นอร์เวย์ เป็นอีกประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ที่หันมาจริงจัง กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยจากข้อมูลปัจจุบัน พบว่าชาวนอร์เวย์หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Full-EV) และ รถยนต์ Plug-in Hybrid รวมกันถึง 29 % เมื่อเทียบกับจำนวนรถยนต์ทั้งหมดในประเทศ ถือเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้รถยนต์ประเภทดังกล่าวสูงที่สุดในโลก และ เตรียมที่จะปรับลดภาษีสรรพสามิตใหม่สําหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2018 เพื่อจูงใจให้ประชาชนตน หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
” อีกไม่นาน โครงสร้างภาษีใหม่ที่รัฐบาลร่างขึ้นมาเพื่อประกาศใช้ในปี 2018 หรือ ที่สื่อในนอร์เวย์ขนานนามให้ เป็น Tesla Tax เพราะ มีผลให้ราคารถยนต์อย่าง Tesla model X ลดลงถึง 70,000 Krone นอร์เวย์ (NOK) (หรือประมาณ 300,000 บาท) และ เรายังต้องการเก็บภาษีจดทะเบียนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ทั้งรถนั่งส่วนบุคคล และ นิติบุคคลในอัตราปกติ โดยจะไม่มีการยกเว้นอีกต่อไป เพื่อจะปรับลดอัตราภาษีสําหรับรถยนต์ที่หันมาใช้พลังงานไฟฟ้าแทน ”
แม้ยอดขายรถยนต์จากค่ายอื่น ไม่ว่าจะเป็นVolkswagen หรือ Nissan ที่เป็นรถยนต์ Hybrid หรือ EV เพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ยอดขายรวมของ Tesla ในนอร์เวย์ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ไต่ระดับไปถึง 4,717 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเกือบ 90% แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของทุกภาคส่วนที่ต้องการให้ลดมลพิษจากรถยนต์ โดยรัฐบาลนอร์เวย์ มีแผนที่ต้องการยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากน้ำมันทั้งหมดในปี 2025 ให้ได้
เราต้องการรถยนต์ที่มีขนาดที่เหมาะสม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ผลิตขึ้นเองได้ภายในประเทศ รัฐบาลมี โครงการในการสนับสนุนสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้จริง ไม่ต้องการให้ประชาชนต้องแบกรับภาระไปกับราคาของรถยนต์พรีเมี่ยม ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ Vidar Helgesen รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม อธิบายถึงที่มาที่ไป สําหรับการผลักดันร่างนโยบายสำหรับการปรับโครงสร้างภาษีใหม่นี้
ที่มา : Paultan