หลาย ๆ ประเทศกระตือรือร้นออกมาตรการบังคับทุกวิถีทางเพื่อลดการใช้รถเครื่องสันดาป
ภายในอย่างเร่งด่วน โดยมีจุดมุ่งหวังเพื่อลดมลภาวะ และ เร่งให้ประชาชนหันมาซื้อรถยนต์
รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และ โจทย์สำคัญที่หลายประเทศ ต่างเพ่งเล็งนั่นก็คือ การหา
มาตรการแบนเครื่องยนต์ดีเซล ที่มองว่าเครื่องตัวนี้เป็นภัยเงียบที่ควรต้องกำจัดออกจาก
สารบบโดยเร็ว
ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวลือแต่อย่างใด เพราะมันมาจากมติการประชุมสุดยอดนายกเทศมนตรี
C40 Mayors Summit จัดที่ประเทศเม็กซิโก ในวันที่ 1 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา โดย
มีประเด็นเด็ดคือประเทศกลุ่มเข้าร่วมประชุมจะต้องหาทางสนับสนุนรถยนต์พลังงาน
ทางเลือก และ ขยายสาธารณูปโภคสำหรับผู้เดินทางเท้า และ ผู้ใช้รถจักรยาน
Anne Hidalgo เทศมนตรีจากปารีส (Paris, France) และ เป็นโต้โผประชุมกลุ่ม
สภาวะอากาศในเมือง C40 กล่าวว่า “พวกเราจะไม่ทนต่อมลพิษทางอากาศที่นำไปสู่
ปัญหาสุขภาพ และ การเสียชีวิตของประชาชน ปัญหามลพิษคือปัญหาที่ต้องลงมือ
แก้ไขอย่างหนัก จนถึงขั้นต้องเรียกผู้ผลิตรถยนต์ และ รถบัสเข้าร่วมประชุมด้วย”
4 ผู้นำเทศมนตรี ก็ขอเรียกร้องให้ผู้นำประเทศตระหนักถึงปัญหาความเสี่ยงของสุขภาพ
อันเกิดจากมลพิษอากาศในเมือง โดยอ้างอิงข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกว่าปัญหา
มลพิษในอากาศจากนอกอาคารมีส่วนทำให้ประชากรเสียชีวิตถึง 3,000,000 คนต่อปี
Manuela Carmena เทศมนตรีเมืองมาดริด (Madrid, Spain) กล่าวว่า “คุณภาพ
อากาศที่ประชากรหายใจอยู่ทุกวันนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ
เปลี่ยนแปลง ถ้าหากมีการลดมลพิษจากไอเสียรถยนต์ลงได้ ก็จะทำให้อากาศ
สะอาด, เด็ก ๆ ปู่ย่าตายาย และ เพื่อนบ้านก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย”
Miguel Ángel Mancera เทศมนตรีเม็กซิโกซิตี้ (Mexico City, Spain) เผยว่า
“เราได้ขยายระบบขนส่งทางเลือกอาทิเช่น การขยายสายการเดินรถบัสที่บนเลน
ด่วนพิเศษ (BRT) และ รถไฟฟ้าใต้ดินรวมถึงขยายสาธารณูปโภคสำหรับผู้ขับขี่
จักรยานด้วย”
Giorgos Kaminis เทศมนตรีเมืองเอเธนส์ (Athens, Greece) เผย “เป้าหมาย
ของเราคือการห้ามรถยนต์วิ่งในบริเวณใจกลางเมืองเอเธนส์ภายในเวลาอีกไม่นาน
ผลสรุปจากมติร่วมของผู้นำเทศมนตรีจาก 4 มุมเมืองคือการสั่งห้ามรถยนต์เครื่องยนต์
ดีเซลวิ่งในเขตเมืองตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวิธีการลดมลพิษแบบหักดิบ
แบบเดียวกับประเทศอังกฤษ ที่สั่งแบนรถยนต์ดีเซลห้ามวิ่งในเขตเมืองภายในปี 2025
และ ประเทศเยอรมนีก็สั่งห้ามรถยนต์ดีเซล และ เบนซินวิ่งใน 16 เขตรัฐภายในปี 2030
ที่มา : Autocar Professional