เป็นความจริงอันโหดร้ายที่ต้องยอมรับว่า มูลค่ารถยนต์ใหม่ได้ลดลงทันทีที่ถูกขับออกจากศูนย์ แต่จะลดลงมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น iSeeCars จึงได้ทำการรวบรวมสถิติราคารถยนต์มือสองอายุ 1 ปีในสหรัฐฯ เพื่อดูว่ารุ่นใดราคาแข็งและรุ่นใดราคาตกบ้าง จนได้ 10 อันดับรุ่นรถยนต์ที่มีมูลค่าลดลง มากที่สุดและน้อยที่สุด ส่วนจะมีรุ่นใดบ้าง รายละเอียดอยู่ข้างล่างนี้แล้ว
10 อันดับรุ่นรถยนต์ ที่มีมูลค่าลดลงมากที่สุด ในสหรัฐฯ
- อันดับ 1. Mercedes-Benz EQS ราคาตกจากตอนป้ายแดง 47.8%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 65,000 USD (ราว 2,373,000 บาท) - อันดับ 2. Nissan Leaf ราคาตกจากตอนป้ายแดง 45.7%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15,000 USD (ราว 547,000 บาท) - อันดับ 3. Jaguar F-Pace ราคาตกจากตอนป้ายแดง 35.4%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 28,000 USD (ราว 1,022,000 บาท) - อันดับ 4. Alfa Romeo Giulia ราคาตกจากตอนป้ายแดง 33.4%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 USD (ราว 584,000 บาท) - อันดับ 5. Kia EV6 ราคาตกจากตอนป้ายแดง 33.3%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 18,000 USD (ราว 657,000 บาท)
- อันดับ 6. Hyundai IONIQ 5 ราคาตกจากตอนป้ายแดง 32.9%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 USD (ราว 584,000 บาท) - อันดับ 7. Volkswagen ID.4 ราคาตกจากตอนป้ายแดง 32.9%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15,000 USD (ราว 547,000 บาท) - อันดับ 8. Alfa Romeo Stelvio ราคาตกจากตอนป้ายแดง 32.3%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 17,000 USD (ราว 620,000 บาท) - อันดับ 9. Nissan Murano ราคาตกจากตอนป้ายแดง 32.0%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,000 USD (ราว 474,000 บาท) - อันดับ 10. Mercedes-Benz S-Class ราคาตกจากตอนป้ายแดง 31.5%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 45,000 USD (ราว 1,643,000 บาท)
10 อันดับรุ่นรถยนต์ ที่มีมูลค่าลดลงน้อยที่สุด ในสหรัฐฯ
- อันดับ 1. Range Rover ราคาสูงขึ้นจากตอนป้ายแดง 2.8%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,000 USD (ราว 146,000 บาท) - อันดับ 2. Kia Rio ราคาตกจากตอนป้ายแดง 0.1%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 21 USD (ราว 700 บาท) - อันดับ 3. Mercedes-Benz G-Class ราคาตกจากตอนป้ายแดง 2.3%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,500 USD (ราว 164,000 บาท) - อันดับ 4. Ford Maverick ราคาตกจากตอนป้ายแดง 4.1%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,300 USD (ราว 47,000 บาท) - อันดับ 5. Ford Maverick Hybrid ราคาตกจากตอนป้ายแดง 4.4%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,400 USD (ราว 51,000 บาท)
- อันดับ 6. Toyota Sequoia Hybrid ราคาตกจากตอนป้ายแดง 4.6%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,700 USD (ราว 135,000 บาท) - อันดับ 7. Toyota Corolla Hybrid ราคาตกจากตอนป้ายแดง 5.0%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,300 USD (ราว 47,000 บาท) - อันดับ 8. Toyota RAV4 Hybrid ราคาตกจากตอนป้ายแดง 5.3%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,100 USD (ราว 76,000 บาท) - อันดับ 9. Honda Civic ราคาตกจากตอนป้ายแดง 5.5%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,500 USD (ราว 54,000 บาท) - อันดับ 10. Kia Sportage Hybrid ราคาตกจากตอนป้ายแดง 5.9%
หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 USD (ราว 73,000 บาท)
ที่มา: motor1