Wuling Victory คือรถยนต์ MPV รุ่นล่าสุดจากกลุ่ม SAIC-GM-Wuling (SGMW) มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวจีน ทั้งยังรับหน้าที่พลิกภาพลักษณ์ของแบรนด์ Wuling และเตรียมบุกตลาดโลก โดยมาพร้อมกับดีไซน์แนวใหม่ทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่สำหรับแบรนด์ ด้านมิติตัวถังมีรายละเอียดดังนี้
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,875 x 1,880 x 1,700 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,800 มิลลิเมตร
ภายนอกของ Wuling Victory ปรับ Design Language ใหม่ให้ดูดีมีราคากว่าเดิม เพื่อพลิกภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ พร้อมทั้งเป็นรุ่นแรกที่ได้ใช้โลโก้ใหม่สีเงิน โดดเด่นอยู่กลางกระจังหน้าขนาดใหญ่ รับกับไฟหน้า LED แบบสองชั้น ตัวถังด้านข้างมีเส้นสาย เสริมด้วยหลังคา Floating Roof ด้านหลังเป็นไฟท้ายสองก้อน ปิดท้ายด้วยกันชนหลังที่ปิดปลายท่อไอเสียมิดชิด
ห้องโดยสารมีให้เลือกระหว่างสีเบจและสีดำ แดชบอร์ดออกแบบมาให้ดูสะอาดตา เสริมด้วยลูกเล่นหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว เบาะมีให้เลือกทั้งแบบ 2 แถว 4 ที่นั่ง ซึ่งปรับเบาะหลังแบบ Captain’s Seat อย่างสะดวกสบาย แถมมีที่วางขาด้วย อีกรุ่นเป็นเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่ง สามารถปรับพับเบาะแถวหลังสุด เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากกว่า 1,500 ลิตร นอกจากนั้น ยังมีหลังคา sunroof ใหญ่สุดในระดับ
ขุมพลังของ Wuling Victory เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ สมรรถนะสองระดับ กำลังสูงสุด 145 และ 174 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ CVT สำหรับ platform ที่ใช้เป็นแบบใหม่นับเป็นรถยนต์รุ่นที่สอง ที่ได้ใช้โครงสร้างนี้หลัง Baojun RS-7 ใช้เป็นรุ่นแรก
ระบบความปลอดภัยมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) มีทั้งระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า และ ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชน ทั้งหมดทำงานร่วมกับกล้องความละเอียดสูง 4 ตัว และ เรดาร์เซนเซอร์ 6 จุด นอกจากนั้น ยังมีถุงลมนิรภัย 6 จุด และ กรองอากาศห้องโดยสาร PM2.5 กันได้ทั้งฝุ่น, ไวรัส และ แบคทีเรีย เทียบเท่าหน้ากาก N95
Wuling Victory เริ่มออกจำหน่ายที่ประเทศจีน ตั้งแต่ปลายปี 2020 มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยระหว่าง 85,800 – 116,800 หยวน (ราว 398,000 – 542,000 บาท) ทั้งยังมีรายงานว่าจะมีการส่งออกจากจีน ไปยังยุโรปในปี 2022
ที่มา: gmauthority, carscoops