คืนวันที่ 10 ธันวาคม ภายใต้อุณหภูมิ – 7 องศาเซลเซียส ใกล้ๆกับทะเลสาบ
Yamanaka หนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิ ในจังหวัดยามานาชิ
ผมยืนอยู่ตรงนั้นสัมผัสกับอากาศที่หนาวกว่าปกติ พร้อมกับอ่านข่าว ว่านี่
เป็นอีกปีหนึ่งในรอบ 54 ปี ที่มีหิมะตกในเมืองหลวงอย่างโตเกียวช่วง
เดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม

NISMO_001

ผมมาทำอะไรที่นี่ ตรงนี้ ? จากชื่อบทความหลายคนก็คงจะเดาออก ใช่ครับ
ผมมาร่วมงาน NISMO Festival สำหรับปี 2016 เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 19
จัดขึ้นที่สนาม Fuji Speedway ใกล้ภูเขาไฟ Fuji เหมือนเช่นเคย อันถือเป็น
มหกรรมประจำปีที่ทาง Nissan กับ NISMO จะขนเอาสารพัดรถแข่ง รถยนต์
รุ่นต่างๆ ทั้ง Nissan, Datsun และ บรรดารถดัง รถตำนานในอดีตให้ชมกัน
ละลานตา เสมือนหนึ่งได้เปิดโบรชัวร์ หรือ เล่มแคตตาล็อกเก่าๆดูรถเหล่านั้น
แต่มันพิเศษไปกว่านั้น เพราะทั้งหมดเป็นของจริง คันจริง และ ยังคงวิ่งได้ !

งานนี้เปิดโอกาสให้บรรดาสมาชิกคนรักนิสสัน หรือจะเรียกว่า “ติ่ง Nissan”
ทั้งหลาย ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวของตน เป็นกิจกรรมที่น่า
นำมาจัดที่บ้านเราอย่างมาก เพียงแต่คงต้องรอต่อไปว่า ” เมื่อไหร่ ? ”
เพราะดูเหมือนว่าการเปิดสินค้า NISMO อย่าง Almera NISMO ครั้งแรก
และ ครั้งล่าสุดในบ้านเรา ก็เกือบจะครบ 1 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนจะเงียบหายไป
เอาเป็นว่าขอข้ามเรื่องนี้ไปก่อนแล้วกันครับ เพราะ ความสนุกที่อยู่ตรง
ข้างหน้าเรานับจากนี้ กำลังจะเริ่มขึ้น

news-21

ก่อนอื่นสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักว่า NISMO คืออะไร เกี่ยวข้องอะไรกับ Nissan
ผมขอสรุปสั้นๆเอาไว้ให้ตรงนี้ครับ

Nissan Motorsports International Co., Ltd. (NISMO) ก่อตั้งในเดือน
กันยายน 1984 ในฐานะ บริษัทเพื่อการสนับสนุนกิจกรรมด้าน Motor Sport
ของ Nissan ในทุกรูปแบบ รวมทั้งการพัฒนาชุดแต่ง อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่ม
สมรรถนะ และ ความสวยงามให้กับรถยนต์ในเครือ Nissan ก่อตั้งมาตั้งแต่
ปี 1985 (หรือครบรอบ 30 ปี ไปเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมานี้เอง)

ถ้าอธิบายให้ง่ายก็คือ หาก Toyota มี TRD แล้ว…Nissan ก็มี NISMO นั่นเอง !

NISMO_016

ทริปนี้สมาชิกของเรามีด้วยกัน 9 คนครับ มีผม, พี่ผึ้ง Online MKT จากนิสสัน,
พี่บอย วรพล, พี่ขาว ซึ่งเป็นไกด์คนไทยที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น 10 กว่าปีแล้วครับ
และ สุดท้าย ลูกค้าผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมกับทาง NISMO Privilege Member
5 ท่าน (พี่เจี๊ยบ, พี่ต้น, พี่หนู, พี่เปี่ยม และ พี่โบตั๋น) อาจจะแปลกใจ ทำไมผม
เรียกพี่หมดทุกคนเลยเหตุผลไม่มีอะไรมากครับ เพราะผมอายุน้อยที่สุดในทริป
นั่นเอง ฮ่าๆๆ

