Nissan Terra เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศจีน 12 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเป็นแบบเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง จากนั้นเวอร์ชั่นอาเซียนได้เปิดตัวตามมาครั้งแรกที่ ฟิลิปปินส์ เมื่อ 28 พฤษภาคมที่ผ่าน โดยรถที่ขายในอาเซียนจะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในประเทศไทย
ประเทศไทย คือ ประเทศถัดมาที่จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีกำหนดการเผยโฉมสู่สาธารณชนในไทย ในวันที่ 16 สิงหาคม นี้ ก่อนงาน Big Motor Sales 2018 : 17 – 26 สิงหาคม 2561 @ ไบเทค บางนา จะเริ่าโดยไฮไลต์ของ Nissan TERRA เวอร์ชั่นไทย อยู่ที่ขุมพลังใหม่ ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ YS23DDTT ต่างจากที่เปิดตัวไปในฟิลิปปินส์ และ ที่ใช้อยู่ใน Navara ปัจจุบันที่ขายอยู่ในไทย
Engine เครื่องยนต์
ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี. DOHC Twin-Turbo Intercooler (เทอร์โบคู่) กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 85.0 x 101.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.4 : 1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
Dimension มิติตัวรถ
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,885 x 1,865 x 1,835 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,850 มิลลิเมตร
- ระยะ Ground Clearance : 225 มิลลิเมตร
- ระยะมุมเงย Approach Angle : 33 องศา
- ระยะมุมจาก Departure Angle : 26 องศา
เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
- Nissan TERRA : 4,885 x 1,865 x 1,835 มม. / ฐานล้อ 2,850 มม.
- Ford Everest : 4,893 x 1,862 x 1,837 มม. / ฐานล้อ 2,850 มม.
- Chevrolet Trailblazer : 4,887 x 1,902 x 1,852 มม. / ฐานล้อ 2,845 มม.
- Isuzu MU-X : 4,825 x 1,860 x 1,860 มม. / ฐานล้อ 2,845 มม.
- Mitsubishi Pajero Sport : 4,785 x 1,815 x 1,805 มม. / ฐานล้อ 2,800 มม.
- Toyota Fortuner : 4,795 x 1,855 x 1,835 มม. / ฐานล้อ 2,750 มม.
Exterior ภายนอก
- ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
- กระจังหน้า V-Motion แบบโครเมียม
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว แบบปัดเงา
- บันไดข้างสีเงินเมทัลลิค
- มือเปิดประตูภายนอกโครเมียม
- ราวหลังคาแบบ Built-in
- กระจกบังลมหน้าแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- ไฟท้าย LED Light Guiding
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสารทูโทน สีดำ – สีน้ำตาล
- มือจับบนหลังคาภายในห้องโดยสาร 6 ตำแหน่ง
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่คอนโซลกลาง
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง บนเพดาน
- สวิตซ์ปรับแรงลม ระบบปรับอากาศแยกส่วนสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ที่วางแขน พร้อมที่วางแก้วน้ำ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ชุดมาตรวัดแบบ Optitron
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ สี TFT ขนาด 5 นิ้ว
- แสดงข้อมูลตัวรถ
- แสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง
- แสดงแรงดันลมยาง
- แสดงระบบช่วยเหลือการขับขี่
- แสดงข้อมูลระบบขับเคลื่อน
- แสดงข้อมูลการขับขี่ Off-Road
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย – ขวา Dual Zone
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง
- ชุดเครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว
- เครื่องเสียง วิทยุ AM/FM CD MP3 DVD
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ AUX
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ช่องเชื่อมต่อ HDMI
- หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 11 นิ้ว
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีน้ำตาล
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยระบบไฟฟ้า
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกอิสระ 60 : 40
- เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนได้
- เบาะนั่งแถวที่ 2 เลื่อนหน้า – ถอยหลังได้
- เบาะนั่งแถวที่ 2 พับทบมาด้านหน้า (Tumbling Function)
- เบาะนั่งแถวที่ 2 พับด้วยสวิตซ์ไฟฟ้า แบบ One Touch แยกซ้าย-ขวา
- เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระ 50 : 50
- เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับเอนได้
- เบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับได้ราบเรียบ
แชสซีส์ Chassis
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time
- ระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Diff-lock
- ช่วงล่างด้านหลัง คอยล์สปริง แบบ Five-Link Suspension
Safety & Convenience ระบบความปลอดภัย และ สิ่งอำนวยความสะดวก
- ระบบเบรก ABS / EBD / BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW)
- ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา Around View Monitor (AVM)
- กระจกมองหลังแบบใช้กล้องแสดงภาพ Intelligent Rear View Mirror (i-RVM)
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS)
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ)
สำหรับ Nissan TERRA เวอร์ชั่นไทย จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย โดยเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ทั้งหมด
- 2.3 Twin Turbo Entry 2WD
- 2.3 Twin Turbo MID 2WD
- 2.3 Twin Turbo High 4WD
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
- สีน้ำตาล Earth Brown
- สีขาวมุก White Pearl
- สีเงิน Brilliant Silver
- สีเทา Twilight Grey
- สีดำ Black Star
Nissan ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว TERRA (เทอร์ร่า) อย่างเป็นทางการ 16 สิงหาคม นี้ ส่วน รายละเอียดข้อมูล – สเป็ค – รุ่นย่อย รวมไปถึงราคาจะโดนใจแค่ไหน รอติดตามได้ 16 สิงหาคมนี้ ก่อนงาน Big Motor Sales 2018 : 17 – 26 สิงหาคม 2561 @ ไบเทค บางนา
หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nissan TERRA เวอร์ชั่นไทย ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/66558.0