Toyota Aygo ที่บริษัทวางตำแหน่งให้เป็น Mini SUV มีรุ่นพิเศษตามมาในชื่อ Toyota Aygo X Air Edition ซึ่งไม่ได้มีแค่การตกแต่งพิเศษเท่านั้น เพราะมีหลังคาถลกไฟฟ้าเต็มความยาวหลังคาให้มาด้วย ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย สีน้ำเงิน Juniper Blue, สีแดง Chilli Red, สีทอง Ginger Beige และ สีเขียวเข้ม Cardamom Green ทุกคันตัดสีตัวถังด้วยชายล่างและสีดำ พร้อมแซมสีชายล่างและก้านล้อด้วย
ห้องโดยสารของ Toyota Aygo X Air Edition มาในโทนสีดำพร้อมตัดสีเบาะ, แผงประตู, พวงมาลัย, ด้ามเกียร์ และคอลโซล เครื่องเสียงเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มี Toyota Safety Sense ซึ่งมีทั้งระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชน, ระบบหน่วงพวงมาลัยหลบในกรณีฉุกเฉิน และระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติ แปรผันตามรถยนต์คันหน้า
ขุมพลังของ Toyota Aygo X Air Edition คงเดิมกับเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ ขนาด 998 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 71 x 84 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.8 : 1 กำลังสูงสุด 72 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
Toyota Aygo X Air Edition สั่งซื้อได้ผ่านช่องทาง online เท่านั้นผ่าน www.toyota.co.uk เบื้องต้นมีการระบุว่าผลิตจำนวนจำกัด แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจำกัดที่ช่วงเวลาหรือจำนวน สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นในอังกฤษ โดยที่ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 19,045 ปอนด์ (ราว 808,000 บาท) สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 20,225 ปอนด์ (ราว 858,000 บาท) สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
ที่มา: Toyota