ราคาอย่างเป็นทางการ Toyota Alphard / Vellfire (40 Series)

  • Alphard 2.5 HEV E-FOUR : 4,269,000 บาท
  • Vellfire 2.5 HEV E-FOUR : 4,419,000 บาท
  • Alphard 2.5 HEV Luxury E-FOUR : 4,639,000 บาท

ปรับราคาเพิ่มขึ้น 140,000 บาท มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 เป็นต้นไป 

นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมให้บริการหลังการขาย โดย Toyota Motor Thailand (Official Authorized)

มาพร้อมการรับประกันและบริการ ดังนี้

  • รับประกันคุณภาพตัวรถสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร เมื่อเข้าเช็คระยะตามกำหนด
  • รับประกันระบบ Hybrid 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี
  • ฟรีค่าแรงเช็คระยะจนถึง 100,000 กิโลเมตร

 

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

  • ความยาว
    • Alphard 5,010 มิลลิเมตร
    • Vellfire 5,005 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,950 มิลลิเมตร (Alphard 2.5 HEV ล้อ 17 นิ้ว สูง 1,945 มิลลิเมตร)
  • ความยาวฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
  • ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร

เปรียบเทียบกับ Alphard / Vellfire รุ่นเดิม (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)

  • Alphard / Vellfire (40 Series) : 5,010 x 1,850 x 1,950 / 3,000 มิลลิเมตร
  • Alphard / Vellfire (30 Series) : 4,945 x 1,850 x 1,895 / 3,000 มิลลิเมตร

 

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

เบนซิน 2.5 ลิตร Hybrid

เครื่องยนต์รหัส A25A-FXS เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 87.5 x 103.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 14.1 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection D4-S กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 236 นิวตันเมตร ที่ 4,300 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 182 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หลัง E-FOUR กำลังสูงสุด 54 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ทำงานในช่วงออกตัว ที่ความเร็วตำ่ และขณะเข้าโค้ง พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Nickel Metal-hydride รองรับนำ้มันเชื้อเพลิงสูงสุด Gasohol E10

กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 250 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-FOUR 

โหมดการขับขี่ มีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่

  • Normal Mode
  • ECO Mode
  • EV Mode
     

 

Toyota Alphard และ Vellfire ใหม่ ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA (GA-K) นอกจากการใช้โครงสร้างที่ทนต่อแรงดึงสูงแล้ว ยังมีการใช้ชิ้นส่วนที่เรียกว่า straight rockers หรือคานค้ำบริเวณโครงสร้างด้านหน้า และ V-shaped brace ซึ่งเป็นคานค้ำรูปทรงตัว V เชื่อมระหว่างกึ่งกลางตัวรถและเสาหลังคา C-Pillar ช่วยลดการบิดตัวของโครงสร้างเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว

ระบบกันสะเทือน
Suspension

  • ด้านหน้า เป็นแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ด้านหลัง เป็นแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบห้ามล้อ
Brake

  • ด้านหน้า เป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน Ventilated Disc
  • ด้านหลัง เป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน Ventilated Disc

 

อุปกรณ์ภายนอก
Exterior Options

  • ไฟหน้าแบบ Full LED
  • ไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light
  • ระบบหน่วงเวลาปิดไฟหน้า Follow-Me-Home
  • ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟตัดหมอกหลัง LED
  • กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน Acoustic Glass
  • หลังคากระจกสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกฝั่งซ้าย – ขวา Twin Moonroof
  • เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง
  • เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
  • เซ็นเซอร์อัจฉริยะ Intelligent Clearance Sonar
  • บานประตูสไลด์ด้านข้างเปิด – ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
  • ฝาท้ายไฟฟ้า Power Tailgate
  • ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว (เฉพาะ Vellfire 2.5 HEV และ Alphard 2.5 HEV Luxury)
  • ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะ Alphard 2.5 HEV)
  • ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS
  • ชุดปะยางฉุกเฉิน
  • สัญลักษณ์ Executive Lounge (เฉพาะ Alphard 2.5 HEV Luxury)
  • ป้ายสัญลักษณ์ Official Authorized

 

(Toyota Alphard 2.5 HEV : Black Exterior – Beige Interior)

