ชาวยุโรปกำลังจะได้สัมผัส Toyota Camry Hybrid Minorchange ในเร็ววันนี้ โดยทางการได้เปิดเผยข้อมูลมาแล้ว ซึ่งเน้นไปที่การเพิ่มอุปกรณ์และปรับภายนอกเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นยอดขายหนึ่งในรถยนต์ยอดนิยมทั่วโลก การันตีด้วยยอดขายรวม 700,000 คันต่อปี จากมากกว่า 100 ประเทศ
ภายนอกของ Toyota Camry Hybrid Minorchange เวอร์ชั่นยุโรป เปลี่ยนกันชนหน้าใหม่ให้มุมมองจากด้านหน้าดูเตี้ยและกว้างกว่าเดิม เสริมด้วยช่องลมกันชนที่ปรับใหม่เช่นกัน มีให้เลือกทั้งสีดำ Black และ สีเทา Dark Grey ส่วนคิ้วประตูมีทั้งแบบโครเมี่ยม Chrome และ สีเงิน Silver ล้อเป็นลายก้าน V คู่แบบใหม่ มีขนาด 17 – 18 นิ้ว ปิดท้ายด้วยการปรับสีในโคมไฟท้าย และ เพิ่มสีตัวถังใหม่กับสีเทา Deep Metal Grey
ห้องโดยสารเพิ่มหน้าจอสัมผัสติดตั้งกลางคอลโซล ขนาด 9 นิ้ว สไตล์ tablet ที่สูงกว่าเดิมเพื่อให้ใช้งานง่ายและยังมีปุ่มกดมาให้ด้วย รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนการตกแต่งมีทั้งสีเบจที่พัฒนาขึ้นใหม่ และ สีดำ ซึ่งอย่างหลังมีให้เลือกทั้งหนังและผ้า นอกจากนั้น ยังเปลี่ยนวัสดุตกแต่งแดชบอร์ด, คอลโซลและแผงประตูใหม่เป็น ลายไม้ Black Engineered Wood และ โลหะ Titanium Line Pattern
ขุมพลังไม่มีการระบุว่า Toyota Camry Hybrid Minorchange เวอร์ชั่นยุโรป ได้มีการปรับเปลี่ยนส่วนใดไปบ้าง โดยลงรายละเอียดแค่ว่าเป็น เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 218 แรงม้า ส่วนระบบความปลอดภัย มีการปรับแต่ง Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นล่าสุด ดังนี้
- Pre-Collision System (PCS) ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เพิ่มความสามารถในการตรวจจับการชน รถยนต์จากเลนตรงกันข้าม
- Emergency Steering Assist (ESA) and Intersection Turn Assistance ระบบหน่วงพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนและลดความเร็ว หากตรวจจับรถยนต์หรือคนเดินถนน อยู่ในทิศทางที่ผู้ขับขี่กำลังจะเลี้ยวข้ามแยกไป
- Full Range Adaptive Cruise Control (ACC) ระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติ แปรผันตามรถยนต์คันหน้า สามารถทำงานร่วมกับ Road Sign Assist (RSA) ระบบจดจำป้ายจราจร เพื่อลดความเร็วตามกฎหมายกำหนดในแต่ละพื้นที่
- Lane Trace Assist (LTA) ระบบรักษาระยะให้รถยนต์อยู่กึ่งกลางช่องจราจร เพิ่มความสามารถในการหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าเลน เมื่อพบความเสี่ยง รวมถึงช่วยประคองพวงมาลัย ยามที่แซงรถบรรทุกแล้วมีลมปะทะ
Toyota Camry Hybrid Minorchange เวอร์ชั่นยุโรป เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2020 และจะพร้อมออกจำหน่ายในยุโรปตะวันตก ภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ หรือ ราวเดือนกันยายน – ธันวาคม 2020
ที่มา : Toyota