แม้ว่าวันเปิดตัว Mercedes-Benz S-Class Facelift กำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่ยังมีข่าวคราว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรือธงของค่ายดาวสามแฉก ออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุดเป็น Teaser จาก
ผู้ผลิตเอง ที่เผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงคร่าวๆ ของงานออกแบบ และยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ
อุปกรณ์ต่างๆ ในอัครยานยนต์คันนี้ด้วย
ดังที่เรารายงานไปในช่วงต้นเดือนถึง Spyshot ของ Mercedes-Benz S-Class Facelift
ว่าภายนอกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกจากไฟเลี้ยวแบบ Fibre-Optic 3 ชั้น
(ใน C-Class มี 1 ชั้น ส่วน E-Class จะมี 2 ชั้น) และกันชนหน้า-หลังแบบใหม่ นอกจากนี้
ทั้งรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล ต่างมีปลายท่อไอเสียที่รวมอยู่กับ
ชายล่างของกันชนหลัง
ภายในของ Mercedes-Benz S-Class Facelift มีภาพออกมาแล้วก่อนหน้านี้ เผยให้เห็น
หน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว บนแผงแดชบอร์ดเชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่ง
คล้ายคลึงกับของ Mercedes-Benz E-Class นอกจากนี้ ยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย
ทั้งในด้านหน้าและด้านหลังของห้องโดยสาร
ขุมพลังของ Mercedes-Benz S-Class Facelift คาดว่าจะมีเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงให้เลือก
อีกครั้งกับรหัส M256 ขนาด 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้า 48 Volt ที่มาพร้อมกับ
Integrated Starter Alternator และ Electric Booster Compressor ส่วนตัวเลือกอื่นๆ
มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ รหัส M176, เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ทั้ง
4 – 6 สูบ และ Plug In Hybrid ที่วิ่งได้ด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นระยะทาง 50 กิโลเมตร
ระบบขับขี่อัตโนมัติเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Mercedes-Benz S-Class Facelift ซึ่งมีทั้ง Remote
Parking ทำหน้าที่ถอยจอดอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องมีคนขับบนรถ, Car-to-X Communication
ระบบแจ้งเตือนผู้ใช้รถรายอื่นๆ ว่ามีเหตุอันตรายข้างหน้า และระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ โดย
อ้างอิงจากป้ายจำกัดความเร็วในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ Mercedes-Benz S-Class Facelift ยังมีระบบขับขี่อัตโนมัติเมื่อรถติด ซึ่งระบบจะ
หยุดรถจนถึงจุดหยุดนิ่ง และออกตัวได้ด้วยตัวเองหากจอดติดไม่เกิน 30 วินาที, Active Distance
Assist ทำหน้าที่ปรับระดับความเร็วของ Cruise Control ที่ตั้งไว้ให้เหมาะสมกับสภาพถนนข้างหน้า
โดยใช้กล้องและเรดาร์ตรวจสอบว่า มีโค้งหรือวงเวียนอยู่ข้างหน้าหรือไม่ Full Autonomy Level 2
Mercedes-Benz S-Class Facelift ตัวถัง 4 ประตู จะมีให้เลือกครบทั้ง 4 รูปแบบเช่นเคย ประกอบ
ไปด้วยรุ่นฐานล้อปกติ, รุ่นฐานล้อยาว, Maybach และ Pullman สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างเป็นทางการรอชมในวันเปิดตัวที่จะมีในงาน Shanghai Motor Show ที่จะมีขึ้นในวันที่
19 เมษายนนี้
ที่มา: paultan, carmagazine