น่าแปลกใจไม่น้อยที่โลกอุตสาหกรรมรถยนต์มันกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่อย่าง
รวดเร็วกว่าที่คิด แต่น่าเสียดายที่ผู้ที่สามารถ “เปลี่ยนโลก” จากรถยุคเก่าไปสู่รถยุค
ใหม่อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุดกลับกลายเป็นบริษัทยักษ์เล็กทรงประสิทธิภาพที่
มีกระบวนการทำงานอย่างอัจฉริยะอย่าง Tesla Motor ส่วนบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่
ชั้นนำกลับไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เลย
ถ้าหากมองเฉพาะกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้าก็คงจะเห็นแล้วว่า Tesla เป็นผู้เปลี่ยน
พฤติกรรมลูกค้า แต่ถ้าหากมองเจาะลึกลงไปในหมวดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด
ใหญ่ที่อาศัยพลังงานไฟฟ้าแล้ว ก็พบว่ามียักษ์เล็กที่สามารถเปลี่ยนโลกได้กับเขาด้วย
Nikola Motor (ใน Press Release เขาให้อ่านว่า Neek-oh-la) ซึ่งมีผู้บริหารและ
ผู้ก่อตั้งนาม Trevor Milton ได้ประกาศออกมาแล้วว่า Nikola มียอดจองรถบรรทุก
ไฟฟ้าราว 7,000 คันตีเป็นมูลค่าก็อยู่ราว 2.3 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ Nikola เปิด
รับจองในช่วงระยะเวลา 1 เดือน
รถบรรทุกใหญ่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามันชื่อว่า Nikola One ติดตั้งเทคโนโลยีพลังงานที่มี
ประสิทธิภาพล้ำหน้ากว่ารถบรรทุกทั่วไป 10-15 ปีทั้งประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
, ความประหยัดและการปล่อยค่าไอเสีย
มอเตอร์ไฟฟ้าของ Nikola One ให้กำลัง 2,000 แรงม้า มีระยะทางวิ่งสูงสุด 1,930
กิโลเมตร แบตเตอรี่ลิเธี่ยมมีอัตราการกินไฟ 320 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผู้ประกอบการและ
ผู้ขับขี่หมดห่วงกับการเติมประจุเพราะตัวรถถูกออกแบบให้แปลงพลังงานจลน์จาก
การวิ่งให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าเสริมเข้าแบตเตอรี่ (แต่หลักการคล้าย ๆ Chevrolet
Volt คือมีเครื่องยนต์กลางสำหรับคอยปั่นพลังงานลงแบตเตอรี่ แต่สำหรับ Nikola
จะให้ลูกค้าเลือกว่าอยากได้เครื่องยนต์ปั่นพลังงานเป็นเครื่องดีเซล, เบนซินหรือ CNG)
มีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงต่อไมล์ถูกกว่าเครื่องดีเซลราว 1 ใน 2
Nikola ชี้ให้เห็นเลยว่ารถบรรทุกไฟฟ้าตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้มากกว่ารถบรรทุก
เครื่องยนต์ดีเซลด้วยความคุ้มค่าต่อระยะทางวิ่งสูงสุด, ชูให้เห็นประสิทธิภาพการขึ้น
ลงเขาได้ดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซล, มีอัตราเร่งบนพื้นทางเรียบจาก 0-96 กิโลเมตรต่อ
ชั่วโมงภายใน 30 วินาที เร็วกว่าเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปที่ใช้เวลาไต่ความเร็วถึง 1 นาที
, ตัวรถเบากว่าเครื่องทั่วไปจึงสามารถเพิ่มน้ำหนักบรรทุกขึ้นได้
Nikola ก็ออกโปรแกรมล่อใจให้ผู้ประกอบการและนักธุรกิจให้หันมาซื้อรถบรรทุก
นวัตกรรมใหม่นี้ด้วยการให้บริการเช่าซื้อต่อเดือนแค่เพียง 5,000 ดอลลาร์หรือเพียง
150,000 บาท สามารถใช้รถได้ไม่จำกัดไมล์, ไม่จำกัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, ค่าประกัน
และค่าบำรุงรักษา
นอกจากนี้ผู้ประกอบการสามารถนำ Nikola One ที่ผ่านการใช้งานทุก 72 เดือน
หรือมีระยะทาง 1 ล้านไมล์มาแลกเปลี่ยนเป็นรถใหม่
การมาของ Nikola One ก็ถือว่าเปลี่ยนโลกใหม่ของธุรกิจคมนาคมขนส่งบนภาค
พื้นดินได้ดีเกินคาด เพราะ Nikola ก็ลงทุนตอบโจทย์ของการแก้ปัญหาของรถบรรทุก
ไฟฟ้าอย่างทะลุปรุโปร่งพอสมควร
ที่มา : Autoblog, Nikolamotor