ภาพ Official Ford Ranger SUPER DUTY

หลังปล่อยภาพ Official ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ล่าสุด Ford Motor ก็ได้ฤกษ์เผยโฉม Ford Ranger Super Duty ออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในโลก ที่ประเทศออสเตรเลีย ณ งาน ฉลองครบรอบ 100 ปี Ford Australia พร้อมเผยข้อมูลของรถกระบะเวอร์ชั่นพิเศษ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง Ford กลุ่มลูกค้าฟลีต และผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ชั้นนำในออสเตรเลีย เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะและความสามารถด้านการบรรทุกที่เหนือกว่ารถกระบะขนาดกลางทั่วไป

Ford Ranger Super Duty ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นทั้งด้านมวลรวมของรถ หรือน้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (Gross Vehicle Mass – GVM) น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (Gross Combined Mass – GCM) รวมถึงความสามารถในการลากจูง และสมรรถนะออฟโรดที่สูงขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่มลูกค้าอาทิ หน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน เกษตรกร ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณูปโภค ป่าไม้ เหมืองแร่ ช่างเทคนิคด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเพื่อการทำงานด้านอื่นๆ

 

รายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับโปรเจค Ford Ranger Super Duty มีดังนี้

  1. Jim Baumbick องประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูง ส่วนการวางแผนวงจรการผลิตและโครงการผลิตภัณฑ์ (Vice President, Advanced Product Development, Cycle Planning and Programs)
  2. Dave Burn หัวหน้าวิศวกรโครงการพัฒนาเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Chief Program Engineer, Ford Motor Company)
  3. Todd Willing หัวหน้าฝ่ายออกแบบฟอร์ด (Head of Ford Design)
  4. Max Wolff ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ฟอร์ด ประเทศจีน และกลุ่มตลาดนานาชาติ (Design Director, China & IMG)
  5. Jeremy Welch ผู้จัดการโครงการพิเศษ ฝ่ายวิศวกรรมยานยนต์สำหรับงานหนัก (Special Projects Manager, Heavy Duty Engineer)
  6. Drew O’Shannasey ผู้จัดการโครงการฟอร์ด เรนเจอร์ (Ranger Program Manager)

 

ข้อมูลพื้นฐานของ Ford Ranger Super Duty มีดังต่อไปนี้

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

ดีเซล V6 3.0 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล V6 (60 องศา) DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 2,993 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร (Power Stroke) ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection ผ่านราง Common-rail กำลังอัด 16.0 : 1 ลำดับการจุดระเบิด : 1 – 4 – 2 – 5 – 3 – 6 พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 184 กิโลวัตต์ หรือ 250 แรงม้า (PS) ที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4A พร้อมระบบ Active Centre Differential และระบบล็อกเฟืองท้าย Dift Lock ที่ล้อคู่หลัง

 

โครงสร้างและงานวิศวกรรมด้านอื่นๆ

  • ปรับปรุงโครงสร้างแชสชีส์ใหม่
  • ปรับปรุงช่วงล่างใหม่
  • ปรับปรุงเพลาขับ และดุมล้อใหม่
  • ปรับงานออกแบบรอบคันสไตล์ ดีไซน์เฉพาะ Super Duty
  • เพิ่มความจุถังนำ้มันเป็น 130 ลิตร วิ่งได้ไกล 1,000 กิโลเมตร ++

ความสามารถในการบรรทุกและลากจูง

  • รองรับการลากจูงสูงสุด 4,500 กิโลกรัม (เมื่อติดตั้งเบรกที่รถพ่วง)
  • น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (GVM) สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม
  • น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (GCM) สูงสุด 8,000 กิโลกรัม

 

Ford Ranger Super Duty ถือเป็นรถกระบะที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกภารกิจหนัก ด้วยการผสานเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ความอเนกประสงค์ การเชื่อมต่อ และความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถที่มีสมรรถนะระดับนี้ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยดีไซน์อันดุดัน สะท้อนเอกลักษณ์และดีเอ็นเอความแกร่ง พร้อมรับมือทุกงานหนัก

Ford Ranger Super Duty มีแผนทำตลาดในหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศไทย ในปี 2026 รวมถึงจำหน่ายในตลาดอื่นๆ ผ่านโกลบอล ฟลีต โซลูชันส์ (Global Fleet Solutions) โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไทย นอกเหนือจะเป็นการขยายไลน์อัพของ Ranger ให้ครบครันมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำว่า Ford จะยังคงลงทุนกับฐานการผลิต ณ โรงงาน AAT จังหวัดระยอง ต่อไปในอนาคต

สำหรับรายละเอียดและข้อมูลจำเพาะสำหรับตลาดประเทศไทย จะมีการประกาศในช่วงใกล้การเปิดตัว ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ford Ranger Super Duty หรือช่องทางโซเชียลมีเดียของ Ford ประเทศไทย

———-//———-

ที่มา :  Ford