ภาครัฐท้องถิ่นของโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ได้ตั้งเป้าไว้ว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ใหม่ที่ออกจำหน่ายที่นั่น จะต้องมีสัดส่วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 50% ภายในปี 2030 แต่ในปีงบประมาณ 2021 กลับมีแท่นชาร์จ EV ติดตั้งเพิ่มในโตเกียวเพียง 393 แห่งเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายยอดขาย EV ภาครัฐจึงตั้งเป้าเพิ่มจำนวนแท่นชาร์จจากตัวเลขดังกล่าวอีก 150 เท่า หรือเพิ่มจำนวนให้ได้ 60,000 แห่ง ภายในปี 2030
เนื่องจาก 70% ของประชากรในโตเกียวพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ ภาครัฐท้องถิ่นจึงออกกฎว่าอพาร์ทเมนท์ที่สร้างขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จะต้องมีจุดชาร์จ EV คิดเป็น 20% ของจำนวนที่จอดรถยนต์ทั้งหมด ถือเป็นเมืองแรกของญี่ปุ่นที่มีข้อบังคับดังกล่าว นอกจากนั้น ภาครัฐยังเตรียมสนับสนุนค่าใช้จ่ายติดตั้งที่ชาร์จตั้งแต่ปีงบประมาณ 2023 เพราะมีการของบประมาณส่วนกลางไปแล้ว 4,000 ล้านเยน (ราว 1,000 ล้านบาท)
ภาครัฐหวังว่างบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนจุดชาร์จ EV ในโตเกียวเป็น 3,100 แห่ง ภายในปี 2023 – 2024 ทั้งยังมีการลงรายละเอียดว่า งบสนับสนุนค่าติดตั้งที่ชาร์จ EV ในโตเกียวจะเพิ่มจากเดิม 810,000 เยน (ราว 208,000 บาท) เป็นสูงสุด 1,710,000 เยน (ราว 440,000 บาท) ในกรณีที่การติดตั้งที่ชาร์จ มีขึ้นในอาคารจอดรถแบบมีกลไก
นโยบายสนับสนุนที่ชาร์จ EV จากภาครัฐของโตเกียว สอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลกลางญี่ปุ่น ที่มีแผนการขยายการสนับสนุนมายังปี 2023 ครอบคลุมถึงเงินอุดหนุนค่าที่ชาร์จสูงสุด 50% หรือ 350,000 เยน (ราว 90,000 บาท) พร้อมงบสนับสนุนค่าติดตั้งสูงสุด 1,350,000 เยน (ราว 348,000 บาท) เมื่อนำมารวมกับเงินสนับสนุนของภาครัฐโตเกียว นั่นหมายความว่าบริษัทอสังหาแทบจะไม่ต้องควักเงิน จ่ายค่าติดตั้งที่ชาร์จ EV เลย
ที่มา: asia.nikkei, carscoops