Volkswagen เป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่มียอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยมีบริษัทรถยนต์รายใหม่จากจีน เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทั้งในจีนเองและตลาดอื่น ประกอบกับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าลดลงในตลาดใหญ่ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ จนยอดขายสะสมของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยปีละ 50,000 คันหลังปี 2019 ทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ไม่น่าจะดีขึ้นในเร็ววันนี้ นำไปสู่มาตรการลดรายจ่าย
Volkswagen จึงประกาศความเป็นไปได้ที่บริษัท อาจต้องปลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง, ปิดโรงงานในเยอรมนีอย่างน้อย 2 – 3 แห่ง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 87 ปี และอาจจำเป็นต้องลดเงินเดือนพนักงานที่เหลืออยู่ 10% นำไปสู่การเจรจาระหว่างตัวแทนบริษัท และตัวแทนสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีอย่าง IG Metall Union ซึ่งมีสมาชิกกว่า 120,000 คน มาหาทางออกร่วมกัน โดยเริ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว
มีรายงานว่าสหภาพเสนอทางออกด้วยการงดรับโบนัสในปี 2025 – 2026 พร้อมกับลดชั่วโมงการทำงานในช่วงเวลาที่มีการผลิตสูงเกินไป ซึ่งจะช่วยให้ Volkswagen ลดค่าใช้จ่ายไปได้ราว 1,500 ล้านยูโร (ราว 54,000 ล้านบาท) แต่บริษัทฯ ปฏิเสธพร้อมระบุว่านั่นเป็นเพียงการแก้ไขระยะสั้น นำไปสู่การรวมตัวประท้วงของพนักงาน โดยสหภาพระบุว่า ในขั้นตอนการเจรจาทั้งสามรอบนั้นร้อนแรงไม่ต่างกับไฟไหม้ แต่แทนที่บอร์ดบริหารจะดับไฟ กลับนำน้ำมันมาสาดเข้ากองไฟแทน VW จึงจะได้เห็นการประท้วงที่รุนแรงสุดเท่าที่เคยมีมา
การประท้วงเริ่มขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2024 โดยมีพนักงาน Volkswagen ราว 98,650 คน จากโรงงาน 9 แห่งรวมถึงสำนักงานใหญ่ ร่วมประท้วงด้วยการหยุดทำงานเป็นเวลา 2 ชั่วโมงในกะเช้า และออกจากที่ทำงานก่อนกำหนดในกะบ่าย ซึ่งนั่นมีผลกระทบต่อเป้าหมายผลิตรถยนต์ในแต่ละวัน ทั้งยังมีการประกาศว่าในช่วงต้นสัปดาห์หน้าจะมีการ walkout จากที่ทำงานอีกครั้ง โดยเวลาหยุดปฏิบัติงานจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต้องติดตามต่อกันว่าการเจรจารอบถัดไประหว่าง Volkswagen และสหภาพแรงงานในวันที่ 9 ธันวาคม จะมีผลอย่างไร