Nissan เป็นค่ายรถยนต์ลูกครึ่งฝรั่งเศสที่กล้าพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับตลาด
บุคคลทั่วไปจนกลายเป็น Nissan Leaf ที่ยังคงครองยอดขายรถไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก
แต่ Nissan ก็ยังไม่กล้าทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid มากนักเนื่องจากพวกเขามอง
ว่าตลาดรถไฟฟ้าน่าจะมีอนาคตสดใสกว่า
เวลาเปลี่ยนไป ใจคนก็เปลี่ยนแปลงไปได้ เมื่อ Nissan Motor ได้เข้าครอบครองกิจการ
Mitsubishi Motors ในอัตราหุ้นส่วนร้อยละ 34 ก็ทำให้ Nissan สามารถนำทรัพยากร
และเทคโนโลยีจาก Mitsubishi มาต่อยอดกระทำการบางอย่างได้
ผู้บริหารระดับสูงจาก Nissan ได้ยืนยันแก่ AutoExpress แล้วว่า Nissan ขอกลับหลัง
หันมาพัฒนาเทคโนโลยี Plug-in Hybrid มากขึ้นนอกเหนือจากการพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้า
Takashi Shirakawa ผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา Nissan Europe ก็บอกใบ้ว่า
Nissan อาจนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid จาก Mitsubishi Outlander PHEV
รถรุ่นขายดีที่สุดของ Mitsubishi ในยุโรปมาประยุกต์กับรถยนต์ Nissan สำหรับตลาด
ยุโรปด้วย
Shirakawa อธิบายเหตุว่าทำไม Nissan จะต้องหันหลังกลับไปยัง Plug-in Hybrid
ก็เพราะว่าเทคโนโลยี Hybrid มันจะเป็นสะพานเชื่อมไปยังตลาดรถไฟฟ้าอันเป็นเทคโนโลยี
ที่ Nissan มองว่ามันคืออนาคต
กระบวนการพัฒนายังอยู่ในขั้นตอนพูดคุยเท่านั้น ไม่ได้มีการลงมือพัฒนา แต่สำหรับ
รถยนต์รุ่นต่อไปก็น่าจะได้เห็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับ Mitsubishi Outlander PHEV
Shirakawa ทิ้งท้ายว่าลูกค้าทั่วไปมีความกระตือรือร้นที่จะเป็นเจ้าของ EV ขนาดเล็กซึ่ง
ขณะนี้ทางบริษัทกำลังคิดวิธีแก้ปัญหาสำหรับรถไฟฟ้าเจเนเรชั่นต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mitsubishi PHEV
ความพิเศษของเทคโนโลยี Mitsubishi PHEV ที่ทำให้ Nissan ต้องสนใจและสามารถ
นำพายอดขาย Outlander PHEV ไปสู่ความนิยมในยุโรปได้ เพราะมันมีโหมดการขับเคลื่อน
ถึง 3 โหมด ได้แก่
1.โหมด EV สามารถวิ่งได้ระยะไกลสุด 55 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร
2.โหมด Series Hybrid แบบเดียวกับ Nissan Note E-Power คือให้เครื่องยนต์
ปั่นกำลังไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรี่ โดยให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่สร้างพลังขับเคลื่อน
3.โหมด Parallel Hybrid ที่เครื่องยนต์สันดาปทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า
ที่มา : AutoExpress