อุปกรณ์ภายใน
Interior Options

  • เบาะนั่งหุ้มด้วย หนังแท้ Premium Nappa และหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อม Memory Seat 3 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบอุ่นและระบายความร้อน Ventilator & Heater
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติ Welcome Seat
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมระบบอุ่นและระบายความร้อน Ventilator & Heat
  • สวิตช์ปรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านข้างพนักพิง
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง ด้วยสวิตช์ไฟฟ้า
  • พวงมาลัย พร้อมระบบทำความอุ่น Heater
  • คอนโซลหน้า หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์
  • คอนโซลหน้า หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยลายไม้ Uzuramoku
  • คอนโซลด้านบน แบบ Super-long Overhead Console
  • ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light ปรับได้ 64 สี
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat (เฉพาะ Vellfire 2.5 HEV และ Alphard 2.5 HEV)
    • เบาะนั่ง 2 ตำแหน่ง
    • ระบบปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง
    • เบาะรองน่อง Ottoman
    • หน้าจอควบคุม Detachable Tablet
    • ระบบ Memory Seat 2 ตำแหน่ง
    • ระบบระบายความร้อน Ventilator
    • ระบบนวด Massage Relaxation
    • ระบบ Smart Comfort Program
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Executive Lounge (เฉพาะ Alphard 2.5 HEV Luxury)
    • เบาะนั่ง 2 ตำแหน่ง
    • ระบบปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง
    • เบาะรองน่อง Ottoman
    • หน้าจอควบคุม Detachable Tablet
    • ระบบ Memory Seat 2 ตำแหน่ง
    • ระบบระบายความร้อน Ventilator
    • ระบบนวด Massage Relaxation
    • ระบบ Smart Comfort Program
    • โต๊ะพับส่วนตัว พร้อมกระจกแต่งหน้า
    • ตกแต่งด้วยลายไม้ Uzuramoku
  • สวิตช์ปรับเบาะนั่งแถวที่ 2 จากด้านหลัง
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบแยกพับแขวน 50 : 50
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 พร้อมพนักวางแขนตรงกลาง
  • หน้าจอชุดมาตรวัดแบบ Digital ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับการแสดงผลได้ 4 รูปแบบ ได้แก่
    • Casual
    • Smart
    • Tough
    • Sporty
  • ระบบแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า Head-up Display
  • หน้าจอชุดเครื่องเสียงระบบสัมผัส ขนาด 14 นิ้ว
  • ระบบนำทางผ่านดาวเทียม Navigation System
  • รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto
  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
  • ระบบเชื่อมต่อ T-Connect
  • ลำโพง JBL 15 ตำแหน่ง
  • กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor
  • หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอน หลังขนาด 14 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI
  • ช่องชาร์จ USB Port ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
  • ช่องชาร์จ USB Port ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
  • ช่องชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า Power Outlet 1 ตำแหน่ง
  • แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger
  • เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 4 โซน
  • ระบบฟอกอากาศ Nanoe X ด้านหน้า
  • ระบบฟอกอากาศ Nanoe X ด้านหน้า และด้านหลัง (เฉพาะ Alphard 2.5 HEV Luxury)
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลจากกล้องด้านหลัง
  • ม่านบังแดดด้านข้าง สำหรับเบาะนั่งแถว 2 – 3 ปรับด้วยไฟฟ้า
  • กล้องบันทึกภาพ หน้า – หลัง
  • พรมรองพื้นห้องโดยสาร

 

(Toyota Vellfire 2.5 HEV : Precious Grey Exterior – Black Interior)

ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่
Safety Features & Driving Assistance

  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
    • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
    • ถุงลมนิรภัยด้านข้างเบาะนั่งคู่หน้า
    • ม่านถุงลมนิรภัย
  • ระบบป้องกันล้อล็อก Anti-lock Braking System (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Distribution (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist (BA)
  • ระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว Vehicle Stability Control (VSC)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control System (TRC)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Assist Control (HAC)
  • ระบบป้องการออกตัวฉุกเฉิน Drive Start Control (DSC)
  • แพ็คเจกความปลอดภัย Toyota Safety Sense
    • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ Pre-collision System (PCS)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ All-speed Dynamic Radar Cruise Control (All-speed DRCC)
    • ระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้งด้วยระบบ All-speed DRCC
    • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Tracing Assist (LTA)
    • ระบบรักษารถให้อยู่ในเลนด้วยการหน่วงพวงมาลัย Lane Departure Assist (LDA)
    • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam  (AHB)
  • ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านหน้า Blind Spot Monitoring (BSM)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถขณะถอยหลัง Rear Cross-traffic Alert (RCTA)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถขณะเปิดประตู Safe Exist Assist
  • จุดยึดเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX
  • เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR จุด พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย สำหรับเบาะนั่งทุกตำแหน่ง

 

(Toyota Alphard 2.5 HEV Luxury : Platinum White Pearl Exterior – Sunset Mocha Interior)

สีตัวถังภายนอกและภายใน
Colors Options

Alphard 2.5 HEV E-FOUR มีให้เลือก 3 สี ดังนี้

  • สีขาว Platinum White Pearl – ภายในโทนสีเบจ
  • สีดำ Black – ภายในโทนสีเบจ
  • สีเทา Precious Metal – ภายในโทนสีดำ

Vellfire 2.5 HEV E-FOUR มีให้เลือก 3 สี ดังนี้

  • สีขาว Platinum White Pearl – ภายในโทนสีดำ
  • สีดำ Black – ภายในโทนสีดำ
  • สีเทา Precious Metal – ภายในโทนสีดำ

Alphard 2.5 HEV Luxury E-FOUR มีให้เลือก 3 สี ดังนี้

  • สีขาว Platinum White Pearl – ภายในโทนสีนำ้ตาล Sunset Mocha
  • สีดำ Black – ภายในโทนสีนำ้ตาล Sunset Mocha
  • สีเทา Precious Metal – ภายในโทนสีดำ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here


รับชมคลิปได้ที่นี่


ราคาอย่างเป็นทางการ Lexus LM 350h : 6,290,000 – 7,590,000 บาท | นำเข้าโดย Toyota Motor ประเทศไทย