ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า Tesla และผู้ก่อตั้งอย่าง Elon Musk ได้ตกเป็นจำเลยในคดีความที่ผู้ถือหุ้น Tesla รวมตัวกันฟ้องร้องในสหรัฐฯ ฐานโฆษณาเกินจริงเรื่องคุณสมบัติและประสิทธิภาพ ของระบบขับขี่อัตโนมัติ Autopilot ซึ่งตกเป็นที่สงสัยว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ที่มีผู้เสียชีวิตหลายเคสหรือไม่ โดยทุกครั้งที่มีข่าวเชิงลบ ผู้ถือหุ้นล้วนได้รับผลกระทบไปด้วย

กลุ่มผู้ถือหุ้น Tesla นำโดย Thomas Lamontagne ยื่นฟ้อง Tesla รวมถึงผู้บริหารอย่าง Elon Musk ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO, Zachary Kirkhorn ผู้ดำรงตำแหน่ง CFO และ Deepak Ahuja อดีตผู้ดำรงตำแหน่ง CFO ฐานก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมากแก่ผู้ถือหุ้น เนื่องจากพฤติกรรมของจำเลยได้ส่งผลเสียต่อมูลค่าหุ้น ในช่วงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2019 – 17 กุมภาพันธ์ 2023 โดยกลุ่มโจทก์ได้เรียกร้องค่าเสียหายที่ไม่เปิดเผยตัวเลข

 

ในคำฟ้องยังลงรายละเอียดว่า มีความเสี่ยงสูงที่เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของ Tesla จะนำไปสู่อุบัติเหตุจนมีผู้บาดเจ็บ นอกจากนั้น ยังมีการยกกรณีตัวอย่างของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งหน่วยงานด้านความปลอดภัยบนถนนของสหรัฐฯ หรือ NHTSA ออกคำสั่งให้ Tesla เรียกคืนรถยนต์ที่มี Full Self-Driving beta จำนวน 362,000 คัน เข้ารับการแก้ไข เพราะอาจไม่ปลอดภัยเวลาขับเข้าทางแยก

Tesla ได้เรียกรถยนต์กลับมาตรวจสอบจริง แม้จะแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการวิเคราะห์ของ NHTSA แต่ผู้ถือหุ้นได้รับผลกระทบไปแล้ว เพราะในวันดังกล่าวมูลค่าหุ้นของ Tesla ได้ลดลงไป 5.7% อย่างไรก็ตาม ในวันที่มีการยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2023 มูลค่าของ Tesla ตอนปิดตลาดกลับสูงขึ้น 5.5% ไปอยู่ที่ 207.63 USD (ราว 7,100 บาท) แต่มูลค่าก็ยังต่ำกว่าตอนอยู่จุดสูงสุด ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ถึงครึ่งนึง

 

ที่มา: cnn, paultan