ชื่อชั้นของ NISMO นั้นเป็นที่เลื่องลือกันดีว่า เมื่อใดที่พบสัญลักษณ์ NISMO ของแท้จากโรงงาน คุณก็สามารถคาดหวังสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นมาตรฐานแทบจะทุกอย่างจนรู้สึกสัมผัสได้
แต่เมื่อโลกเราหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปทุกวัน NISMO ก็จำเป็นต้องเตรียมถ่ายโอนความสปอร์ตลงสู่รถยนต์ที่ติดตั้งขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับอนาคต เพราะ NISMO ก็เชื่อว่า ถึงจะเป็นรถยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็ใช่ว่าจะต้องมีการขับขี่ที่จืดชืดเสมอไป
ล่าสุด Nissan Motor ได้เปิดตัว Nissan LEAF NISMO เวอร์ชันผลิตจริง ครั้งแรกที่จะนำพาเทคโนโลยีล้ำหน้าและความเร้าใจลงสู่รถยนต์ไฟฟ้า EV ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูสปอร์ตและสมรรถนะ
Nissan LEAF NISMO ได้มีการปรับจูนหน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์ (ECU) ให้มีอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ฉับไว, มีการเปลี่ยนยางใหม่ และมีการปรับปรุงช่วงล่างเพื่อให้มีการบังคับควบคุมที่ดีขึ้นและมีการขับขี่ที่นุ่มนวล
Nissan LEAF NISMO มีการปรับปรุงดีไซน์และเพิ่มฟีเจอร์ภายนอก ดังนี้
- ติดตั้งโลโก้ NISMO ที่ด้านหน้า-ด้านหลัง
- ไฟหน้า LED Hyper DayLight
- กระจังหน้าสไตล์ใหม่
- กันชนหน้าสไตล์ใหม่
- กระจกมองข้างสีดำ พร้อมไฟเลี้ยวสีเข้ม
- ชุดแอโรพาร์ท
- กันชนท้ายท้ายใหม่
- ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Continental ContiSportContact 5
ภายในห้องโดยสารก็มีการตกแต่งในสไตล์สปอร์ต ได้แก่
- พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มด้วยหนังแท้ / Alcantara ตกแต่งด้วยวัสดุสีแดง ด้านบนพวงมาลัย, เดินด้ายสีแดงและวัสดุสีโครเมียมเข้ม
- หัวคันเกียร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีโครมเข้ม
- กรอบช่องแอร์และปุ่มกดสตาร์ท ตกแต่งด้วยวัสดุสีแดงล้อมรอบ
- เปลี่ยนวัสดุเบาะนั่งใหม่พร้อมเดินด้ายสีแดง
Nissan LEAF NISMO มีการปรับปรุงระบบช่วงล่างและการขับขี่ ต่อไปนี้
- ปรับจูนพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่
- เปลี่ยนโช๊คอัพใหม่
- ปรับปรุงระบบเบรกอัจฉริยะ
- ปรับปรุงการทำงานของหน่วยประมวลผล ECU
- ปรับปรุงระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
- ปรับปรุงระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Vehicle Dynamic Control
- ปรับปรุงระบบเบรก ABS
Nissan LEAF NISMO เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่น 31 กรกฎาคม 2018
สำหรับตลาดเมืองไทยจะมีการนำเข้า Nissan LEAF (รุ่นปกติ ที่ไม่ใช่ NISMO) มาทำตลาดภายในปีงบประมาณ 2018 หรือไม่เกินเดือนมีนาคม 2019
ที่มา : Nissan