สำหรับกิจกรรมที่ลูกค้า 5 ท่านได้เป็นผู้โชคดีได้มาในครั้งนี้ หลายท่านอาจจะ
คิดว่ายุ่งยากน่าดู แต่ความจริงแล้วง่ายๆเลยครับ ส่งรูปถ่ายของลูกค้ากับรถยนต์
นิสสันรุ่นใดก็ได้ พร้อมคำบรรยายสั้นๆว่า อยากไปชมรถรุ่นไหน ในงาน NISMO
FESTIVAL 2016 เพราะอะไร ผู้ที่มีรูปภาพ และข้อความที่โดนใจคณะกรรมการ
มากที่สุด จะได้รับคัดเลือกให้ไปร่วมงาน แค่นี้ก็มีสิทธิ์ได้มาแล้วครับ รายละเอียด
กติกาต่างๆ อ่านได้ที่นี่ครับ >> ตรงนี้เลย เผื่อใครอยากจะเป็นผู้โชคดีแบบนี้บ้าง
ก็ศึกษาไว้ก่อนได้เล้ยยย !!

แต่ก่อนจะร่วมกิจกรรมเนี่ยต้องเป็น NISMO Privilege Member เสียก่อน ซึ่ง
เปิดให้สมัครฟรีนะครับ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถ Nissan เท่าที่ทราบใน 5 ท่าน
ที่ได้มาเป็นผู้โชคดีในกิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้ใช้รถ Nissan ก็มีนะครับ ถือว่า
เปิดกว้างมากๆ สามารถสมัครได้ที่ http://nismo.nissan.co.th/ (จะเปิด
รับสมัครเป็นรอบๆครั้งถัดไปน่าจะเป็นช่วงเดือน มีนาคม 2017 ครับ)

NISMO_002

เช้าวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม เราก็ออกเดินทางกันเพื่อไปยังสนาม Fuji Speedway
จากที่พักของเราแถวๆทะเลสาบยามานากะ ระยะทางประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่ถ้าเดินทางจาก Tokyo ระยะทางจะประมาณเกือบๆ
100 กิโลเมตร ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ใครว่าญี่ปุ่นไม่มีรถติด ไม่จริงเลยครับ รถติด
ก็มีบ้างครับ ยิ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดต่างๆ คนญี่ปุ่นชอบขับรถไปเที่ยว
ต่างจังหวัดกันไม่น้อยเลยทีเดียว

หรือใครอยากจะพิเศษหน่อย ก็เช่ารถขับเองก็ได้ครับ อย่าง GT-R R35 จะมี
บริษัทเช่ารถสปอร์ตต่างๆอยู่ไม่น้อยในโตเกียว มีให้เลือกหลายรูปแบบ อย่างที่
คุณ IS2000 เคยมารีวิวไว้ในเว็บบอร์ด แบบ One Day เช่าขับไม่ข้ามคืน
สนนราคาประมาณ 40,000 เยนนิดๆ (ราวๆ 12,000 บาท) รวมค่าประกัน
อุบัติเหตุ ใครสนใจก็ลองไปอ่านดูได้ที่ link นี้ครับ >> จิ้มตรงนี้เลย

NISMO_003

ยังไม่ทันจะเข้าสนามดีก็ตื่นตาตื่นใจกันไม่น้อยแล้วครับ เจอทั้ง BMW M4 สีเหลือง
Austin Yellow Metallic และบรรดา GT-R ที่มากันพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้ง R33 –
R34 – R35 รวมถึง รถ Complete Cars จาก NISMO ไม่ว่าจะเป็น March NISMO,
Note NISMO, Juke NISMO, 370Z NISMO, GT-R NISMO มากันครบ
ตามเส้นทางที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่สนาม แต่ไม่ยักจะเจอ Almera NISMO ที่เป็น
Performance Package นะครับ ฮ่าๆๆๆ

ทางเข้าสนามว่าเด็ดแล้ว พอถึงลานจอดรถรอบๆสนามเด็ดยิ่งกว่า คุณจะพบกับบรรดา
รถ NISMO จอดเป็นกลุ่มเรียงรายกันสวยงาม ไล่ไปตั้งแต่น้องเล็กอย่าง March,
Note, Juke, 370Z และพี่ใหญ่ GT-R ที่เจ้าของรถเอามาจอดรวมกัน ในลานที่
จัดไว้โดยเฉพาะ NISMO Parking แยกเป็นรุ่นๆเป็นที่ตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

