All NEW Ford Ranger RAPTOR



Ford Ranger RAPTOR ถูกสร้างขึ้นเพื่อ เปิด Segment ใหม่ เฉพาะของตนเอง ด้วยการเป็นกระบะ Off-Road ที่เหนือกว่ากระบะทั่วไปในตลาด เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 โดย Ford Motor Company ได้เลือกประเทศไทย เป็นสถานที่ในการเปิดตัว Ford Ranger RAPTOR (เรนเจอร์ แรพเตอร์) ครั้งแรกในโลก นำทีมโดย Ford Performance ที่เป็นแผนกที่พัฒนา และ ออกแบบรถยนต์สมรรถนะสูงของ Ford

โดย Ford Ranger RAPTOR ในประเทศไทย ประกาศราคาขายเอาไว้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018 ที่งาน Motor Show หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่ Lake Side เมืองทองธานี เคาะราคา 1,699,000 บาท โดยเสียภาษีสรรพสามิตเดียวกับรถยนต์นั่ง Passenger Cars เนื่องจากช่วงล่างด้านหลังใช้คอยล์สปริง ไม่ใช่แหนบ ตามกฎหมาย-พรบ.ว่าด้วยภาษีรถยนต์ของประเทศไทย

จากนั้นปรับอุปกรณ์ Ranger RAPTOR MY2019 ขายในราคาเดิม แต่เพิ่ม Option หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-LED, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System, ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System, ระบบเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ และ คนเดินถนน AEB : Autonomous Emergency Braking และ ช่องเชื่อมต่อ USB ที่กระจกมองหลัง และ ตัวล่าสุดคือ Ranger RAPTOR X รุ่นพิเศษส่งท้าย ราคา 1,729,000 บาท แต่งรอบคันให้ดุดันกว่าเดิม เปิดตัวในเดือน มิถุนายน 2021


24 พฤศจิกายน 2021 หลังจากเปิดตัว All NEW Ranger เวอร์ชั่นปกติไปเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ 22.02.2022 หรือ 22 กุมภาพันธ์ 2565 All NEW Ford Ranger RAPTOR โฉมใหม่ เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็น Top of the line ของกระบะ Ranger โดยมาพร้อมกับคำนิยาม Ultimate Performance Truck : EVEN HIGHER

  • Ranger XL
  • Ranger XLS
  • Ranger XLT
  • Ranger Sport
  • Ranger Limited
  • Ranger FX-4
  • Ranger Wildtrak
  • Ranger RAPTOR 


Highlights ของ All NEW Ford Ranger RAPTOR

Powertrain ขุมพลัง

  • เครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost V6 3.0 เทอร์โบคู่ 397 แรงม้า 583 นิวตันเมตร
  • เครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 เทอร์โบคู่ (เปิดตัวในปี 2023)
  • เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 2.0 Bi-Turbo (เปิดตัวในปี 2023)
  • เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ SelectShift
  • ระบบท่อไอเสียแปรผันควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า สามารถปรับระดับเสียงได้ 4 รูปแบบ
    • Quiet Mode โหมดเงียบ
    • Normal Mode โหมดปกติ
    • Sport Mode โหมดสปอร์ต
    • Baja Mode เสมือนระบบต่อตรง
  • ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว
  • ยาง All-Terrain BF Goodrich KO2
  • บันไดข้าง ทำจากอะลูมิเนียม


Drive System ระบบขับเคลื่อน

  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD Full-Time
  • โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
    • Normal
    • Sport
    • Slippery
    • Rock
    • Mud & Ruts
    • Sand
    • Baja
  • ระบบ Differential Lock 4 ล้อ
  • ระบบเกียร์ Transfer ควบคุมด้วยไฟฟ้า
  • ระบบ Trail Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ Off-Road
    • รักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ Off-Road ความเร็วไม่เกิน 32 km/h ควบคุมการเร่ง และ เบรก
  • ระบบป้องกันการรอรอบ Anti-Lag System (ALS)
    • เป็นส่วนหนึ่งของ Baja Mode รักษาการหมุนของเทอร์โบที่ความเร็วสูง ต่อไปอีก 3 วินาที หลังจากปล่อยคันเร่ง


Chassis & Suspension ช่วงล่าง และ แชสซีส์

  • ช็อคอัพ FOX แบบ Live Valve Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ปรับได้แบบ Real-time
    • พัฒนาโดยทีม Ford Performance
    • น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon ลดการเสียดสีถึง 50%
    • ระบบป้องกันการหดตัวค้างของช็อคอัพ Bottom-Out Control
  • ปีกนกบน และ ปีกนกล่าง ทำจากอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา
  • ช่วงล่างด้านหลัง แบบ Watt’s Link
  • แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ หนา 2.3 มิลลิเมตร
  • ตะขอลากจูงหน้า-หลัง



Exterior – Interior ภายนอก – ภายในห้องโดยสาร

  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ไฟท้าย LED
  • ไฟเลี้ยวแบบ Dynamic Light
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีส้ม Code Orange
  • เบาะนั่งแบบสปอร์ต Bolster Seat ตกแต่งด้วยแถบสีส้ม
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่พวงมาลัย แบบ Magnesium
  • พวงมาลัย พร้อมแถบ On-Center Mark
  • คันเกียร์แบบ Electronic Shifter (e-Shifter)
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา

 

Entertainment ระบบความบันเทิง

  • ชุดมาตรวัด Full Digital ขนาด 12.4 นิ้ว
  • หน้าจอกลาง Touchscreen แนวตั้ง ขนาด 12.o นิ้ว
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A
  • รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
  • ระบบเสียงรอบทิศทาง Bang & Olufsen
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง

Engine เครื่องยนต์

Gasoline V6 3.0 EcoBoost

เครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ พละกำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ SelectShift ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time 4WD

Diesel 2.0 EcoBlue Bi-Turbo

เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time 4WD

All NEW Ford Ranger RAPTOR คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในช่วงปี 2023 หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/82516.0