Suzuki Wagon R รุ่นล่าสุด ได้เปิดตัวไปแล้วที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา เพื่อสานต่อความสำเร็จ โดยที่รุ่นแรกได้เปิดตัวในเดือนกันยายน 1993 พร้อมสร้างสถิติ Back Order ข้ามปี ทั้งยังมียอดขายแซง Daihatsu ในตลาด K Car ไปได้ จนปัจจุบันที่ Suzuki Wagon R มียอดขายสะสมมากกว่า 4.4 ล้านคัน

Suzuki Wagon R รุ่นล่าสุดมีหน้าตาให้เลือก 3 รูปแบบ ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยที่แต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

FA & Hybrid FX

ภายนอกออกแบบเรียบง่าย เน้นทรงสี่เหลี่ยมทั้งกันชนหน้า และไฟหน้า กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว LED มาด้วย ส่วนล้อเป็นเหล็กพร้อมฝาตบขนาด 14 นิ้ว สีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 10 เฉดสี ประกอบไปด้วย สีเงิน Silky Silver Metallic, สีน้ำเงิน Brisk Blue Metallic, สีเหลือง Sunny Yellow Metallic, สีส้ม Reflective Orange Metallic, สีแดง Pure Red, สีฟ้า Fiz Blue Pearl Metallic, สีขาว Superior White, สีน้ำตาล Urban Brown Pearl Metallic, สีดำ Blue Ish Black Pearl และสีขาว Pure White Pearl

ภายในของรุ่น FA จะมีให้เลือกแต่โทนสีเบจเท่านั้น มาพร้อมกับพวงมาลัย 3 ก้านและไม่มีวิทยุมาให้ แต่ในรุ่น Hybrid FX จะมาพร้อมกับวิทยุ พร้อมทางเลือกโทนสีภายในห้องโดยสารระหว่างสีเบจ และสีดำ ส่วนพวงมาลัยมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงมาให้

Hybrid FZ

ภายนอกมาพร้อมกับไฟหน้า LED 2 ชั้นแยกส่วนกันชัดเจน โดยที่โคมไฟด้านบนจะเป็นโทนสีฟ้าด้วย ส่วนกระจังหน้าเป็นแบบ 2 ชั้น พ่นสีดำ Black Pearl ล้อเป็นล้ออลูมิเนียมขนาด 14 นิ้ว ปิดท้ายด้วยสปอยเลอร์รอบคัน

สีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 8 เฉดสี ประกอบไปด้วย สีน้ำเงิน Brisk Blue Metallic, สีน้ำตาล Brave Khaki Pearl, สีส้ม Reflective Orange Metallic, สีแดง Pure Red, สีม่วง Violet Pearl Metallic, สีเทา Steel Silver Metallic, สีดำ Blue Ish Black Pearl และสีขาว Pure White Pearl สำหรับภายในมาในโทนสีดำ พร้อมตกแต่งแผงแดชบอร์ดด้วยเส้นสีน้ำเงินเข้ม ปิดท้ายด้วยกรอบแอร์ตกแต่งสีเงิน Silver Satin

Stingray

ภายนอกมาพร้อมกับไฟหน้า LED แนวตั้งยาว พร้อมกระจังหน้า 3 ชั้นขนาดใหญ่ กันชนเปลี่ยนใหม่พร้อมเสริมไฟตัดหมอก และชุดแต่งรอบคัน ทั้งยังมีมือเปิดโครเมี่ยม ปิดท้ายด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 15 นิ้ว ส่วนภายในมาในโทนสีดำ ตัดด้วยการตกแต่งสีแดง

สีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 6 เฉดสี ประกอบไปด้วย สีน้ำตาล Brave Khaki Pearl, สีเทา Steel Silver Metallic, สีม่วง Moonlight Violet Pearl Metallic, สีแดง Pure Red, สีดำ Blue Ish Black Pearl และสีขาว Pure White Pearl

ในส่วนของขุมพลัง Suzuki Wagon R มีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน

– เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 660 ซีซี. รหัส R06A ให้กำลังสูงสุด 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 6.1 กก-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับอัตราบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 26.8 และ 25.4 กิโลเมตรต่อลิตร ตามลำดับ

– ขุมพลัง Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์บล็อก R06A เช่นเดิม 3 สูบ 660 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 6.1 กก-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 3.1 แรงม้า (PS) ที่ 1,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 5.1 กก-ม. (50 นิวตันเมตร) ที่ 100 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ซึ่งขับเคลื่อนรถยนต์จากจุดหยุดนิ่งได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวหากออกตัวโดยไม่แตะคันเร่ง เป็นเวลานานสูงสุด 10 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 13 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แต่ถ้าหากมีการเหยียบคันเร่งด้วยระหว่างการขับขี่ ระบบ Hybrid จะคอยเสริมแรงแทน สำหรับระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ CVT เช่นกัน มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนอัตราบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 33.4 และ 30.4 กิโลเมตรต่อลิตร ตามลำดับ

– ขุมพลัง Turbo Hybrid ที่ผสมผสานเครื่องยนต์บล็อก R06A 3 สูบ 660 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 6.1 กก-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT บวกเข้ากับระบบ Hybrid ที่กล่าวมาข้างต้น และตบท้ายด้วยการเพิ่มด้วยระบบอัดอากาศ (เทอร์โบ) ให้กำลังสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.0 กก-ม. (98 นิวตันเมตร) ที่ 3,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับอัตราบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 28.4 และ 27.0 กิโลเมตรต่อลิตร ตามลำดับ

ในส่วนของงานวิศวกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ ทางผู้ผลิตระบุว่า Suzuki Wagon R นำโครงสร้างตัวถังแบบใหม่มาใช้ซึ่งมีชื่อว่า HEARTECH ซึ่งมีความแข็งแรงมากว่าเดิม ทั้งยังน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 20 กิโลกรัม นอกจากนี้ การขับขี่ยังได้รับการปรับปรุงด้วยช่วงล่างแบบใหม่

อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้ใน Suzuki Wagon R มีทั้ง ระบบเบรกอัตโนมัติ Dual Sensor Brake Support ทำงานด้วยกล้องและเรดาร์ ทั้งยังตรวจจับคนเดินถนนได้ด้วย นอกจากนี้ยังมี ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ High Beam Assist ระบบ ซึ่งทั้งสองอุปกรณ์นี้ล้วนได้รับการติดตั้งในรถยนต์เล็กของค่ายเป็นครั้งแรก

Suzuki Wagon R ออกจำหน่ายแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 12 รุ่นย่อย และมีรายละเอียดราคาคร่าวๆ ดังนี้

– รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน (ตัวถัง FA และ Stingray)
ราคา 1,078,920 – 1,414,800 เยน (ราว 328,000 – 431,000 บาท)

– รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid (ตัวถัง Hybrid และ Stingray)
ราคา 1,177,200 – 1,609,200 เยน (ราว 358,000 – 490,000 บาท)

– รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Turbo Hybrid (ตัวถัง Stingray)
ราคา 1,658,880 – 1,779,840 เยน (ราว 505,000 – 542,000 บาท)

ที่มา: suzuki.co.jp