ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายอื่นประสบปัญหากำไรถดถอย ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 Toyota กลับสวนตลาดด้วยการทำผลกำไร สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าไปมาก โดยบริษัทเชื่อว่าเป็นผลมาจากการลงทุนจำนวนมากด้านการตลาด ส่งผลให้ยอดขายในหลายตลาดเติบโตขึ้น

Toyota ได้ประกาศผลกำไรประกอบการ ช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2019 ว่าสูงขึ้นจากเดิมมูลค่า 59,200 ล้านเยน (ราว 17,000 ล้านบาท) และบริษัทวิเคราะห์ว่าเป็นผลจากการปรับปรุงการตลาดใหม่ ด้วยการลงทุนเพิ่มอีก 80,000 ล้านเยน (ราว 23,000 ล้านบาท) ส่วนสถานการณ์ยอดขาย มีดังต่อไปนี้

  • ยอดขายสะสม ทั่วโลก 2,303,495 คัน สูงขึ้น 67,364 คัน
  • ยอดขายสะสม ในญี่ปุ่น 555,291 คัน สูงขึ้น 44,952 คัน
  • ยอดขายสะสม ในอเมริกาเหนือ 743,576 คัน ลดลง 2,559 คัน
  • ยอดขายสะสม ในยุโรป 273,964 คัน สูงขึ้น 21,325 คัน
  • ยอดขายสะสม ในเอเชีย 398,240 คัน สูงขึ้น 4,011 คัน
  • ยอดขายสะสม ในตลาดอื่น (รวมอเมริกากลาง – ใต้, โอเชียเนีย, แอฟริกา, และตะวันออกกลาง) 332,424 คัน ลดลง 365 คัน

สำหรับการประเมินยอดขายสะสมทั่วโลกของ Toyota ตลอดปีงบประมาณ 2019 ซึ่งจะจบลงในวันที่ 31 มีนาคม 2020 บริษัทยังใช้ตัวเลขเดิมที่ 9,000,000 คัน โดยประเมินตามสภาพตลาด ด้านการประเมินผลกำไรประกอบการในปีเดียวกัน Kenta Kon ผู้ดำรงตำแหน่ง TMC Operating Officer ได้ให้ความเห็นว่า

บริษัทได้รับผลกระทบด้านลบ จากการเปลี่ยนแปลงของ FOREX คิดเป็นมูลค่า 180,000 ล้านเยน (ราว 51,000 ล้านบาท) ดังนั้นเพื่อเป็นการลดผลกระทบ บริษัทจึงมีนโยบายลดต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายคิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านเยน (ราว 7,000 ล้านบาท)

 

ที่มา: Toyota, car.watch.impress