NISMO_005 NISMO_006

สำหรับสเป็คของพี่ใหญ่อย่าง GT-R NISMO จะใช้เครื่อง NISMO-tuned
VR38DETT V6 3.8 ลิตร Twin-Turbo 24 วาล์ว กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก
95.5 x 88.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.0 : 1 กำลังสูงสุด 600 แรงม้า ที่
6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 652 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,600 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 6 จังหวะ โดยเครื่องจะประกอบด้วยมือ ฝีมือช่าง
ที่เรียกกันว่า ทาคูมิ Takumi 4 คน Takumi Kurosawa, Tsunemi Ooyama,
Izumi Shioya and Nobumitsu Gozu ที่โรงงานโยโกฮาม่า โดยแต่ละเครื่อง
จะมีป้าย Name Plate ระบุอยู่ว่าเป็นฝีมือของใคร รีวิวที่เกี่ยวข้องกับรถ NISMO
Complete Cars สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ link ด้านล่างนี้
http://www.headlightmag.com/first-impression-2016-nissan-gt-r-nismo-r35/
http://www.headlightmag.com/exclusive-first8394/

NISMO_007 NISMO_008 NISMO_009 NISMO_010 NISMO_011

ตารางกิจกรรมอย่างที่เห็นครับ แน่นตลอดทั้งวัน ใครคิดว่าไม่มีอะไรทำ หรือ
คิดว่ามันจะน่าเบื่อ บอกได้เลยว่า คุณคิดผิดมหันต์ !!! เวลา 6 ชั่วโมงที่ผม
ได้อยู่ที่สนาม บอกได้เลยว่าไม่พอ ! ผมยังเดินไม่หมดด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะอยู่
มุมไหน มีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ได้เห็นกันตลอด

F2_NISMO_2016_Program_P0102_ol.ai

กิจกรรมจะถูกแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลักๆคือ

1. Stand Event Area (สีน้ำเงิน)

เป็นกิจกรรมฝั่ง Main Stand หรือเวทีหลักของงาน ครอบคลุมบริเวณ Stand และ
พื้นที่ด้านหลังทั้งหมด มีกิจกรรมหลากหลายทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น
Kids Ride ให้เด็กๆได้เข้าไปนั่งในรถแข่งคันจริง แบ่งออกเป็น 3 รอบ ต้องต่อคิว
นะครับในส่วนนี้ แต่เท่าที่สังเกตดู คนญี่ปุ่นจะค่อนข้างเป็นระเบียบมาก ไม่มีการ
โวยวายหรือแซงคิวให้เห็นกัน

NISMO_015_1

ทางฝั่งผู้สนับสนุนอย่าง Dunlop ก็จะมี Electric Kids Kart Experience
ให้เด็กน้อย ได้ขับโกคาร์ทไฟฟ้า แบ่งออกเป็นรอบๆ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ
Driver Simulation Experience ให้สามารถขึ้นไปนั่งบนรถแข่งคันจริง ลองหมุน
พวงมาลัย สับเกียร์ และ สตาร์ทเครื่องยนต์ให้ซึมซับเสียงที่กระหึ่มได้อีกด้วย
กิจกรรม Driver Simulation ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก จึงต้องใช้วิธีจับสลากครับ
เพราะมีเวลาให้ได้สัมผัสกันแค่ 2 รอบ รอบละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะรถแข่งคือ
รถคันจริงที่วิ่งลงแข่งในสนามเลย

NISMO_014

และ สุดท้ายกับ Pitwork Simulation สาธิตการเซอร์วิสรถแข่งอย่างรวดเร็ว
เหมือนที่ทำจริงใน Pit ของสนามแบ่งออกเป็น 2 รอบ เช้า-บ่าย

นอกเหนือจากกิจกรรมที่มีแล้ว ยังมีพื้นที่จัดแสดงในส่วนของ NISMO Cars &
NISMO Performances Center เอารถ NISMO Complete Cars ที่มีจำหน่าย
ปัจจุบัน เพราะรถอย่าง GT-R NISMO เอง มีโชว์เฉพาะอยู่ไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น
เช่นที่ Nissan Crossing ก็ถูกนำมาไว้ให้ชม มาจัดแสดง มาให้สัมผัสกันอย่าง
ใกล้ชิด รวมถึง March, Note, Juke, 370Z NISMO มากันครบทีม ไม่เฉพาะแค่
NISMO เท่านั้น รถปกติทั่วไป ก็มีมาโชว์เช่นกัน และ มีให้ทดลองขับด้วย ก็แน่ล่ะ
เทศกาลรวมตัวของคนรัก Nissan แบบนี้ ไม่น่าพลาด

