ไปชมรถยนต์ขนาดเล็กที่สงวนไว้ให้ชาวญี่ปุ่นเท่านั้นกับ Suzuki Solio และ Solio Bandit ซึ่งพึ่งเปิดตัวรุ่น Minorchange ไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยความเปลี่ยนแปลงนั้นมีทั้งเรื่องของหน้าตา และ อุปกรณ์ต่างๆ ส่วนขุมพลังเบนซิน มีให้เลือก 3 แบบ ส่วนรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้
Solio
- ยาว x กว้าง x สูง : 3,710 x 1,625 x 1,745 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,480 มิลลิเมตร
Solio Bandit
- ยาว x กว้าง x สูง : 3,720 x 1,625 x 1,745 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,480 มิลลิเมตร
รายละเอียดความเปลี่ยนแปลงงานออกแบบ
Suzuki Solio
- ตกแต่งช่องลมกันชนหน้าด้วยวัสดุโครเมี่ยม
- เปลี่ยนดีไซน์ มือเปิดประตูหลัง
- เปลี่ยนลายล้อ ขนาด 15 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น G)
- เปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะ และแผงประตู
- เปลี่ยนมาตรวัด (ยกเว้นรุ่น G)
- สีตัวถัง มีให้เลือก 9 สี รวมถึงสีใหม่ อย่างสีแดง Clarinet Red Metallic และ สีเหลือง Rush Yellow Metallic
Suzuki Solio Bandit
- เปลี่ยนดีไซน์ กันชนหน้า, กระจังหน้า และ มือเปิดประตูหลัง
- เปลี่ยนลายล้อ ขนาด 15 นิ้ว
- เปลี่ยนไปใช้ ไฟตัดหมอก LED
- เปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะ และแผงประตู
- เปลี่ยนวัสดุแดชบอร์ด
- สีตัวถัง มีให้เลือก 8 สี รวมถึงสีใหม่ อย่างสีแดง Clarinet Red Metallic และ สีเหลือง Rush Yellow Metallic พร้อมทางเลือกสีทูโทน หลังคาดำ จับคู่กับสีตัวถังอีก 5 สี รวมทั้งหมดเป็น 13 สี
รายละเอียดอุปกรณ์อำนวยความสะดวก (เฉพาะรุ่น Solio HYBRID SX, HYBRID SZ และ Solio Bandit HYBRID SV)
- เพิ่มเบาะผู้โดยสารปรับอุณหภูมิได้
- ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ 2 รูปแบบ ระหว่าง standard mode และ eco mode
- Paddle Shift
รายละเอียดอุปกรณ์ความปลอดภัย Suzuki Safety Support
- ระบบเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับคนเดินถนน ในเวลากลางคืนได้ Dual Camera Brake Support
- ระบบเบรกอัตโนมัติระหว่างถอยหลัง Backward Brake Support
- ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
- ระบบปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
- กล้องมองภาพรอบคัน 3D view
ขุมพลังของ Suzuki Solio และ Solio Bandit มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้
เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร (มีให้เลือกเฉพาะรุ่น Solio)
รหัส K12C แบบ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,242 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร Mild Hybrid
รหัส K12C แบบ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,242 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT
ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้ารหัส WA05A ให้กำลังสูงสุด 3.1 แรงม้า (PS) ที่ 1,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร ที่ 100 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 3 Ah ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร Hybrid
รหัส K12C แบบ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,242 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT
ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้ารหัส PB05A ให้กำลังสูงสุด 13.6 แรงม้า (PS) ที่ 3,185 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 30 นิวตันเมตร ที่ 1,000 – 3,185 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 4.4 Ah ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
Suzuki Solio และ Solio Bandit Minorchange จะออกจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ตั้งเป้ายอดขายเดือนละ 3,500 คัน ส่วนรายละเอียดราคา ที่ยังไม่รวมภาษีของประเทศไทย มีดังนี้
- Suzuki Solio ราคา 1,459,080 – 2,179,440 เยน (ราว 437,000 – 653,000 บาท)
- Solio Bandit ราคา 1,944,000 – 2,168,640 เยน (ราว 582,000 – 650,000 บาท)
ที่มา : Suzuki