรอบทะเบียนหรือกันชนเหล็กของรถบางรุ่นมันฝากรอยถาวร
ไว้ได้นะครับ
.
.
ในการเข็นรถ กรุณาระวัง นาฬิกาข้อมือ เครื่องประดับโลหะ เช่นแหวน กำไล จะไปขูดสี
ของรถคันอื่น อย่าไปคิดว่า “คนที่จอดซ้อนคันมันต้องทำใจเตรียมรับเรื่องพวกนี้ได้”
คนเราถ้ามันมีทางเลือกที่จะไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ก็ควรยอมที่จะทำบ้าง อย่างที่ผม
บอกไปแล้วว่าเรื่องแบบนี้ ต้องทำแบบ 2 ทาง อย่างใจเขาใจเรา มีให้ มีรับ และรถคันที่ขวางคุณ
จริงๆแล้วเขาอาจจะถูกเข็นยาวมาจากอีก 4-5 ช่วงคันถัดไปก็ได้ ดังนั้นก็มีน้ำใจให้กันสักนิด
สปอยเลอร์ แม้จุดยึดจะแข็งแรงแต่ถ้าของมันเตรียมจะพังอยู่แล้วแต่ดันมาพังคามือคุณนี่
เจรจายากนะครับ ถ้าจะเข็น ก็วางมือดีๆ ดันตรงจุดที่เป็นรอยต่อระหว่างบอดี้รถกับฝากระโปรงท้าย
หรือถ้าเข็นจากด้านหน้าก็ดันตรงโคนเสา A-Pillar (เสาหน้าของรถ) ตรงนั้นจะเป็นจุดที่
มีความแข็งแรงมากครับ สามารถรับแรงดันมือคนได้
9. เสร็จธุระ ถ้ามีคนจ่อต่อคิว เลื่อนออกมาจอดแปะก่อน
หลายต่อหลายครั้งคุณจะพบว่ารถในลานจอดติดเป็นแถวยาว เพราะมีรถรอเข้าเสียบใน
ช่องจอด ซึ่งมีคนทำท่าเหมือนจะออก คือขึ้นรถแล้ว สตาร์ทรถแล้ว แต่ยังไม่ยอมออก
และรถที่รอเข้าเสียบอยู่นั้นก็ดื้อแพ่งจะจอดตรงนั้นให้ได้ ในกรณีนี้ รถคันที่รอจะจอดเอง
ก็ต้องประเมินตามความเหมาะสม คุณอาจจะเห็นเจ้าของรถเดินมาแล้ว และกำลังขนของ
ขึ้นรถอยู่ ก็ต้องดูว่าสัมภาระนั้นปริมาณมากแค่ไหน บางครั้งกว่าจะยัดใส่รถเสร็จก็กินเวลา
ก็ไม่ควรที่จะรอครับ ไปหาเอาข้างหน้าดีกว่า
และถ้าคุณเป็นรถที่อยู่ในช่องจอด ถ้าคิดว่าพร้อมจะไปแล้วก็ควรขับออกมาเลยดีกว่า
บางคนไม่ยอมออก อาจจะเพราะรอเพื่อนอีกคนที่ยังมาไม่ถึงหรือด้วยเหตุอื่นๆ ก็ควร
มีน้ำใจเดินไปบอกรถคันที่รออยู่สักหน่อยว่า “ยังไม่ออกนะครับ/ค่ะ”
ผมมักจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นผู้ถูกกดดัน (มีคนเปิดไฟฉุกเฉินรอจะจอด) วิธีที่
ผมจะเลือกใช้คือสำรวจก่อนว่าถ้าเลี้ยวออกจากช่องจอดไปแล้ว มีที่ว่างให้พอจอด
ซ้อนคันแปะชั่วคราวได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ก็จะเลื่อนรถออกให้รถอีกคันจอดแทน
แล้วก็ไปจอดซ้อนคันแปะในบริเวณใกล้ๆกัน โดยที่ตัวผมเองก็ยังรอคุณแม่หรือรอเพื่อน
อยู่ในรถนั่นแหละ วิธีนี้ผมไม่ได้เสียเวลา ไม่ได้เสียอะไรเลย และยังเป็นการเอื้อเฟื้อ
ให้คนอื่นได้ที่จอด และทำให้การจราจรภายในลานจอดสามารถดำเนินต่อไปได้
แต่หากว่าไม่มีจุดที่สามารถอพยพไปจอดแปะได้เลยจริงๆ ผมก็จะบอกว่ายังไม่ออกครับ
ขอโทษด้วย หรือไม่ก็บอกเขาว่า “เดี๋ยวพี่จอดชิดข้างทางแล้วรอตรงนี้แป๊บครับ เดี๋ยว
แม่ผมมาแล้วผมจะออกให้พี่เสียบเข้าแทน” พูดกันดีๆแบบนี้แล้วถ้าใครยังก้าวร้าว
สบถใส่คุณอีกก็แปลว่ามันนิสัยเลวแบบเฉพาะตัวแล้วล่ะครับ
9 หัวข้อที่เขียนไว้ด้านบนนี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ หลายท่านก็ทำจนเป็นเรื่องปกติ
อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องดีครับ เราอย่าไปคิดว่าโลกนี้มันเป็นโลกที่แล้งน้ำใจ คนอื่นไม่มีใคร
ทำตัวดีมีน้ำใจ อย่าไปคิดมากหรือเสียแรงทำตัวเป็นคนดีของสังคม ความคิดแบบนี้
อันตรายต่อตัวคุณเองแน่นอน
ในขณะที่บางคนอาจคิดว่า รถ 100 คันนั้นจะมีน้ำใจและรักษาระเบียบแค่ไม่กี่คัน
ก็ควรลองคิดด้วยว่าถ้าสมมติ 100 คันนั้น เกิดมีคุณเพียงคนเดียวที่แหกกฎและทำตัว
ให้คนอื่นเดือดร้อน สถานการณ์มันจะกลับตาลปัตรขนาดไหน
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น ก็จงใช้สมองและวิจารณญาณของตนเองเพื่อทำสิ่ง
ที่จะไม่พาตัวเองไปพบปัญหา อย่างที่ผมเอาคำพูดของ Daniel Goldstein มาพาดไว้
ตอนต้นเรื่องเถิดนะครับ
ขอให้โชคดีหาที่จอดรถสบายๆง่ายๆ กลับถึงรถแล้วไร้รอยอันไม่พึงปราถณากันทุกท่านครับ
by
MayT – Music gets the best of me.
Pan Paitoonpong – I just want to get a parking spot.
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความและภาพถ่าย โดยผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.Headlightmag.com
7 กันยายน 2015
Copyright (c) 2015 Text and Photographs
Use of such content either in part or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
September 7th , 2015