NISMO_012 NISMO_013

โชว์อย่างเดียวคงไม่พอ ก็ต้องมีของให้ช้อปปิ้งกันด้วยกับ NISMO Part Sale
โดยเฉพาะอะไหล่ของ GT-R R32, R33, R34 มีมาขายแบบลดราคาพิเศษ
เรียกได้ว่าเป็น Outlet ขนาดย่อม, Garage Sale อะไหล่หายากต่างๆก็หาได้ที่นี่
รวมไปถึงของที่ระลึกทั้ง Nissan / NISMO รถโมเดล Special Edition จาก
Nissan เสื้อ นาฬิกา กระเป๋า พร้อมจะให้คุณเสียเงิน

ยังคงอยู่ในโซนสีน้ำเงิน Stand Event Area กันอยู่ ยังมีในส่วนของเวทีหลัก
ที่จะมี Talk Show จากนักแข่งพูดคุยกับแฟนๆ NISMO GT3 Talk Show
แจกลายเซ็นพร้อมถ่ายรูปใกล้ชิดกับนักแข่งคอนเสริ์ต และ การประกวด
Race Queen

NISMO_015

 

2. Paddock Event Area (สีเหลือง)

พื้นที่ถัดมาคือ ส่วนอาคารตรงข้าม Main Stand ฝั่งนี้กิจกรรมก็ไม่น้อยหน้าครับ
พื้นที่รอบๆอาคาร มีทั้งร้านต่างๆมาออกบู้ธ รถโมเดล เสื้อ รองเท้า ล้อแม็ก เบาะนั่ง
ไฟหน้า ไฟท้าย อะไหล่มือ 1 มือ 2 มากันอย่างคับคั่ง คล้ายๆกับงาน Auto Salon
บ้านเราเลยครับ ยกงานใน Challenger Hall มาไว้ที่นี่ ทีนี้พอจะรู้ถึงความหลากหลาย
และ ยิ่งใหญ่มั้ยครับ พื้นที่ส่วนหนึ่งของงานในโซนสีเหลืองนี้เกือบเทียบเท่ากับการ
จัดงานใหญ่ของบ้านเราเลย

NISMO_018 NISMO_017

สารภาพว่าเดินฝั่งนี้ ผมเสียทรัพย์ไปไม่น้อยเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ รถโมเดล
นอกจากนี้ยังมี โมเดลเครื่องยนต์ที่งานละเอียดมาก แต่ราคาก็ละเอียดไม่แพ้กันครับ
ถ้าสอยมาคงมียับกันไปข้างนึง สนนราคาเริ่มต้นที่ 30,000 – 55,000 เยน (ประมาณ
9,000 – 16,500 บาท) มีหลายบล๊อคเลย ไม่ว่าจะเป็น FJ20, RB26, S20

NISMO_019 NISMO_020 NISMO_021 NISMO_022 NISMO_024 NISMO_025 NISMO_026 NISMO_028

ใต้อาคารยังเป็นพื้นที่จัดแสดงรถแข่ง Race car หลายต่อหลายรุ่น ตามช่องต่างๆ
มีทั้ง

– 1982 Tomica Skyline Turbo
– 1968 Nissan R381
– 1966 Prince R380 (TypeA-I)
– 1969 Nissan R382
– 1999 Nissan R391
– 2016 Motul Autech GT-R
– 1976 Cherry FII
– 1973 Sunny Excellent coupe 1400GX
– 1973 Fairlady 240ZG
– 1969 Skyline 2000 GT-R

ฯลฯ อีกกว่า 40 คัน

DSCF7858

 

3. Racing Event Area (สีแดง)

สุดท้ายกับพื้นที่ส่วนที่เป็นไฮไลต์ คือ Racing Event Area หรือ ส่วนของสนามแข่ง
กิจกรรมค่อนข้างแน่นตั้งแต่ 8 โมงเช้า เปิดงานด้วย NISMO Cars Parade Run
ที่รวมเอารถ Complete Cars จาก NISMO มาวิ่งเป็นขบวนเพื่อเปิดงานอย่างเป็นทางการ

NISMO_030 NISMO_031

จากนั้นกิจกรรมสำหรับผู้ชมที่ต้องการใกล้ชิดกับรถแข่งในสนาม ที่ผมได้มีโอกาส
เข้าไปร่วมด้วย ก็คือ Circuit Safari

