อีกหนึ่งบริการชื่อดังของ Tesla คือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Supercharger ที่ตอนนี้เปิดให้บริการมากกว่า 5,000 สาขาทั่วโลก โดยแต่ละสถานีไม่ได้มีแท่นชาร์จเพียงแท่นเดียวเท่านั้น จำนวนแท่นชาร์จจึงทวีคูณเข้าไปอีก และเมื่อนับดูจะพบว่า Supercharger มีแท่นชาร์จให้บริการไม่น้อยกว่า 45,000 แท่น ตามข้อมูลเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะขยายเพิ่มจนครบ 50,000 แท่น ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
เมื่อแยกลงไปตามพื้นที่จะพบว่า สถานีชาร์จ Supercharger ของ Tesla มีสาขามากกว่า 1,000 แห่งในยุโรป, ราว 2,000 แห่งในอเมริกาเหนือ และ มากกว่า 1,500 แห่งในจีน ทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าจะขยายสาขาในจีนเป็น 2,000 แห่งในอีกไม่นานนี้ เมื่อลงมาดูตัวเลขด้านพลังงาน พบว่าเครือข่าย Supercharger ให้พลังงานขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าในอเมริกาเหนือ เป็นระยะทาง 500 ล้านไมล์ หรือ 800 ล้านกิโลเมตร ต่อเดือนเลย
ตัวเลขดังกล่าวสามารถคำนวณกลับเป็นหน่วยพลังงานราว 120 – 160 gigawatt-hours (GWh) ต่อเดือน และอย่าลืมว่าในผู้ผลิตรถยนต์ค่ายอื่นในสหรัฐฯ เริ่มประกาศเปลี่ยนเบ้ารับหัวชาร์จ EV ให้เป็นแบบเดียวกับของ Tesla ตามมาตรฐาน North American Charging Standard (NACS) ในรถยนต์ที่ผลิตหลังปี 2025 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น ผู้ผลิตค่ายอื่นยังเริ่มการผลิต adaptor สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเดิม ซึ่งใช้เบ้ารับหัวชาร์จ EV แบบ CCS1 เพื่อให้ EV เหล่านี้สามารถเข้ามาใช้บริการสถานีชาร์จของ Tesla ได้ในปี 2024 นั่นหมายความว่าอัตราการเติบโตของเครือข่าย Supercharger จะพุ่งทะยานยิ่งกว่านี้อีกในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการที่ไม่ได้จำกัดอยู่กับแวดวงผู้ใช้งานของ Tesla เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
ที่มา: insideevs