Volvo ได้สานต่อแผนการเพิ่มปริมาณรถยนต์ Hybrid ของบริษัทตนตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้า โดยจะเริ่มทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นในปีนี้ ด้วยการเริ่มติดตั้งระบบ Hybrid แบบใหม่ในรถยนต์ของตน ซึ่งเริ่มกับ XC90 ก่อนและจะขยายไปรุ่นอื่นอีก ด้านขุมพลัง Plug-in Hybrid ของเดิมล้วนได้รับการพัฒนาต่อให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

ขั้นแรกของแผนคือการเริ่มติดตั้งระบบ Mild Hybrid กับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปของเดิมที่มีอยู่แล้วทั้งเบนซินและดีเซล โดยเพิ่ม ระบบนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่ (kinetic energy recovery braking system) และระบบเบรกแบบ brake-by-wire ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงลงอีก 15% และช่วยลดอัตราการปล่อยมลพิษ ภายใต้สภาวะการใช้งานจริงด้วย

รุ่นที่ใช้ระบบ Mild Hybrid แบบใหม่นี้จะใช้ชื่อรหัสว่า B ซึ่งเริ่มต้นแล้วกับ Volvo XC90 รุ่นปรับอุปกรณ์โดยจะมีรหัส B5 สำหรับขุมพลังเบนซิน – ดีเซล และรหัส B6 ที่สงวนไว้ให้กับขุมพลังเบนซิน ส่วน XC60 จะได้ใช้ระบบดังกล่าวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยมีให้เลือกทั้ง B4 ดีเซล, B5 เบนซิน – ดีเซล และ B6 เบนซิน นอกจากนั้น ยังมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้อ ในรุ่น B5

ในรุ่นที่ใช้ขุมพลัง T8 และ T6 Twin Engine plug-in hybrid จะเพิ่มแบตเตอรี่ใหม่และระบบเบรกแบบ brake-by-wire เพื่อเปลี่ยนแรงเบรกกลับเป็นพลังงานก่อนส่งเข้าระบบไฟฟ้า ช่วยให้มีระยะเดินทางต่อการเติมเชื้อเพลิงแต่ละครั้งได้ไกลขึ้น 15% โดย T8 จะมีให้เลือกในทุกรุ่นของตระกูล 90 และ 60 Series ส่วน T6 จะมีให้เลือกใน V60 estate และ S60 sedan เท่านั้น

ส่วนน้องเล็กอย่าง Volvo XC40 จะได้ใช้ระบบพ่วงพลังงานไฟฟ้าเช่นกัน โดยมาในรุ่นเบนซิน T5 Twin Engine petrol-plug-in hybrid ก่อนและจะมี T4 Twin Engine plug-in hybrid ตามมาในภายหลัง โดยทั้งหมดนี้ Volvo ได้ลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนได้ตั้งไว้ว่า รถยนต์ทุกรุ่นของตนจะต้องมีรุ่นที่พ่วงระบบไฟฟ้าภายในปี 2025

 

ที่มา: Volvo


อ่านข่าว Volvo XC90 รุ่นปรับอุปกรณ์ ปรับหน้าตาเล็กน้อย เพิ่มรหัส B ได้ที่ >> http://www.headlightmag.com/news-volvo-xc90-model-year-2020-launched/

Volvo XC90 รุ่นปรับอุปกรณ์ ปรับหน้าตาเล็กน้อย เพิ่มรหัส B ประหยัดเชื้อเพลิงอีก 15%