BMW เปิดตัว THE ALL-NEW 5-SERIES รหัสตัวถัง G30 ครั้งแรกในโลก เมื่อเดือน ตุลาคม 2016 โครงสร้างพื้นฐานเป็นแบบ Cluster Architecture หรือ CLAR ที่มีจุดเด่นเรื่องน้ำหนักเบากว่าเดิม นับเป็น 7th Generation แล้ว
- 1st Generation : E12
- 2nd Generation : E28
- 3th Generation : E34
- 4th Generation : E39
- 5th Generation : E60
- 6th Generation : F10
- 7th Generation : G30
จากนั้นเพียงเวลาไม่กี่เดือน BMW ประเทศไทย ได้เปิดตัว 5-Series รหัสตัวถัง G30 อย่างเป็นทางการในไทยครั้งแรก ไปเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2017 โดยเป็นรุ่นนำเข้า CBU มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ 520d Luxury (Limited) / 520d Luxury / 530i M Sport จากนั้น 1 สิงหาคม 2017 ให้หลังเพียง 4 เดือน ก็เริ่มประกอบในประเทศทันที กับรุ่น 520d Sport
3 เดือนต่อมา เพิ่มขุมพลังรหัสใหม่ 530e Plug-in Hybrid มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Luxury / M Sport แต่ดูเหมือนว่า ลูกค้าในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 520d จะต้องการ option เพิ่มมากกว่านี้ จึงเปิดตัว 520d M Sport ตามออกมา และ เปลี่ยน 530e Luxury เป็น 530e Highline ในเวลาต่อมา และ รุ่นล่าสุดคือ 530e Elite เคาะราคา 5-Series ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,999,000 บาท เท่านั้น
เป็นเวลา 3 ปีกว่าแล้วตั้งแต่เปิดตัว 5-Series G30 คราวนี้ถึงเวลาสำหรับรุ่นปรับโฉม LCI ที่ย่อมาจาก Life Cycle Impulse หรือที่เราเรียกว่า Facelift / Minorchange นั่นเอง เป็นการเปิดตัวแบบ Digital Premiere แทนการเปิดตัวแบบเดิม เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เทหน้าตักเปิดตัวพร้อมกันทั้ง 5-Series LCI และ 6-Series GT LCI ในคราวเดียว
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน 5-Series G30 LCI นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เยอะกว่า F10 LCI โฉมที่แล้วแบบพลิกฝ่ามือ เพราะรุ่นที่แล้วนั้น เกือบจะเรียกว่าเป็น Photo Hunt เลยทีเดียว รอบนี้แก้มือปรับเยอะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
BWM 5-SERIES LCI มีการเปลี่ยนแปลงงานดีไซน์ ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ปรับเปลี่ยนเยอะกว่าสมัยโฉมที่แล้วอย่าง F10 ที่แยกไม่ค่อยออกระหว่างรุ่นก่อนหน้า และ รุ่น LCI แต่สำหรับ 5-SERIES G30 เรียกได้ว่าเปลี่ยนเยอะ สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ 7-SERIES ส่วนที่เปลี่ยนแปลงมีดังนี้
- ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่
- กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ Giant Kidney Grille
- กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
- ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่
นอกเหนือจากงานดีไซน์แล้ว ด้านขุมพลังมีการปรับเปลี่ยนจากเดิมทั้งหมด ทุกรหัส ทุกเครื่องยนต์ มีการเพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V เพื่อช่วยในการออกตัว ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง 520d กันเลยทีเดียว
รหัส 20
520i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 290 Nm ที่ 1,350 – 4,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว
520d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง เพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว
รหัส 30
530i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ที่ 5,200 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง เพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว
530d
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,993 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง เพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว (เดิม 265 แรงม้า 620 นิวตันเมตร)
รหัส 40
540i
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 333 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง เพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว
540d
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,993 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive เพิ่มระบบ Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว
รหัส M
M550i xDrive
เครื่องยนต์เบนซิน V8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร 4,395 ซีซี. TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 530 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที
Plug-in Hybrid
530e
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo + มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
พร้อมฟังก์ชั่น Electric Boost ” XtraBoost ” ช่วยในด้านอัตราเร่ง โดยมอเตอร์ไฟฟ้า ตั้งแต่ 100 นิวตันเมตร ไปจนถึง 250 นิวตันเมตร ทำให้พละกำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 292 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 12.0 kWh (Gross)
545e xDrive
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี. เทอร์โบ TwinScroll กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.6 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบ/นาที
ทำงานร่วมกับระบบ BMW eDrive ระบบ Plug-in Hybrid มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 113 แรงม้า ที่ 3,170 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,700 รอบ/นาที พละกำลังเมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า 394 แรงม้า 600 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 12.0 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive
BMW 5-Series LCI คาดว่าน่าจะเปิดตัวในไทยอย่างเร็วที่สุดช่วงปลายปี 2020 นี้ หรืออย่างช้า ไม่เกินกลางปี 2021 หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