Circuit Safari คืออะไร อธิบายง่ายๆก็แบ่งเป็น 2 คำครับ คำแรก ก็คือ Circuit หรือ
สนามแข่งรถ คำที่สองคือ Safari ลองนึกภาพตามเหมือนการที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์เปิด
แล้วนั่งรถชมไปเรื่อยๆ Circuit Safari ก็เช่นกันครับ เสมือนเราได้นั่งชมรถแข่งไปใน
ไลน์สนาม พร้อมๆกันกับรถแข่งที่วิ่งอยู่ข้างๆเลย

NISMO_032 NISMO_033

รอบแรกรถก็จะวิ่งชิดขอบสนามด้านซ้าย จากนั้นก็จะเปลี่ยนมาเป็นชิดขอบสนามด้านขวา
เพื่อให้ผู้ชมที่อยู่ในรถ ได้เห็นกันทั้ง 2 ฝั่ง โดยเป็นการวิ่งวอร์มอัพโดยนักแข่งจริง ตอนแรก
คิดว่าเป็นการแข่งจริง แต่เพื่อความปลอดภัยของรถที่วิ่งไปมาในสนามก็คงต้องเป็นรูปแบบนี้
แหละครับ เท่าที่ทราบนักแข่งชื่อดังอย่าง Michael Krumm, Ronnie Quintaelli ก็วิ่งใน
รอบนี้เช่นกัน วิ่งล้อไปกับคนดูในรถโค้ช มีดิฟไฟ โบกมือให้ ชะลอให้ถ่ายรูป ครบรสครับ
มาชมกันได้เลยครับ ว่าบรรยากาศจริงจะเป็นอย่างไร ! ผมมีคลิปจาก การ L!VE ไปบน
Facebook Fanpage Headlightmag.com มาใช้ชมกันอีกครั้งครับ

NISMO_035 NISMO_034

ต่อจากนั้นก็เป็นการแข่งขันในสนามตามโปรแกรม เช่น Z-Challenge, Craft Sports
NISMO GP 2016, และ ไฮไลต์เด็ดที่พลาดไม่ได้เลยคือ NISSAN Motorsports
Heritage Run ลงวิ่งฉลองครบรอบ 50 ปี / Nissan Historic car Exhibition Race
ที่รวมเอาบรรดารถแข่งดังในอดีตทั้ง Nissan / Datsun มาลงสนามอีกครั้ง หาดู
ได้ยากมากๆๆๆๆๆ บรรดารถที่วิ่งเท่าที่ผมจำได้ก็มี

– Prince R380 (TypeA-I) : 1966 Japanese GP
รถหมายเลข 11 ที่เป็นตำนาน ขับโดย Y.Sunako ในรายการ Japanese Grand Prix
3rd ที่สนาม Fuji Speedway ในปี 1966 , ชนะ Porsche 906 ระยะห่างมากกว่า 3 laps

NISMO_041

– Nissan R382 : 1969 Japanese GP
รถหมายเลข 21 ขับโดย M.Kurosawa, หมายเลข 20 โดย M.Kitano ชนะอันดับ
1 – 2 ในรายการ Japanese Grand Prix ในปี 1969

NISMO_042

– Skyline 2000GT-R : 196 JAF GP
รถหมายเลข 39 รถแข่งบนพื้นฐาน Hakosuka GT-R 4 ประตู (PGC10) ขับโดย
T.Shinohara ชนะรายการ JAF Grand Prix ที่สนาม Fuji Speedway
ในปี 1969

NISMO_045

– Sunny Excellence coupe 1400GX : 1973 Japanese GP
Sunny Excellence coupe (KPB10) ขึ้นโพเดียม 3 ตำแหน่งรวด อันดับ 1-2-3
ในรายการ Grand Prix ปี 1973 โดยรถหมายเลข 2 ขับโดย M.Kitano ได้อันดับ 1

NISMO_043

– Calsonic Skyline : 1990 JTC
ชนะเลิศ Group A ใน JTC ปี 1990 โดยตัวรถมีพื้นฐานมาจาก GT-R R32
ทำสถิติชนะ 29 รายการรวด ใน 4 ฤดูกาลของปี 1990

