ก่อนหน้านี้ VinFast รถยนต์สัญชาติเวียดนาม เคยถูกแฉโดยอดีตพนักงานนาม Hazar Denli ว่าบริษัทเร่งรัดขั้นตอนการพัฒนาชิ้นส่วนแชสซีส์และช่วงล่างมากเกินไป จนส่งผลต่อความปลอดภัย ซึ่งเขาเองเคยรับผิดชอบโครงการดังกล่าว และพยายามเสนอกับบริษัทให้แก้ไขการออกแบบแล้ว เพราะในระหว่างการทดสอบนั้นชิ้นส่วนได้หลุดออกจากรถเป็นชิ้นๆ จนทำให้เสียการควบคุม แต่บริษัทไม่ฟังความเห็นเขา เขาจึงลาออกแล้วมาทำงานกับ Jaguar Land Rover แทน ล่าสุด อดีตพนักงานคนนี้กลับมาแฉวีรกรรมใหม่ของ VinFast อีกครั้ง
Denli เปิดเผยข้อมูลผ่าน The Times ว่า VinFast เคยล็อคประตูที่ทำงานชนิดข้ามคืน เพื่อบังคับไม่ให้พนักงานกลับบ้านและทำ OT ต่อในช่วงเร่งการผลิต โดยสื่อแห่งนี้ระบุว่ายังได้แหล่งข่าวมาอีกแห่งที่ให้การตรงกัน ทั้งยังอ้างถึงเอกสารภายในที่ได้จากพนักงานของ Tata ซึ่งยืนยันว่าการกักขังดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ส่วนสาเหตุที่ Tata มาเกี่ยวข้องนั้น เพราะ VinFast ว่าจ้างให้ Tata Technologies Limited บริษัทในเครือ Tata Group มารับผิดชอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์
The Times ได้รายงานอ้างอิงจากเนื้อหาในเอกสารภายในว่า “การกักขังพนักงานของ VinFast เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของ COVID ซึ่งพนักงานถูกบังคับให้นอนที่โรงงานเลย และมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้” ทั้งยังมีการแฉของ Denli ด้วยว่า “ทางโรงงงานรู้ว่าอดีตพนักงานคนนี้ ไม่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ทราบประเด็นดังกล่าว แต่เขามีเพื่อนสนิทกับหนึ่งในคนที่รู้เรื่องนี้ ทางบริษัทจึงทราบว่าเขาได้ความลับนี้จากไหน”
แหล่งข่าวอีกแห่งยังเปิดเผยกับ The Times ด้วยว่าเหตุการณ์ล็อคประตูขังพนักงานไว้ในโรงงาน ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียวที่ VinFast แต่เคยมีเหตุการณ์บังคับให้พนักงานที่กำลังเดินทางไปสนามบิน ทิ้งตั๋วเครื่องบินและเดินทางกลับมาทำงานต่อทันทีหลายครั้งด้วย โดยนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามปกติตามวัฒนธรรม ทั้งนี้ เมื่อสื่อสอบถามความเห็นไปยัง Tata และ VinFast ทั้งคู่ต่างปฏิเสธความเห็นในประเด็นนี้ จึงยังต้องเป็นสิ่งที่พิสูจน์ต่อไปว่าจริงเท็จประการใด
ที่มา: carscoops, cleantechnica