Toyota Mark X ที่ออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น พึ่งออกรุ่น minorchange มา
ไม่ได้มีเพียงการปรับปรุงรูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย
Toyota Sense P ในทุกรุ่นย่อยที่มีอยู่ 5 รุ่น พร้อมกับเพิ่มจุดยึดต่างๆรอบตัวถัง เพื่อ
ให้การตอบสนองของพวงมาลัย, การขับขี่ และ ความสะดวกสบายเป็นไปในทางที่ดี
ขึ้นอีกด้วย
ภายนอกมาพร้อมกับกันชนหน้า, ไฟหน้า และ กระจังหน้าทรงใหม่ สำหรับไฟหน้าแบบ
LED DRL จะสงวนไว้ให้รุ่น 350RDS, 250RDS และ 250S/ 250S Four เท่านั้น และ
ยังมีล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมสปอยเลอร์หลังที่ติดตั้งมาให้ในรุ่น 350RDS และ 250RDS
ด้วย สำหรับรุ่นที่เหลือจะได้ล้อขนาด 16 นิ้ว แทน สีสันตัวถังมีให้เลือก 6 สีด้วยกัน
ประกอบไปด้วย White Pearl Crystal Shine, Silver Metallic, Black, Precious Black
Pearl, Dark Red Mica Metallic และ True Blue Mica Metallic
การตกแต่งภายในของรุ่น 350RDS และ 250RDS จะใช้วัสดุ Alcantara สีดำ- แดง มา
พร้อมกับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ตกแต่งคอลโซล และแผงประตู นอกจากนี้ยังมีเบาะคู่หน้า
ปรับไฟฟ้า, แป้นเหยียบอลูมิเนียม และกันเตะประตูสแตนเลสอีกด้วย ส่วนรุ่นอื่นๆ จะ
ลดหลั่นอุปกรณ์ลงไปตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนไปใช้เบาะผ้า, ตัดเบาะไฟฟ้าฝั่ง
คนนั่งออก และ ใช้พวงมาลัยพร้อมหัวเกียร์ยูรีเทน
ขุมพลังมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน มีรายละเอียดดังนี้
– 4GR-FSE เครื่องยนต์เบนซิน V6 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า (PS) ที่ 6,400
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 24.77 กก-ม. (243 นิวตันเมตร) ที่ 4,800 รอบ/นาที ทำงาน
ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Super ECT 6 จังหวะ เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ
– 2GR-FSE เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 318 แรงม้า (PS) ที่ 6,400
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 38.74 กก-ม. (380 นิวตันเมตร) ที่ 4,800 รอบ/นาที ทำงาน
ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Super ECT 6 จังหวะ มีแต่ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และมีให้เลือก
ในรุ่น 350RDS เท่านั้น
อุปกรณ์ความปลอดภัย ที่ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่นอย่าง Toyota Safety Sense P
ประกอบไปด้วย ระบบเตือนก่อนการชนหน้าทำงานด้วยเรดาร์ และกล้อง สามารถตรวจจับ
ได้ทั้งรถยนต์และคน พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติที่ทำงานในช่วงความเร็ว 10-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมี ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งคอยปรับความเร็วตามรถยนต์
คันหน้า และ ระบบเตือนออกนอกช่องจราจร หากคนขับเปลี่ยนเลนโดยที่ไม่ให้สัญญาณ
ไฟเลี้ยว พร้อมดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลนเดิม หากระบบส่งสัญญาณเตือนแล้ว แต่คนขับ
ไม่ตอบสนอง
Toyota Mark X ออกจำหน่ายที่ญี่ปุ่นแล้วตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน เป็นต้นไป แบ่ง
ออกเป็น 5 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งราคาเริ่มต้นของแต่ละรุ่นย่อย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(Four หมายถึงรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ)
– 250G F Package / 250G Four F Package
ราคาเริ่มต้นที่ 2,656,800 เยน หรือราว 849,000 บาท
– 250G / 250G Four
ราคาเริ่มต้นที่ 2,916,000 เยน หรือราว 932,000 บาท
– 250F / 250F Four
ราคาเริ่มต้นที่ 3,207,600 เยน หรือราว 1,026,000 บาท
– 250RDS
ราคาเริ่มต้นที่ 3,434,400 เยน หรือราว 1,098,000 บาท
– 350RDS
ราคาเริ่มต้นที่ 3,850,200 เยน หรือราว 1,231,000 บาท