NISMO_044

กิจกรรมหลักสุดท้ายก่อนกลับคือ Grid Walk ซึมซับบรรยากาศที่จุดออกสตาร์ท
ได้เจอกับนักแข่ง และ รถคันจริงก่อนเริ่มแข่งขัน แม้อากาศจะค่อนข้างเย็น แต่
Race Queen ทุกคนก็ยังคงสปิริตเต็มที่อย่างที่เห็นกันครับ

NISMO_047 NISMO_046 NISMO_048 NISMO_049 NISMO_050 NISMO_052

จากนั้นรายการสุดท้ายในสนามเป็นของ NISMO GP 2016 จากรายการ
2016 Super GT, 2016 Super Taikyu อีกด้วย ทั้ง Motul Autech GT-R 2016,
Calsonic Impul GT-R 2016, Rock254 GTNET ปิดท้ายรายการ

NISMO_053 NISMO_055

กิจกรรมทั้งหมดนี้ที่ผมเล่ามาเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วไม่ถึง 6 ชั่วโมงดี ขอบอกว่า
ยังเดินไม่ครบ ทั่วทั้งงานเลยครับน่าเสียดายมากๆ ใครที่มีโอกาสมาญี่ปุ่นแล้วตรงกับ
ช่วง NISMO Festival พอดี แนะนำให้มานะครับ มันเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ไม่เคยเห็นในบ้านเรามาก่อน ส่วนหนึ่งที่กิจกรรมเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ Motor Sport
ที่เค้านับเป็นกีฬาชนิดหนึ่งด้วย ที่นี่เค้าปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ จากรูปจะเห็นได้ว่า
เด็กๆเยอะมากครับ

NISMO_051

จากที่พี่ขาว ไกด์คนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น 10 กว่าปี มีภรรยาและลูกที่นี่ เล่า
ให้ฟังว่าคนญี่ปุ่น จะค่อนข้างให้ความสำคัญกับ นักกีฬา มากกว่าดารา นักร้อง
นักแสดงหลายเท่าตัวครับ เอานักกีฬามาเป็นไอดอลกันเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น
เบสบอล ฟุตบอล หรือ นักแข่ง อย่างเช่น มาซาฮิโระ ทานากะ นักเบสบอลของ
ญี่ปุ่น จากทีมระคุเต็น รายได้ต่อปีอยู่ที่ราวๆ 742 ล้านบาท

กลับมามองที่บ้านเราค่อนข้างตรงกันข้าม ไม่ว่าจะทั้งนักกีฬา หรือ กิจกรรม
มอเตอร์สปอร์ตก็ตามที ดูจะห่างไกลกับความนิยมในเร็ววันนี้ ผมก็ได้แต่หวังลึกๆ
ว่าค่ายรถยนต์ยังคงจะสนับสนุนมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง
แบรนด์ Performances เอง ไม่ว่าจะทั้งแบรนด์อื่นๆ หรือตัว NISMO เอง ไม่อยากให้
เป็นเพียงแค่ชุดแต่ง, รุ่นพิเศษ ออกมาขายประวิงเวลา หรือ ดึงดูดลูกค้าในระยะเวลาสั้นๆ
เท่านั้นเลย เพราะแบรนด์เหล่านี้ มีคุณค่า มีประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ และ จิตวิญญาณ
ที่สั่งสมมานาน อย่าพยายามทำลาย ชื่อเสียงเหล่านี้ด้วยการเห็นมันเป็นเพียงแค่ชุดแต่ง
ดึงความสนใจเท่านั้นเลยครับ

NISMO_056

เพราะความยิ่งใหญ่ที่ผมได้สัมผัส ซึมซับมาในครั้งนี้ มันช่างเต็มเปี่ยม
ด้วยความ
ประทับใจจริงๆ กับบรรยากาศงานทั้งหมด ผมก็ได้แต่เฝ้ารอ
เอาใจช่วยให้ Nissan ทำแบรนด์ NISMO ในไทย
ให้ยิ่งใหญ่
เหมือนอย่างในญี่ปุ่นได้ในเร็ววัน !

 

ประวัติศาสตร์ 30 ปี ของ NISMO (ครบรอบในปี 2014)

บรรยากาศทั้งหมดในงาน NISMO Festival 2016 : 19th : 11 December 2016

 


 

ขอขอบคุณ / Special Thanks to :

คุณ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด

คุณ ณิชวรรณ ชีวาเกียรติยิ่งยง
ฝ่ายบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าและการตลาดออนไลน์

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เอื้อเฟื้อการเดินทางในครั้งนี้

 

MoO Cnoe
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
30 มกราคม 2017